เจค พอล

เจค พอล ก็ออกมาท้าทายคนดังรายต่อไปอย่าง คอนเนอร์ แมคเกรเกอร์

หลังจากที่จบรายการระหว่างไมค์ ไทสันกับรอย โจนส์ จูเนียร์ไปด้วยชัยชนะของตัวเองนั้น ทาง เจค พอล ก็ออกมาท้าทายคนดังรายต่อไปอย่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ทันที เมื่อก่อนหน้านี้ทางพี่ของตระกูลพอลสามารถเอาชนะเนท โรบินสันไปได้อย่างง่ายดายจนต้องการท้าทายนักสู้คนใหม่ที่ไม่ง่ายเหมือนเดิม โดยทางตำนานของวงการยูเอฟซีนั้นก็มีคิวขึ้นยกในรายการปีหน้าอยู่เช่นกัน ส่วนทางยูทูบเบอร์นั้นก็คงจะหาทางสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการลองเจอกับนักสู้มืออาชีพสักครั้งนั่นเอง                ในวิดีโอของ เจค พอล นั้นเจ้าตัวได้ออกมาท้าทายในรถสปอร์ตของตัวเอง พร้อมพูดถึงเช็คเงินสดมากกว่า 50 ล้านเหรียญเพื่อให้นักสู้ชื่อดังตอบตกลงกับเขา โดยทางเจ้าตัวได้ส่งสัญญาณหาคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ไว้และเรียกเขาด้วยคำหยาบคาย พร้อมกับแขวะว่านักชกไอริชคงจะสู้กับคนแก่สักคนในบาร์แถวนั้นหรืออาจจะเบื่อภรรยาที่บ้านอยู่จนไม่รู้จะทำอะไร ทางพอลเลยได้ส่งเช็คไปถึง 50 ล้านและมันเป็นเงินก้อนที่มากที่สุดในชีวิตของคอนเนอร์แล้ว แม้ว่าทางนักสู้ยูเอฟซีจะยังกลัวและไม่กล้าตอบรับคำท้านี้ เจค พอล ก็ได้พูดถึง ดาน่า ไวท์ ประธานสมาคมยูเอฟซี                นอกจากการด่าคอนเนอร์ด้วยถ้อยคำหยาบคายแล้วนั้น ทางเจค พอลก็ได้พูดถึงดาน่า ไวท์ประธานสมาคมยูเอฟซีที่ออกมายืนยันว่าไม่มีทางที่นักสู้ในสังกัดเขาจะไปขึ้นชกกับยูทูบเบอร์คนนี้อย่างแน่นอน จนทางพอลได้ออกมาด่าดาน่าอย่างหนักเช่นกัน ส่วนทางดาน่านั้นคงไม่สนใจการขึ้นชกโชว์อย่างที่ไมค์ ไทสันกับรอย โนส์ จูเนียร์เคยทำมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะมันไม่ต่างกันการแสดงกายกรรมเท่านั้น รวมถึงเขายังมีธุระที่ต้องทำผ่านสมาคมยูเอฟซีของตัวเอง ซึ่งทางคอนเนอร์จะได้กลับมาสู่เวทีกรงเหล็กอีกครั้งหนึ่ง                แม้ว่าคนทั่วโลกจะต้องการเห็นเจค พอลโดนต่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ทว่าทางดาน่า ไวท์เองคือคนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้มีการชกที่จริงจังระหว่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์กับคนที่ดังมาจากยูทูบแน่นอน ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บของนักสู้ทั้งสองคน แม้ว่าทั้งสองจะเคยขึ้นชกในกติกามวยสากลมาแล้วก็ตาม […]

Continue Reading
แมคเกรเกอร์

แมคเกรเกอร์ กับการกลับมาสู่สังเวียนแปดเหลี่ยมอีกครั้งหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19

เป็นเวลาเพียงสี่เดือนเท่านั้นหลังจากที่นักสู้ฝีปากกล้าอย่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ ได้ออกมาประกาศแขวนนวมแล้ว หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ไม่เป็นใจและทำให้วงการต่อสู้จะต้องพักไปชั่วคราว จนกระทั่งในเดือนตุลาคมที่นักสู้ชาวไอริชได้ออกมาตอบตกลงที่จะกลับไปสู้ในยูเอฟซีอีกครั้งในเดือนมกราคมปี 2021 โดยเขามีคิวจะต้องเจอกับนักสู้ชาวสหรัฐอเมริกาอย่างดัสติน พอลเรียร์นั่นเอง ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                สำหรับไฟท์ล่าสุดที่คอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ ขึ้นชกในสมาคมยูเอฟซีนั้นคือรายการครั้งที่ 246 ของสมาคมที่เขาต้องเจอกับคาวบอยโดนัลด์ เซอร์โรนนั่นเอง  โดยทางนักสู้จากประเทศไอร์แลนด์นั้นใช้เวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้นในการเตะสูงและเข้าชกจนกรรมการสั่งยุติไปในยกที่หนึ่งอีกด้วย ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ทำให้เขาได้ครองสถิตินักสู้ที่สามารถชนะน็อคได้ทั้งรุ่นฟีเธอร์เวท ไลท์เวทและเวลเตอร์เวท                หลังจากชัยชนะที่สวยงามของเขานั้น ทางคอนเนอร์แมคเกรเกอร์ก็ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเขาจะขอเลิกชกมวยในวัย 32 ปีเท่านั้น แต่ทว่าในเวลาต่อมาเขากลับบอกกับสื่อว่าเจ้าตัวอาจกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งก็ได้ ถ้าคู่ต่อสู้เป็นแมนนี่ ปาเกียวนักชกมวยระดับโลกนั่นเอง แต่ทว่ายังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าทั้งสองคนจะได้สู้กันที่เอเชียตะวันออกกลางตามที่นักสู้ฝีปากกล้านี้กล่าวไว้หรือไม่ แมคเกรเกอร์ ขึ้นชกในสมาคมยูเอฟซีนั้นคือรายการครั้งที่ 246                แต่ไฟท์ที่ทางคอนเนอร์แมคเกรเกอร์จะต้องขึ้นชกอย่างแน่นอนก็คือแมตช์ที่เขาต้องเจอกับนักสู้ชาวอเมริกันอีกคนอย่างดัสติน พอลเรียร์ในรายการของยูเอฟซี ซึ่งจัดในสนามคาวบอยสเตเดี้ยมที่รัฐเทกซัส โดยดาน่าไว้ได้ประกาศไว้ว่ารายการนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มกราคมปี 2021 นั่นเอง

Continue Reading
คาลิล เราท์ทรี

คาลิล เราท์ทรี กับ มาร์ซิน พราชนิโอทที่เป็นนักสู้ในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท

ถือเป็นแมตช์ประกอบรายการที่น่าดูไม่น้อย สำหรับการเจอกันของ คาลิล เราท์ทรี กับมาร์ซิน พราชนิโอทที่เป็นนักสู้ในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท โดยพวกเขาจะได้เจอกันในรายการยูเอฟซี่ครั้งที่ 257 ในวันที่ 23 เดือนมกราคมปี 2021 ที่จะมีแมตช์การกลับมาของคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์มาเป็นคู่เอกประจำค่ำคืน แม้ว่าก่อนหน้านี้นั้นทางคาลิลจะเริ่มมีแผนเตรียมแขนมและลาสังเวียนไป แต่ทว่าเจ้าตัวกลับเปลี่ยนใจ เมื่อเขายังคงต้องการแก้มือจากไฟท์ระหว่างเจ้าตัวกับไอออน คูเคลาบาที่เขาเคยแพ้ไปตั้งแต่ปี 2019 นั่นเอง                ตามกำหนดการเดิมนั้นทาง คาลิล เราท์ทรี จะต้องขึ้นชกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้แก่สมาคมยูเอฟซี แต่ทว่าการมาของไวรัสโควิดได้ทำให้พวกเขาไม่สามารถจัดรายการได้ตามปกติจนทำให้แผนการกลับมาของเขาถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนทำให้เขาต้องห่างจากสังเวียนไปนานกว่าเดิม โดยสถิติตลอดอาชีพของเขานั้นอยู่ในระดับกลางด้วยการชนะ 4 ครั้ง แพ้ 4 ครั้งพร้อมกับไม่มีการตัดสินอีกหนึ่งครั้ง พร้อมกับรอเจอคู่ต่อสู้ที่กำลังต้องการชัยชนะในสมาคมนี้เช่นกัน                ในส่วนคู่ต่อสู้ของเราท์ทรีนั้นคือมาร์ซิน พราชโอนี ซึ่งยังไม่เคยเอาชนะใครได้เลยในสมาคม นับตั้งแต่การเจอกับแซม อัลเวย์ มาโกเมด อันคาเลฟและไมค์ โรดิเกวซที่จบลงด้วยชัยชนะของคู่แข่งทั้งสาม แม้ว่าก่อนหน้านี้ตัวของพราชโอนีจะเคยครองสถิติไม่แพ้ใครเลยตลอดแปดไฟท์ในสมาคมอย่างวันแชมป์เปี้ยนชิพนั่นเอง ซึ่งคงเป็นโอกาสอันดีที่นักชกมวยในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทจะมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งผ่านสังเวียนยูเอฟซีครั้งที่ 257 นั่นเอง คาลิล เราท์ทรี จะต้องขึ้นชกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้แก่สมาคมยูเอฟซี                นับว่าเป็นไฟท์ที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการเจอกันของคาลิล เราท์ทรีกับมาร์ซิน พราชโอนี่ที่ผ่านแรกก็เคยพ่ายแพ้มาจนต้องการจะกอบกู้ชื่อเสียงอีกครั้ง ส่วนอีกฝ่ายก็คือนักสู้ที่เคยมีผลงนแข็งแกร่งจนไร้พ่ายมาก่อน จนกระทั่งต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าตัวเขาดีพอจะสู้กับคนอื่นในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทนี้ได้เช่นกัน […]

Continue Reading