โจเซ่ อัลโด้

โจเซ่ อัลโด้ ผู้ออกมาท้าทายทีเจ ดิลลาชอร์ ในวงการศิลปะการต่อสู้

นับว่าทาง โจเซ่ อัลโด้ ได้ออกมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่า ตัวเขายังเป็นนักสู้ที่มีความสามารถมากที่สุดในวงการศิลปะการต่อสู้คนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในรุ่นใดก็ตาม ซึ่งหลังจากที่ตัวเขาสามารถเอาชนะมาร์ล่อน ชิโต้ เวร่ามาได้แล้วนั้น เขาก็ได้ออกมาท้าทายต่อทีเจ ดิลลาชอร์ทันที เนื่องจากตัวเขายังคงต้องการชิงแชมป์โลกอีกสักครั้งหนึ่งอยู่นั่นเอง โดยก่อนหน้านี้ทางโจเซ่ได้มีโอกาสเจอกับปีเตอร์ แยนมาแล้วในการชิงแชมป์รุ่นแบนตัมเวทแต่กลับแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย                ในคู่เอกร่วมรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 นั้นทาง โจเซ่ อัลโด้ สามารถสู้กับมาร์ล่อน ชิโต้ เวร่าได้จนครบ 3 ยก โดยตัวเขาสามารถออกอาวุธจากลูกเตะและเล่นงานที่ลำตัวได้มากกว่าจนสามารถเอาชนะคะแนนไปได้ด้วยสกอร์ 29 ต่อ 28 ไปอย่างเอกฉันท์ ซึ่งทำให้ไฟท์นี้ถือเป็นการชนะครั้งแรกในรุ่นน้ำหนัก 135 ปอนด์อีกด้วย โดยทางผู้ชนะได้แสดงความเห็นหลังจบไฟท์ไว้ว่า ตัวเขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาชนะครั้งนี้ให้ได้ ซึ่งมันสำคัญต่ออาชีพของเขาอย่างมากเลยทีเดียว โจเซ่ อัลโด้ สามารถสู้กับมาร์ล่อน ชิโต้ เวร่าได้จนครบ 3 ยก                ช่วงยกแรกนั้นทางโจเซ่ อัลโด้ได้ถูกทางชิโต้ เวร่าพยายามเล่นเล่นงานเร็วก่อน แต่ทว่าเชิงของโจเซ่ยังดีอยู่ ก่อนที่จะสามารถเล่นงานที่กลางลำตัวได้จบครบยกที่หนึ่ง เมื่อทางเวร่าพยาพยามจับจุดการต่อสู้กับฝ่ายแรกในช่วงยกต่อมาได้แล้วก็ตาม แต่ทว่าการโจมตีของโจเซ่ก็ทำให้ทางตัวเขาไม่สามารถทำอะไรได้ รวมถึงยังมีการถูกล็อคตัวและเล่นงาน แม้ว่าจะยังไม่ได้ถูกน็อคก็ตาม ซึ่งก่อนหน้าจะขึ้นชกนี้ทางโจเซ่เองก็ได้ออกมยืนยันว่าตัวเขาจะต้องไต่อันดับเข้าไปชิงแชมป์ยูเอฟวีให้ได้ ซึ่งเป้าหมายคนต่อไปคือทางทีเจ […]

Continue Reading
เบลลาทอร์

เบลลาทอร์ ที่เลือกเซ็นสัญญาดาริน่า แมดซุคเข้ามาสู่สมาคม

ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าแปลกใจของ เบลลาทอร์ อยู่ไม่น้อย เมื่อเมื่อพวกเขาได้เลือกเซ็นสัญญาทางดาริน่า แมดซุคเข้ามาสู่สมาคม โดยตัวของดาริน่านั้นได้เป็นที่รู้จักมาจากไฟท์ที่เป็นไวรัลดังทั่งสังคมออนไลน์ อีกทั้งยังมีคนออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์การต่อสู้ของสมาคมอื่น หลังจากที่เธอที่มีน้ำหนักตัวเพียง 139 ปอนด์ได้ขึ้นชกกับผู้ชายที่มีน้ำหนักถึง 529 ปอนด์เลยทีเดียว รวมถึงตัวเธอเองก็เป็นผู้ชนะในไฟท์นี้ด้วย แต่ผู้คนกลับพุ่งเป้าไปที่ความไม่เหมาะสมของคู่ชกมากกว่า                 จากแหล่งข่าววงในของทางเว็บไซต์เอ็มเอ็มเอไฟท์ติ้งนั้นได้ยืนยันว่า ทางสมาคม เบลลาทอร์ ได้ต้องการตัวนักสู้หญิงคนนี้ไปร่วมงานด้วย หลังจากที่ดาริน่า แมดซุคสร้างชื่อผ่านรายการชกที่ประเทศรัสเซียที่ชื่อว่า อาวร์บิสสิเนส ที่เธอได้ชกกับกรีกอรี่ คริสต์ยาคอฟที่มีน้ำหนักมากกว่า 500 ปอนด์ โดยในการขึ้นชกนั้นทางฝ่ายชายเริ่มได้เปรียบมากกว่าจากการล็อคคอและพยายามโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่กลับโดนฝ่ายชกเข้าเป้าไปที่ใบหน้าจนร่วงลงไปแล้วโดนรวบชกจนไม่สามารถทำอะไรได้ พร้อมกับแพ้ไป สมาคม เบลลาทอร์ ได้ต้องการตัวนักสู้หญิงคนนี้ไปร่วมงาน                แม้ว่าทางเบลลาทอร์นั้นจะไม่มีความเห็นใดๆ กับไฟท์นี้ก็ตาม แต่ทางกรรมการอย่างมาร์ค กอดดาร์ดก็ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกว่านี่คือการชกที่ตัวเขารับไม่ได้และเป็นเหมือนความพินาศของวงการในปี 2020 ทั้งที่ทางวงการพยายามที่จะนำเสนอการต่อสู้ที่จริงจังก็ตามที ซึ่งทางกรรมการอย่างกอดดาร์ดก็มักจะแสดงความเห็นในแมตช์ต่างๆ ของวงการอยู่เป็นประจำทั้งไฟท์ระหว่างโคลบี้ โควิงตันที่เจอกับเจ้าของแชมป์เวลเตอร์เวทคนปัจจุบันอย่างคามารุ อุสมานมาแล้วเช่นกัน                คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าทำไมทางเบลลาทอร์จึงเลือกเซ็นสัญญานักสู้ที่ไม่ได้แสดงฝีมือมากนักอย่างดาริน่า แมดซุค แต่ทว่าการที่เธอมีคนรู้จักไปทั่วโลกนั้นก็อาจจะดีพอที่ทำให้นักสู้คนนี้ต่อยอดและมีโอกาสขึ้นชกในไฟท์ที่จริงจังมากกว่าการชกกับผู้ชายที่น้ำหนักมากกว่าเกือบ 400 ปอนด์นั่นเอง ติดตามข่าวกีฬามากมายได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
ยูเอฟซี

ยูเอฟซี ที่ตั้งข้อกำหนดการเดินทางของนักสู้มายังสนามเพื่อขึ้นชก

นับว่าเป็นการตั้งข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัยของ ยูเอฟซี เมื่อพวกเขาได้ตั้งเงื่อนไขให้กับนักกีฬาที่จะต้องเดินทางมายังสนามเพื่อขึ้นชกนั้นว่าสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อมาถึงเมืองลาสเวกัสแล้ว ซึ่งเหตุผลก็มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดจนทำให้นักสู้หลายคนอาจเสี่ยงจะเป็นพาหะนำโรคได้นั่นเอง โดยการเงื่อนไขนั้นทางสมาคมจะแจ้งว่าเหล่านักกีฬาผ่านอีเมลต่างๆ โดยที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ในชื่อว่า อเล็กซ์ สคาฟฟิดิได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดในจดหมายนี้อีกด้วย                ในข้อความที่สมาคม ยูเอฟซี ได้ชี้แจงไว้ได้บอกว่า เพื่อทำให้เกิดความั่นใจต่อการตรวจหาเชื้อที่สมาคมได้จัดไว้นั้น นักกีฬาและทีมงานทุกคนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางผ่านวิธีการใดๆ ยกเว้นการเดินทางที่ทางสมาคมได้จัดไว้ให้นับตั้งแต่ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนขึ้นชก ซึ่งรวมถึงยานพาหนะส่วนตัวของนักกีฬา ของคนรู้จักหรือจะเป็นบริการแชร์ไรดิ่งอย่างอูเบอร์กับลิฟท์อีกด้วย โดยนโยบายนี้จะถูกบังคับใช้กับนักกีฬากับทีมงานทุกคนที่อยู่ในเมืองลาสเวกัส รวมถึงคนที่อยู่ในเมืองอื่นใกล้เคียงที่เตรียมขึ้นชกภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนสู้จริงนั่นเอง เพื่อความปลอดภัยของ ยูเอฟซี เมื่อพวกเขาได้ตั้งเงื่อนไขให้กับนักกีฬา                นอกจากนี้ทางสมาคมยูเอฟซียังได้มีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกว่า ทางทีมงานกับนักสู้ทุกคนนั้นยังไม่สามารถเดินทางออกจากโรงแรมที่ทางสมาคมได้จัดไว้ให้ หากไม่ได้รับการอนุญาตผ่านฝ่ายจัดรายการ ซึ่งรวมถึงหลังจากขึ้นชกไปแล้วอีกด้วย หากคนที่เดินทางออกไปนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าพักเลยทีเดียว โดยหากมีผู้เล่นคนไหนต้องการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ นั้นก็จะต้องติดต่อผ่านสมาคมก่อนเช่นกันเพื่อไม่ให้มีใครต้องบังเอิญไปติดเชื้อโควิดก่อนจะเข้ามาในค่ายโดยไม่คาดคิด                นับว่าสมาคมยูเอฟซีก็พยายามจะหาทางปลอดภัยที่สุดเพื่อจัดการแข่งขันต่อไป รวมถึงไม่เสี่ยงที่จะให้มีนักกีฬาติดเชื้อโควิดจนอาจส่งผลถึงแมตช์ต่างๆ ที่ประกาศออกไปแล้ว จนเรียกได้ว่านโยบายเพื่อความปลอดภัยของพวกเขาถูกออกแบบมาอย่างดีแล้ว แม้ว่านักสู้บางคนจะออกมาวิจารณ์ว่า สมาคมอาจทำเกินไปและทำให้เหล่านักสู้ไม่สามารถไปที่ใดได้เลยนั่นเอง ติดตามข่าวกีฬาต่างประเทศอื่น ๆ และ ข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading