แมนนี่ ปาเกียว

แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกดังชาวฟิลิปินส์ โดยเขาได้ห่างหายจากการชกมวยสากลไปกว่า 2 ปีเต็ม

หลังจากการหายตัวไปจากวงการมวยสากลอาชีพของ แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกดังชาวฟิลิปินส์ โดยเขาได้ห่างหายจากการชกมวยสากลไปกว่า 2 ปีเต็มและหันหน้าเข้าสู่การเมืองท้องถิ่น แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีข่าวหลุดออกมาว่า ปาเกียวได้พยายามที่จะกลับมาชกอีกครั้ง โดยการชกครั้งนี้เป็นการแอบเจรจากันอย่างลับ ๆ ข่าวกีฬาต่างประเทศ กับการต่อสู้ที่จะกลับมาแบบโด่งดังด้วยการท้าชกกับยอดมวยแห่งยุคในรุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท อย่าง ควอร์ฟอร์ด นักชกชาวอเมริกันที่ยังไม่เคยแพ้ใครเลยใน 37 ไฟล์หลังสุด และยังเป็นการเอาชนะน็อคถึง 28 ครั้ง ก่อนที่ต่อมาข่าวมวยสากลที่ได้ออกมาว่า ทั้งคู่มีแพลนที่จะชกกันในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามคงต้องรอทางสมาคมออกมาประกาศยืนยันอีกครั้งหนึ่ง การกลับมาของ แมนนี่ ปาเกียว จะยิ่งใหญ่อีกครั้งหรือดับวูบ             แม้ว่า 2 ปีเต็มที่หายไปจากเวทีการแข่งขัน แต่ แมนนี่ ปาเกียว ก็ยังคงฝึกซ้อมร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ทว่า การกลับโดยท้าทายกับนักชกที่เจนจัดในสังเวียนตอนนี้จะสามารถทำผลงานได้ดีหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่น่าจับตามองของวงการข่าว มวยสากล เพราะหากเขาสามารถเอาชนะได้นี่อาจเป็นการตอกย้ำว่าเขาคือที่สุดในรุ่นแม้จะร้างเวทีไปนาน แต่หากกลับมาไม่สำเร็จนี่อาจเป็นการดับอนาคตของตนเองในกีฬามวยสากลเลยก็เป็นได้ เพราะก่อนหน้านี่คู่ชกหลายคนของเขาเคยออกมาเปิดเผยว่า ปาเกียวคือนักชกหมัดหนักคนหนึ่งแต่มันก็ยังดูมีอะไรที่แปลกไป ทำให้แฟนต่างสงสัยว่าเขามีความสารารถจริง ๆ คือแอบโกงกันแน่ อีกทั้ง ควอร์ฟอร์ด ยังสบปรมาทเขาด้วยว่าหมัดของปาเกียวนั้นเบาดุจปุยนุ่นไม่อาจทำอันตรายต่อเขาได้                ทั้งคู่ต่างออกมายืนยันว่าการชกนั้นย่อมตกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน […]

Continue Reading
แอนเดอสัน ซิลวา

แอนเดอสัน ซิลวา จากแชมป์ไร้พ่ายสู่ชายที่ผู้โชคร้ายของวงการมวยยูเอฟซี

หากพูดถึงตำนานของวงการมวยยูเอฟซี หลายคนก็คงต้องคุ้นหน้ากับชายที่ชื่อว่า แอนเดอสัน ซิลวา กันมาบ้างแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวเคยเป็นแชมป์มิดเดิ้ลเวทของสมาคมมาเป็นระยะเวลานาน แต่ทว่าหลังจากที่เขาเป็นแชมป์ผู้ไร้พ่ายมานานจนเกินไป ก็ทำให้ซิลวาเริ่มประมาทคู่ต่อสู้จนต้องเสียแชมป์ที่เคยคาดกันว่า เขาจะไม่มีวันเสียจนถึงเวลาเกษียณตัวเอง ไปจนถึงอาการบาดเจ็บและขาหักกับไฟท์ระหว่างคริส วีดเดอร์ที่ทำให้เขาสูญเสียตัวตนและไม่กลับมาเป็นคนเดิมอีกเลย                ในวันที่ แอนเดอสัน ซิลวา อยู่บนจุดสูงสุดของสมาคมยูเอฟซีก็คงหนีไม่พ้นปี 2006 ที่เขาสามารถเอาชนะริช แฟรงคลินมาได้และกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นมิดเดิ้ลเวทคนใหม่ของสมาคม ก่อนที่รูปแบบการชกของเขาจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ใช้ความเร็วในการโจมตีคู่ต่อสู้ กลับเปลี่ยนเป็นการเลือกที่จะหลบคู่แข่งแทนในช่วงเวลาที่เขาเชื่อว่าทำคะแนนเหนือคู่ต่อสู้อยู่จนทำให้ซิลวามักจะเอาชนะคะแนนได้เสมอและป้องกันแชมป์ไปได้ แม้ว่าเจ้าของสมาคมอย่างดาน่า ไวท์จะไม่ได้พอใจนักชกชาวบราซิลนี้นัก เนื่องจากสู้ได้ไม่สมศักดิ์ศรีของแชมป์นั่นเอง แต่ทว่าวันที่ แอนเดอสัน ซิลวา ต้องเสียแชมป์ยูเอฟซีก็มาถึง เมื่อเขาได้สู้กับคริส วีดเดอร์ เพื่อจะส่งท้ายอาชีพของเขา เจ้าตัวกลับเลือกที่จะยั่วผู้ท้าชิงในยกสอง ทว่าครั้งนี้เขาพลาดและโดนอัดจนกรรมการยุติการชกพร้อมกับเสียแชมป์ไปได้ทันที หลังจากนั้นไม่นาน ทางซิลวาก็กลับมาขอท้าชิงอีกครั้งในปลายปี 2013 แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่โชคร้ายยิ่งกว่าเก่า เมื่อเขาพยายามจะเตะเข้าไปที่ขาของวีดเดอร์ แต่โดนเจ้าของแชมป์ยกขาขึ้นมากันไว้ ส่งผลให้ซิลวาขาหักเป็นสองท่อนทันที แล้วกรรมการต้องสั่งยุติการชกอีกครั้ง                แม้ว่าแอนเดอสัน ซิลวาจะรักษาอาการบาดเจ็บไปไม่นานอย่างที่คนอื่นคาดไว้ แต่ทว่าชีวิตใน ยูเอฟซี หลังจากวันที่เขาขาหักนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นหลังมือ เพราะมักจะเกิดปัญหาทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ การใช้สารกระตุ้นหรือไม่ก็แพ้ต่อนักชกคนอื่น ๆ อยู่เสมอ จนทำให้ในปี 2020 นั้นเขาก็ได้ถูกยกเลิกสัญญาออกจากค่ายดังไปในที่สุด […]

Continue Reading
มาร์ลอน โมเรส

มาร์ลอน โมเรส ที่ต้องการท้าทายตัวเองมากกว่าอยู่เฉย ๆ ในการขึ้นชก

อาจเป็นเพราะทาง มาร์ลอน โมเรส ได้ขึ้นชกกับนักสู้ในรุ่นแบนตัมเวทมาตลอดสามปีนับตั้งแต่ปี 2017 ที่ตัวเขาได้เข้ามาสู้ในสมาคมยูเอฟซี ซึ่งเขาได้มองว่าการต่อสู้ครั้งที่เก้าในสมาคมนี้น่าจะช่วยให้เขาเจอกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอาชีพเขาเลยทีเดียว โดยย้อนไปในอดีตนั้นทางมาร์ลอนได้เจอกับแชมป์ของรุ่นมาก่อนแล้ว แต่ทว่าเขากลับแพ้ไป ก่อนที่จะกลับมามีโอกาสได้สู้กันนักชกคนอื่นพร้อมกับเอาชนะมาได้แล้ว แต่ทว่ายังไม่มีโอกาสกลับไปแก้มืออีกครั้งเลยนับตั้งแต่นั้น                ในการที่ มาร์ลอน โมเรส ซึ่งเป็นอดีตแชมป์ดับเบิ้ลเอสโอเอฟได้ท้าชิงแชมป์เจอกับเฮนรี่ เซจูโด้ในปี 2019 แต่ทว่าเจ้าตัวกลับแพ้ไป ก่อนที่ต่อมาจะได้สู้กับโจเซ่ อัลโด้และสามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนแบบไม่เป็นเอกฉันท์ แต่ทว่าทางอัลโด้กลับมีโอกาสได้ขึ้นไปท้าชิงแชมป์แทนเขาในช่วงปลายปี จนกระทั่งตัวเขาต้องพักการชกไปอย่างยาวนานด้วยภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งเจ้าตัวต้องรอจนถึงเดือนตุลาคมที่จะกลับมาสู่สังเวียนอีกครั้ง แต่กลับต้องแพ้น็อคเอาท์ให้กับคอรี่ แซนด์ฮาเกน มาร์ลอน โมเรส ซึ่งเป็นอดีตแชมป์ดับเบิ้ลเอสโอเอฟได้ท้าชิงแชมป์เจอกับเฮนรี่ เซจู                เมื่อมาร์ลอน โมเรสหรือฉายาเมจิกกำลังต้องการชัยชนะจากรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 และมีคิวต้องเจอกับร็อบ ฟอนต์ พร้อมยอมรับว่าตัวเขามีความกดดันที่จะต้องขึ้นชกในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะมาร์ลอนยังท้าทายตัวเองอยู่ตลอดและมาที่นี่เพื่อชัยชนะอีกด้วย โดยตัวเขากระหายชัยชนะอย่างมาก หลังจากที่ไฟท์ล่าสุดต้องแพ้มาได้ทำให้เขายิ่งต้องการจะสู้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ต้องพยายามท้าทายตัวเองให้เป็นคนที่เก่งกว่าเดิมในทุกๆ วัน หากตัวเขาต้องแพ้ไปในไฟท์ที่แล้ว แต่ไฟท์ข้างหน้าเขาหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น                แม้ว่าทางมาร์ลอน โมเรสจะมีความพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชนะในไฟท์ที่เจอกับร็อบ ฟอนต์ในรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 แต่ทว่าสุด้ทายเจ้าตัวก็ต้องแพ้ให้กับคู่ชกมวยไปตั้งแต่ยกแรก หลังจากที่โดนอัพเปอร์คัทเข้าไป ก่อนที่จะร่วงไปพร้อมกับโดนซ้ำจนกรรมการต้องมายุติการชกทันที ติดตามเรื่องราวของกีฬาอีกมากมายได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
ไซม่อน โกเลคกี

ไซม่อน โกเลคกี ที่เตรียมจะขึ้นชกในรายการเคเอสดับเบิ้ลยู

น่าจะเป็นโอกาสอันดีของทาง ไซม่อน โกเลคกี ที่จะได้ขึ้นชกในรายการเคเอสดับเบิ้ลยูครั้งที่ 58 ในช่วงวันที่ 30 มกราคมปี 2021 ซึ่งจะเป็นคู่เอกร่วมกับการชิงแชมป์ฟีเธอร์เวทอีกด้วย โดยทางไซม่อนเคยเป็นถึงแชมป์โลกยกน้ำหนักมาก่อน รวมถึงเคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิคมาแล้วเช่นกัน ซึ่งการขึ้นชกของเขาครั้งนี้จะได้เจอกับมาร์ติน ซาวาดาที่จะสู้กันในประเทศโปแลนด์จากการยืนยันของเจ้าหน้าที่ในสมาคมชื่อดังจากโปแลนด์และทวีปยุโรปอีกด้วย                ด้าน ไซม่อน โกเลคกี เองนั้นได้เริ่มขึ้นสู่วงการนักสู้ศิลปะป้องกันตัวนับตั้งแต่ตัวเขาได้ประกาศลาออกจากวงการยกน้ำหนักที่ตัวเขาเคยคว้าแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งการเปลี่ยนมาเป็นนักสู้แล้วนั้นตัวเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้มากถึง 8 ครั้งและพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยการเอาชนะในสมาคมเคเอสดับเบิ้ลยูนั้นยังเป็นการจัดการคู่ต่อสู้ได้สองครั้งรวดผ่านการน็อคมาริอุส พัดเซียโนสกี อีกทั้งยังเอาชนะดาเมียน แจนิโคสกีได้อีกเช่นกันจากการขึ้นชกครั้งล่าสุดของทางไซม่อนกับวงการนี้ ไซม่อน โกเลคกี เองนั้นได้เริ่มขึ้นสู่วงการนักสู้ศิลปะป้องกันตัว                ซึ่งการชกครั้งต่อไปของทางไซม่อน โกเลคกีนั้นก็จะเป็นการเจอกับมาร์ติน ซาวาดาที่มีพี่ชายอย่างเดวิดที่ได้เซ็นสัญญากับทางยูเอฟซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังจะเป็นคู่เอกร่วมกับการชิงแชมป์ฟีเธอร์เวทของซาลาดีน พาร์เนสสีที่จะต้องป้องกันกับเดเนี่ยล ตอร์เรสนั่นเอง โดยสถิติไร้พ่ายของพาสเนสสีเองถือว่าเป็นหนึ่งในนักชกระดับสูงของทวีปยุโรปจากการเอาชระได้ 14 ไฟท์และเสมอเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้มาห้าครั้งรวดในสมาคมเดียวกัน ซึ่งสองครั้งล่าสุดเป้นการชิงแชมป์ฟีเธอร์เวทที่ตัวเองครองอยู่                นับว่าเป็นชีวิตที่สดใสไม่น้อยสำหรับทางไซม่อน โกเลคกีที่สามารถเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นนักยกน้ำหนักสู่นักชกศิลปะป้องกันตัว ซึ่งเจ้าตัวได้กลายเป็นคู่เอกร่วมในสมาคมเคเอสดับเบิ้ลยูที่นับว่าเป็นค่ายใหญ่ในทวีปยุโรป รวมถึงชัยชนะครั้งหน้าของเขาอาจจะมีโอกาสทำให้เจ้าตัวได้ชิงแชมป์หรือเป็นคู่เอกในอนาคตนั่นเอง ติดตามกีฬาต่าง ๆ มากมายได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
อัลวาเรส

อัลวาเรส สามารถเอาชนะคัลลัม สมิธไปได้ในการชิงแชมป์ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท

กลายเป็นคนที่โชว์ฟอร์มเก่งในตอนสุดท้ายไปได้ เมื่อทางเซา คาเนโล อัลวาเรส สามารถเอาชนะคัลลัม สมิธไปได้ในการชิงแชมป์ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวทประจำสมาคมดับเบิ้ลยูบีเอและสามารถคว้าแชมป์โลกไปได้ในที่สุด โดยทางนักชาชาวเม็กซิกันนั้นต้องปะทะฝีมือกับนักมวยชาวอังกฤษไปจนครบ 12 ยกและสามารถออกอาวุธได้มากกว่า ส่วนทางสมิธนั้นกลับไม่ได้สามารถทำอะไรตัวของคาเนโล่ได้เลย จนกระทั่งต้องมาตัดสินใจด้วยคะแนนจากกรรมการ ก่อนที่จะเป็นนักชกรุ่นพี่ที่สามารถทำได้ดีกว่านั่นเอง                หลังจากที่เซา คาเนโล่ อัลวาเรส สามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 119 ต่อ 109 จากกรรมการสองท่านกับ 117 ต่อ 111 จนทำให้ตัวเขาเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่งตัวนักชกคนนี้เองถือว่ามีสถิติการสู้ที่ดีมาก เมื่อพวกเขาได้พบเจอกับความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวตลอด 57 ไฟท์ ซึ่งทำให้เขาสามารถคว้าแชมป์จากสมาคมดับเบิ้ลยูบีเอกับดับเบิ้ลยูบีซีในรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวทหรือน้ำหนัก 168 ปอนด์ โดยทางอดีตแชมป์อย่างคัลลัม สมิธก็ออกมายอมรับคู่ต่อสู้ของเขาว่าทำได้ดีกว่า รวมถึงการชกที่ฉลาดของเขาจนทำให้ตัวสมิธเองไม่มีข้ออ้างใดๆ เลย อัลวาเรส สามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 119 ต่อ 109                แม้ว่าทางคัลลัม สมิธจะมีข้อได้เปรียบเมื่อต้องขึ้นชกกับคาเนโล่อัลวาเรสด้วยความสูงของเขาที่มากกว่า รวมถึงช่วงชกอีกด้วย แต่ทว่าการชกของนักมวยชาวเม็กซิกันนั้นได้ใช้การยืนและการเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์มากกว่าจนทำให้ทางสมิธไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนกระทั่งทางพี่เลี้ยงของเจ้าของตำแหน่งต้องคอยกระตุ้นลูกทีมของเขา แต่ทว่าทางคาเนโล่ก็ยังสามารถแสดงผลงานของตัวเองได้ดีกว่าในยก 7 ที่เขาสามารถชกกลางลำตัวกับอัพเปอร์คัทได้อีกด้วย                หลังจากที่คาเนโล่อัลวาเรสสามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวทนั้นทำให้เจ้าตัวได้รักษาสถิติด้วยการพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวตลอดอาชีพของตัวเขาในช่วงเวลานานถึง 15 ปีเลยทีเดียว  ซึ่งจากผลงานของเจ้าตัวแล้วนั้นดูเหมือนว่าตัวเขายังมีความกระหายที่จะเอาชนะและคว้าความสำเร็จอยู่จนถึงปัจจุบัน […]

Continue Reading
มิเชล พิเรร่า

มิเชล พิเรร่า ที่ไม่ได้สู้กับแอนโธนี่ เพททิสในรายการยูเอฟซีเวกัส

กลายเป็นความผิดหวังของ มิเชล พิเรร่า ไปเสียอย่างนั้น แม้ว่าตัวเขาจะมีโอกาสได้ขึ้นชกในรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 ก็ตาม ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ได้คิดว่าจะเจอกับคาโอส วิลเลี่ยมส์ แต่เป็นทางแอนโธนี่ เพททิสมากกว่า ซึ่งชื่อของฝ่ายหลังเคยเป็นถึงอดีตแชมป์ไลท์เวทมาก่อน แม้สุดท้ายแล้วเจ้าของฉายาโชว์ไทม์จะปฏิเสธไฟท์นี้ไป ก่อนที่จะมีคิวขึ้นชกในรายการเดียวกันเพื่อเจอกับอเลกซ์ โมโรโนแทน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวบอกว่ามีอาการบาดเจ็บก็ตาม                ในการสัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์เอ็มเอ็มเอไฟท์ติ้งนั้นทาง มิเชล พิเรร่า ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวนี้ว่า ตัวเขาผิดหวังกับทางแอนโธนี่ เพททิสอย่างมากเพราะทางฝ่ายนั้นได้บอกว่าตัวเองมีอาการบาดเจ็บที่หลังจนมสามารถขึ้นชกได้ ซึ่งตอนแรกมิเชลก็เข้าใจดี แต่ทว่าตอนนี้เพททิสกลับมีชื่ออยู่ในการขึ้นชกวันเดียวกลับเขาเสียอย่างนั้น แล้วทำไมเขาถึงไม่ได้สู้กันหรือเพียงเพราะทางเพททิสกลัวเขามากเกินไปหรือไม่ นอกจากนี้ตัวของมิเชลเองยังเกือบไม่ได้ขึ้นชกในเดือนธันวาคมเพราะว่าทางอีกฝ่ายให้คำตอบเขาช้าเกินไปอีกด้วย มิเชล พิเรร่า ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวนี้ว่า ตัวเขาผิดหวังกับทางแอนโธนี่ เพททิส                เมื่อทางทางแอนโธนี่ เพททิสไม่ยอมสู้กับเขา สิ่งที่มิเชล พิเรร่าคิดได้ก็คงมีเหตุผลเดียวเท่านั้นก็คือทางเพททิสกลัวที่จะเจอกับเขาและเลือกไปสู้กับคนอื่นแทน แล้วเขาก้รู้ดีกว่าในรุ่นไลท์เวทนี้มีคนมากมายที่กลัวในการชกมวยกับเขาแต่ทว่าตัวเขาเองก็จำเป็นจะต้องจัดการทุกคนที่ขวางหน้าเพื่อขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดเช่นกัน แต่ทว่าทางเพททิสเองก็ออกมาชี้แจงว่า ตัวเขามีแผนจะสู้กับคนอื่นในช่วงวันที่ 12 ธันวาคม แต่ทว่าเอ็ดเวิร์ดเกิดติดโควิดไปเสียก่อน จนทำให้เขาว่างมาสู้แล้ว แต่ในรายชื่อของนักสู้ทั้งห้าคนที่ดาน่า ไวท์เลือกมาไม่ได้มิเชลแล้ว เนื่องจากตัวเขามีไฟท์ในยูเอฟซีเวกัสไปก่อนแล้วนั่นเอง                แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่ได้สู้กันก็ตาม แต่ชื่อของมิเชล พิเรร่ากับแอนโธนี่ เพททิสก็ยังอยู่ในรุ่นน้ำหนักเดียวกัน ซึ่งการชนะของทั้งคู่ในรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 นั้นอาจพาให้สองฝ่ายเลิกปะทะคารมแล้วไปสู้กันบนเวทีแทนในอนาคตได้เช่นกัน […]

Continue Reading
จูเนียร์ ดอสซานโตส

จูเนียร์ ดอสซานโตส ที่คิดว่าตัวเองถูกโกงในรายการยูเอฟซีครั้งที่ 256

เรียกได้ว่าเป็นเหยื่อของการทำผิดกติกาก็ว่าได้ เมื่อทาง จูเนียร์ ดอสซานโตส ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ หลังจากจบไฟท์กับเซอริล เกนในรายการยูเอฟซีครั้งที่ 256 หลังจากที่อดีตแชมปืโลกเฮฟวี่เวทคนนี้ต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่สี่ติดต่อกันภายในระยะเวลาเพียง 18 เดือนเท่านั้น แต่ทว่าครั้งล่าสุดกลับเป็นประเด็นที่ทำให้เขาต้องการออกมาชี้แจงเพราะการฟันศอกของเกนไปที่ท้ายทอยของเขาได้ทำตัวกรรมการต้องสั่งยุติการชกทันที รวมถึงประเด็นที่ตัวเขาอาจต้องรีไทร์ในวัย 36 ปีอีกด้วย                เมื่อทาง จูเนียร์ ดอสซานโตส ได้พูดถึงไฟท์ที่ผ่านมานั้น ตัวเขาก็มองว่าตัวเองพลาดที่ไม่สมารถสู้ได้อย่างที่หวัง เพราะตัวเองมีความกดดันมากเกินไปจากเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง ซึ่งตัวเขาไม่ได้รู้สึกดุดันหรือบ้าเลือดมากเหมือนกับแต่ก่อน จนกระทั่งตัวเขาต้อมาเสียเปรียบในไฟท์นี้เข้าจนได้ โดยตัวเขาได้คิดไว้ก่อนแล้วว่าไฟท์ที่เจอกับเซอริล เกนจะต้องออกมาแบบนี้เนื่องจากรูปร่างของคู่แข่งและการโมตีที่เหมือนกับคนอื่นในรุ่น แต่ตัวเขากลับเปิดช่องว่างเองเสียอย่างนั้น การเจ็บตัวและพ่ายแพ้ของ จูเนียร์ ดอสซานโตส กลายเป็นเรื่องโชคร้าย                แต่ประเด็นสำคัญของไฟท์ระหว่างดอสซานโตสกับเกลนั้นคือจังหวะฟันศอกที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องผิดกติกา แต่ทว่ากรรมการไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งเจ้าตัวก็มองว่าทางเกนต้องการจะเล่นงานเขาด้วยหมัดปกติและมักกระแทกเข้าที่หูของเขา วึ่งมันไม่ได้ผิดกติกา แต่ทว่าท่อนแขนกับข้อศอกของเกลนั้นกระแทกกับท้ายทอยของเขาเต็มๆ จนทำให้เขาหมดสติไปไม่กี่วินาที แต่ทว่าตอนเขาได้สติกลับมาแล้วนั้น ทุกอย่างมันจบไปแล้ว ก่นอที่เขาจะได้มาดูภาพย้อนหลังว่า ตัวเองได้ถูกเล่นงานเข้าที่ศีรษะจริงๆ ซึ่งตัวเขาไม่ได้พยายามหันหลังให้แต่อย่างใด แต่ตัวเขายืนในท่านั้นอยู่ช่วงเวลาหนึ่งแล้วอีกด้วย                นับว่าการเจ็บตัวและพ่ายแพ้ของจูเนียร์ ดอสซานโตสกลายเป็นเรื่องโชคร้ายที่โดนท่าฟันศอกที่ปิดกติกาไปเสียอย่างนั้น โดยที่ตัวเขาก็พยายามยื่นเรื่องแจ้งเพื่อเปลี่ยนคำตัดสินใจไฟท์นี้ ส่วนอนาคตของเขากับยูเอฟซีนั้นก็เป็นเรื่องของดาน่า ไวท์ที่อาจจะยกเลิกสัญญาเมือ่ไหร่ก็ได้ แต่ตัวเขาจะยังไม่เลิกชกมวยจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน ติดตามเรื่องราวกีฬามากมายได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
แบรนดอน โมเรโน่

แบรนดอน โมเรโน่ ที่กล่าวหาแชมป์ว่าใช้ข้ออ้างในการป่วยเท่านั้น

แม้ว่าจะเป็นไฟท์ที่หลายคนยกให้ว่าดีที่สุดตลอดกาลของรุ่นก็ตาม แต่ทว่า แบรนดอน โมเรโน่ ได้ออกมาพูดถึงอาการป่วยของเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกฟลายเวทอย่างเดฟสัน ฟิเกวโด้ที่เจ้าตัวได้ออกมาพูดของขึ้นชกนั้นเป็นเรื่องที่เป็นเหมือนข้ออ้างเท่านั้น ซึ่งตัวของแบรนดอนเองไม่ได้ชอบวิธีการเปิดเผยต่อสื่อแบบนั้น โดยทางเดฟสันมีอาการอาหารเป็นพิษก่อนขึ้นชกสองวันเท่านั้น ก่อนที่จะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่หลายครั้งเพื่อที่จะกลับมาป้องกันแชมป์ของตัวเองให้ได้ในรายการยูเอฟซี 256 นั่นเอง                ทาง แบรนดอน โมเรโน่ ได้พูดหลังจากจบไฟท์ของเขาไว้ว่า สิ่งที่ทางเดฟสัน ฟิเกวโด้ได้พูดไว้นั้นมันคือข้ออ้างเท่านั้น เพราะมันเป็นเรื่องปกติมากเลยทีเดียว โดยตัวเขานั้นเคยต้องขึ้นชกทั้งที่ยังป่วยมาแล้วถึงสองครั้งและเขาก็เลือกที่จะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไปเพราะมันจะกลายเป็นข้ออ้างนั่นเอง รวมถึงตัวประธานสมาคมอย่างดาน่า ไวท์ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาบังคับให้เขาขึ้นชกอีกด้วยเพราะมันคือความรับผิดชอบของตัวเขาเองที่จะต้องขึ้นไปบนเวที อีกทั้งหากทางฟิเกวโด้ไม่ไหวจริงๆ ตัวเขาก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นชกเลยก็ได้เช่นกัน แบรนดอน โมเรโน่ ได้ออกมาพูดถึงอาการป่วยของเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกฟลายเวท                ตามสิ่งที่แบรนดอน โมเรโน่เข้าใจนั้น ตัวเขาคิดว่าทางแชมป์ฟลายเวทคงจะมีความรับผิดชอบที่จะต้องขึ้นไปบนเวทีเป็นคู่เอกนั้น โดยตัวเขาเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเช่นกัน นอกจากนี้ตัวของแบรนดอนยังมีอาการบาดเจ็บที่แขนด้วยเช่นกัน เพราะในยกที่หกนั้นตัวเขาเริ่มยกแขนซ้ายไม่ได้แล้ว ซึ่งตัวเขาพยายามจะฝืนเพื่อเข้าไปชกตามเดิม แต่ทว่าตัวเขากลับทำไม่ได้และจบด้วยความพ่ายแพ้ของเขา อีกทั้งผลตัดสินที่ตัวเขาแพ้ในยกห้าอีกด้วยและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นผลเสมอ พร้อมกับตัวเขาที่อดคว้าแชมป์หลายเวทมานั่นเอง                นับว่าทางแบรนดอน โมเรโน่ก็มีความคิดเห็นที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการขึ้นชกมวยครั้งนี้ แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่มีโอกาสคว้าแชมป์ฟลายเวทได้อย่างที่ต้องการ แต่ทว่าในอนาคตนั้นตัวเขาก็น่าจะมีโอกาสแก้มือกับเดฟสัน ฟิเกวโด้อีกครั้งอย่างแน่นอน หลังจากที่ไฟท์ของทั้งคู่ได้รับการยกย่องให้เป็นการชกที่ดีที่สุดนั่นเอง ติดตามข่าวกีฬามากมายได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
เบลลาทอร์

เบลลาทอร์ ที่เลือกเซ็นสัญญาดาริน่า แมดซุคเข้ามาสู่สมาคม

ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าแปลกใจของ เบลลาทอร์ อยู่ไม่น้อย เมื่อเมื่อพวกเขาได้เลือกเซ็นสัญญาทางดาริน่า แมดซุคเข้ามาสู่สมาคม โดยตัวของดาริน่านั้นได้เป็นที่รู้จักมาจากไฟท์ที่เป็นไวรัลดังทั่งสังคมออนไลน์ อีกทั้งยังมีคนออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์การต่อสู้ของสมาคมอื่น หลังจากที่เธอที่มีน้ำหนักตัวเพียง 139 ปอนด์ได้ขึ้นชกกับผู้ชายที่มีน้ำหนักถึง 529 ปอนด์เลยทีเดียว รวมถึงตัวเธอเองก็เป็นผู้ชนะในไฟท์นี้ด้วย แต่ผู้คนกลับพุ่งเป้าไปที่ความไม่เหมาะสมของคู่ชกมากกว่า                 จากแหล่งข่าววงในของทางเว็บไซต์เอ็มเอ็มเอไฟท์ติ้งนั้นได้ยืนยันว่า ทางสมาคม เบลลาทอร์ ได้ต้องการตัวนักสู้หญิงคนนี้ไปร่วมงานด้วย หลังจากที่ดาริน่า แมดซุคสร้างชื่อผ่านรายการชกที่ประเทศรัสเซียที่ชื่อว่า อาวร์บิสสิเนส ที่เธอได้ชกกับกรีกอรี่ คริสต์ยาคอฟที่มีน้ำหนักมากกว่า 500 ปอนด์ โดยในการขึ้นชกนั้นทางฝ่ายชายเริ่มได้เปรียบมากกว่าจากการล็อคคอและพยายามโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่กลับโดนฝ่ายชกเข้าเป้าไปที่ใบหน้าจนร่วงลงไปแล้วโดนรวบชกจนไม่สามารถทำอะไรได้ พร้อมกับแพ้ไป สมาคม เบลลาทอร์ ได้ต้องการตัวนักสู้หญิงคนนี้ไปร่วมงาน                แม้ว่าทางเบลลาทอร์นั้นจะไม่มีความเห็นใดๆ กับไฟท์นี้ก็ตาม แต่ทางกรรมการอย่างมาร์ค กอดดาร์ดก็ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกว่านี่คือการชกที่ตัวเขารับไม่ได้และเป็นเหมือนความพินาศของวงการในปี 2020 ทั้งที่ทางวงการพยายามที่จะนำเสนอการต่อสู้ที่จริงจังก็ตามที ซึ่งทางกรรมการอย่างกอดดาร์ดก็มักจะแสดงความเห็นในแมตช์ต่างๆ ของวงการอยู่เป็นประจำทั้งไฟท์ระหว่างโคลบี้ โควิงตันที่เจอกับเจ้าของแชมป์เวลเตอร์เวทคนปัจจุบันอย่างคามารุ อุสมานมาแล้วเช่นกัน                คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าทำไมทางเบลลาทอร์จึงเลือกเซ็นสัญญานักสู้ที่ไม่ได้แสดงฝีมือมากนักอย่างดาริน่า แมดซุค แต่ทว่าการที่เธอมีคนรู้จักไปทั่วโลกนั้นก็อาจจะดีพอที่ทำให้นักสู้คนนี้ต่อยอดและมีโอกาสขึ้นชกในไฟท์ที่จริงจังมากกว่าการชกกับผู้ชายที่น้ำหนักมากกว่าเกือบ 400 ปอนด์นั่นเอง ติดตามข่าวกีฬามากมายได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
คลาเรสซ่า ชิลด์

คลาเรสซ่า ชิลด์ กับสาเหตุที่ไม่ไปชกที่ยูเอฟซีแต่เลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน

ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดคาดไม่น้อย เมื่อทางนักชกอย่าง คลาเรสซ่า ชิลด์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองไม่ได้ต้องการไปขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวในสมาคมดังอย่างยูเอฟซีและเลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน ซึ่งอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิคนั้นได้รับการขนาดนามว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนตัวเองเลือกจะย้ายวงการมาสู้แบบศิลปะป้องกันตัวหรือเอ็มเอ็มเอแทน โดยเจ้าตัวมีเป้าหมายว่าจะเป็นสุดยอดนักกีฬาของทั้งสองวงการเลยทีเดียว                สิ่งที่ คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวนั้นจะเป็นลูกผสมระหว่างมวยปล้ำกับการโจมตีด้วยขาต่างๆ รวมถึงการจับทุ่ม ซึ่งตัวเธอนั้นก็เริ่มฝึกกับตำนานอย่างจอน โจนส์และฮอลลี่ โฮมส์อีกด้วย แม้ว่าตัวเธอจะยังคงใหม่กับวงการนี้ก็ตามและยังคงไม่มีแผนที่จะรีบเปิดตัวในการสู้ครั้งต่อไปของเธอด้วยการเจอกับนักแข่งที่เคยลงสนามมาแล้ว นอกจากนี้เธอยังได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุว่าทำไมตัวเองถึงเลือกไปสู้กับพีเอฟแอลแทนยูเอฟซีทั้งที่รู้จักกับประธานอย่างดาน่าไวท์อีกด้วย คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชก                ตามการสนทนาระหว่างคลาเรสซ่า ชิลด์กับดาน่า ไวท์นั้น ทางนักชกได้บอกว่าตัวประธานคนนี้ต้องการจะให้เธอสู้ครั้งเดียวบนเวทีแปดเหลี่ยมของเขา โดยที่จะให้สู้กับยอดฝีมือที่มีน้ำหนักเท่าเธอนั่นเอง แต่ทว่าทางนักชกกลับมองว่าตัวเธอต้องการจะฝึกฝนกับอาชีพนี้ให้นานมากพอที่จะขึ้นชก พร้อมกับพัฒนาฝีมือต่อไป ซึ่งหากดาน่าเสนอให้เธอฝึกฝนเป็นเวลานานหรือสองปีนั้นคงจะดีกับตัวเองเธอเองมากกว่า ส่วนในทางพีเอฟแอลนั้นได้เสนอให้เธอได้สู้พร้อมกับพัฒนาตัวเองไปตลอดฤดูกาลที่ทำให้เธอสนใจเลือกทางนี้มากกว่านั่นเอง                เรียกว่าทางนักชกอย่างคลาเรสซ่า ชิลด์น่าจะยังคงมีอนาคตในวงการศิลปะป้องกันตัวอีกมาก เนื่องจากชื่อชั้นของเธอเองตั้งแต่เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นไปจนถึงการเป็นการเป็นนักมวยที่ดีที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ จนกระทั่งเลือกมาเส้นทางการชกอีกแบบหนึ่งที่มีทั้งสมาคมยูเอฟซีกับพีเอฟแอลอีกด้วย ติดตามข่าวกฬาต่าง ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading