แมนนี่ ปาเกียว

แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกดังชาวฟิลิปินส์ โดยเขาได้ห่างหายจากการชกมวยสากลไปกว่า 2 ปีเต็ม

หลังจากการหายตัวไปจากวงการมวยสากลอาชีพของ แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกดังชาวฟิลิปินส์ โดยเขาได้ห่างหายจากการชกมวยสากลไปกว่า 2 ปีเต็มและหันหน้าเข้าสู่การเมืองท้องถิ่น แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีข่าวหลุดออกมาว่า ปาเกียวได้พยายามที่จะกลับมาชกอีกครั้ง โดยการชกครั้งนี้เป็นการแอบเจรจากันอย่างลับ ๆ ข่าวกีฬาต่างประเทศ กับการต่อสู้ที่จะกลับมาแบบโด่งดังด้วยการท้าชกกับยอดมวยแห่งยุคในรุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท อย่าง ควอร์ฟอร์ด นักชกชาวอเมริกันที่ยังไม่เคยแพ้ใครเลยใน 37 ไฟล์หลังสุด และยังเป็นการเอาชนะน็อคถึง 28 ครั้ง ก่อนที่ต่อมาข่าวมวยสากลที่ได้ออกมาว่า ทั้งคู่มีแพลนที่จะชกกันในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตามคงต้องรอทางสมาคมออกมาประกาศยืนยันอีกครั้งหนึ่ง การกลับมาของ แมนนี่ ปาเกียว จะยิ่งใหญ่อีกครั้งหรือดับวูบ             แม้ว่า 2 ปีเต็มที่หายไปจากเวทีการแข่งขัน แต่ แมนนี่ ปาเกียว ก็ยังคงฝึกซ้อมร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ทว่า การกลับโดยท้าทายกับนักชกที่เจนจัดในสังเวียนตอนนี้จะสามารถทำผลงานได้ดีหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่น่าจับตามองของวงการข่าว มวยสากล เพราะหากเขาสามารถเอาชนะได้นี่อาจเป็นการตอกย้ำว่าเขาคือที่สุดในรุ่นแม้จะร้างเวทีไปนาน แต่หากกลับมาไม่สำเร็จนี่อาจเป็นการดับอนาคตของตนเองในกีฬามวยสากลเลยก็เป็นได้ เพราะก่อนหน้านี่คู่ชกหลายคนของเขาเคยออกมาเปิดเผยว่า ปาเกียวคือนักชกหมัดหนักคนหนึ่งแต่มันก็ยังดูมีอะไรที่แปลกไป ทำให้แฟนต่างสงสัยว่าเขามีความสารารถจริง ๆ คือแอบโกงกันแน่ อีกทั้ง ควอร์ฟอร์ด ยังสบปรมาทเขาด้วยว่าหมัดของปาเกียวนั้นเบาดุจปุยนุ่นไม่อาจทำอันตรายต่อเขาได้                ทั้งคู่ต่างออกมายืนยันว่าการชกนั้นย่อมตกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน […]

Continue Reading
มวยสากลสมัครเล่น

มวยสากลสมัครเล่น ที่เยาวชนทีมชาติแต่ละประเทศจะต้องทำการแข่งขันกันแต่ก็ต้องชักงัก

ในช่วงปีที่ผ่านมา โลกต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 เป็นเหตุให้หลายกิจกรรมต้องปิดตัวลง โดยเฉพาะวงการ มวยสากลสมัครเล่น ที่เยาวชนทีมชาติแต่ละประเทศจะต้องทำการแข่งขันกันแต่ก็ต้องชักงัก จนกระทั้งเร็ว ๆ นี้ได้มีการออกมาเปิดเผยของสมาคม มวยสากลสมัครเล่น ว่า ไทยกำลังเตรียมความพร้อมนักกีฬาชุดเยาวชนเพื่อลงทำการแข่งขันในรายการชิงแชมป์เยาวชนโลก 2021 ที่เมืองเคียลซี ประเทศโปแลนด์ นักข่าวมวยสากลได้เกาะติดสถานการณ์การซ้อมของน้อง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อแฟนมวยที่ตั้งตารอคอย ข่าวกีฬาต่างประเทศ                ข่าว มวยสากล วันนี้รายงานว่า นักกีฬาทั้งหมด 8 คนได้ถูกส่งเข้ามาจัดการเรื่องหนังสือเดินในกรุงเทพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก่อนหน้านี้ได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักที่โรงเรียนกีฬาโคราช อีกทั้งโค้ชยังกล่าวถึงความพร้อม 100 % ของนักกีฬาอีกด้วยว่าเราจะสามารถคว้าเหรียญกลับมาได้อย่างแน่นอน เพราะการห่างหายจากทัวร์นาเมนต์ทำให้นักกีฬาแต่ละคนมีความกระหายในการฝึกซ้อมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เราคงต้องรวมลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับนักมวยสากลสมัครเล่นชุดเยาวชนที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของชาติในอนาคต เนื่องจากเวทีเยาวชนเป็นเวทีที่สำคัญเพราะนักชกดาวเด่นและตำนานของไทยส่วนมากก็เติบโตมาจากชุดเยาวชนด้วยกันทั้งสิ้น หากแต่ต้องมีวินัยและหมั่นฝึกซ้อมและแก้ไขข้อบ่งพร่องของตน ความฝันที่จะเป็นแชมป์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว รายชื่อนักกีฬา มวยสากลสมัครเล่น มีดังต่อไปนี้ 1.ฤทธิอมร แสงสว่าง 2.ธนกร อ่อนแย้ม 3.ภานุวัฒน์ ชูจันอัด 4.วัชระ คำมงคุณ 5.รัฐพล กาดำดวล 6.ทิพย์สัจจา ยอดวารี 7.นภเกตน์ ศรีสวัสดิ์ 8.ปนิดา […]

Continue Reading
แอนเดอสัน ซิลวา

แอนเดอสัน ซิลวา จากแชมป์ไร้พ่ายสู่ชายที่ผู้โชคร้ายของวงการมวยยูเอฟซี

หากพูดถึงตำนานของวงการมวยยูเอฟซี หลายคนก็คงต้องคุ้นหน้ากับชายที่ชื่อว่า แอนเดอสัน ซิลวา กันมาบ้างแล้ว หลังจากที่เจ้าตัวเคยเป็นแชมป์มิดเดิ้ลเวทของสมาคมมาเป็นระยะเวลานาน แต่ทว่าหลังจากที่เขาเป็นแชมป์ผู้ไร้พ่ายมานานจนเกินไป ก็ทำให้ซิลวาเริ่มประมาทคู่ต่อสู้จนต้องเสียแชมป์ที่เคยคาดกันว่า เขาจะไม่มีวันเสียจนถึงเวลาเกษียณตัวเอง ไปจนถึงอาการบาดเจ็บและขาหักกับไฟท์ระหว่างคริส วีดเดอร์ที่ทำให้เขาสูญเสียตัวตนและไม่กลับมาเป็นคนเดิมอีกเลย                ในวันที่ แอนเดอสัน ซิลวา อยู่บนจุดสูงสุดของสมาคมยูเอฟซีก็คงหนีไม่พ้นปี 2006 ที่เขาสามารถเอาชนะริช แฟรงคลินมาได้และกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นมิดเดิ้ลเวทคนใหม่ของสมาคม ก่อนที่รูปแบบการชกของเขาจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ใช้ความเร็วในการโจมตีคู่ต่อสู้ กลับเปลี่ยนเป็นการเลือกที่จะหลบคู่แข่งแทนในช่วงเวลาที่เขาเชื่อว่าทำคะแนนเหนือคู่ต่อสู้อยู่จนทำให้ซิลวามักจะเอาชนะคะแนนได้เสมอและป้องกันแชมป์ไปได้ แม้ว่าเจ้าของสมาคมอย่างดาน่า ไวท์จะไม่ได้พอใจนักชกชาวบราซิลนี้นัก เนื่องจากสู้ได้ไม่สมศักดิ์ศรีของแชมป์นั่นเอง แต่ทว่าวันที่ แอนเดอสัน ซิลวา ต้องเสียแชมป์ยูเอฟซีก็มาถึง เมื่อเขาได้สู้กับคริส วีดเดอร์ เพื่อจะส่งท้ายอาชีพของเขา เจ้าตัวกลับเลือกที่จะยั่วผู้ท้าชิงในยกสอง ทว่าครั้งนี้เขาพลาดและโดนอัดจนกรรมการยุติการชกพร้อมกับเสียแชมป์ไปได้ทันที หลังจากนั้นไม่นาน ทางซิลวาก็กลับมาขอท้าชิงอีกครั้งในปลายปี 2013 แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่โชคร้ายยิ่งกว่าเก่า เมื่อเขาพยายามจะเตะเข้าไปที่ขาของวีดเดอร์ แต่โดนเจ้าของแชมป์ยกขาขึ้นมากันไว้ ส่งผลให้ซิลวาขาหักเป็นสองท่อนทันที แล้วกรรมการต้องสั่งยุติการชกอีกครั้ง                แม้ว่าแอนเดอสัน ซิลวาจะรักษาอาการบาดเจ็บไปไม่นานอย่างที่คนอื่นคาดไว้ แต่ทว่าชีวิตใน ยูเอฟซี หลังจากวันที่เขาขาหักนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นหลังมือ เพราะมักจะเกิดปัญหาทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ การใช้สารกระตุ้นหรือไม่ก็แพ้ต่อนักชกคนอื่น ๆ อยู่เสมอ จนทำให้ในปี 2020 นั้นเขาก็ได้ถูกยกเลิกสัญญาออกจากค่ายดังไปในที่สุด […]

Continue Reading
มาร์ลอน โมเรส

มาร์ลอน โมเรส ที่ต้องการท้าทายตัวเองมากกว่าอยู่เฉย ๆ ในการขึ้นชก

อาจเป็นเพราะทาง มาร์ลอน โมเรส ได้ขึ้นชกกับนักสู้ในรุ่นแบนตัมเวทมาตลอดสามปีนับตั้งแต่ปี 2017 ที่ตัวเขาได้เข้ามาสู้ในสมาคมยูเอฟซี ซึ่งเขาได้มองว่าการต่อสู้ครั้งที่เก้าในสมาคมนี้น่าจะช่วยให้เขาเจอกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอาชีพเขาเลยทีเดียว โดยย้อนไปในอดีตนั้นทางมาร์ลอนได้เจอกับแชมป์ของรุ่นมาก่อนแล้ว แต่ทว่าเขากลับแพ้ไป ก่อนที่จะกลับมามีโอกาสได้สู้กันนักชกคนอื่นพร้อมกับเอาชนะมาได้แล้ว แต่ทว่ายังไม่มีโอกาสกลับไปแก้มืออีกครั้งเลยนับตั้งแต่นั้น                ในการที่ มาร์ลอน โมเรส ซึ่งเป็นอดีตแชมป์ดับเบิ้ลเอสโอเอฟได้ท้าชิงแชมป์เจอกับเฮนรี่ เซจูโด้ในปี 2019 แต่ทว่าเจ้าตัวกลับแพ้ไป ก่อนที่ต่อมาจะได้สู้กับโจเซ่ อัลโด้และสามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนแบบไม่เป็นเอกฉันท์ แต่ทว่าทางอัลโด้กลับมีโอกาสได้ขึ้นไปท้าชิงแชมป์แทนเขาในช่วงปลายปี จนกระทั่งตัวเขาต้องพักการชกไปอย่างยาวนานด้วยภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งเจ้าตัวต้องรอจนถึงเดือนตุลาคมที่จะกลับมาสู่สังเวียนอีกครั้ง แต่กลับต้องแพ้น็อคเอาท์ให้กับคอรี่ แซนด์ฮาเกน มาร์ลอน โมเรส ซึ่งเป็นอดีตแชมป์ดับเบิ้ลเอสโอเอฟได้ท้าชิงแชมป์เจอกับเฮนรี่ เซจู                เมื่อมาร์ลอน โมเรสหรือฉายาเมจิกกำลังต้องการชัยชนะจากรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 และมีคิวต้องเจอกับร็อบ ฟอนต์ พร้อมยอมรับว่าตัวเขามีความกดดันที่จะต้องขึ้นชกในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะมาร์ลอนยังท้าทายตัวเองอยู่ตลอดและมาที่นี่เพื่อชัยชนะอีกด้วย โดยตัวเขากระหายชัยชนะอย่างมาก หลังจากที่ไฟท์ล่าสุดต้องแพ้มาได้ทำให้เขายิ่งต้องการจะสู้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ต้องพยายามท้าทายตัวเองให้เป็นคนที่เก่งกว่าเดิมในทุกๆ วัน หากตัวเขาต้องแพ้ไปในไฟท์ที่แล้ว แต่ไฟท์ข้างหน้าเขาหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น                แม้ว่าทางมาร์ลอน โมเรสจะมีความพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชนะในไฟท์ที่เจอกับร็อบ ฟอนต์ในรายการยูเอฟซีเวกัสครั้งที่ 17 แต่ทว่าสุด้ทายเจ้าตัวก็ต้องแพ้ให้กับคู่ชกมวยไปตั้งแต่ยกแรก หลังจากที่โดนอัพเปอร์คัทเข้าไป ก่อนที่จะร่วงไปพร้อมกับโดนซ้ำจนกรรมการต้องมายุติการชกทันที ติดตามเรื่องราวของกีฬาอีกมากมายได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
ไซม่อน โกเลคกี

ไซม่อน โกเลคกี ที่เตรียมจะขึ้นชกในรายการเคเอสดับเบิ้ลยู

น่าจะเป็นโอกาสอันดีของทาง ไซม่อน โกเลคกี ที่จะได้ขึ้นชกในรายการเคเอสดับเบิ้ลยูครั้งที่ 58 ในช่วงวันที่ 30 มกราคมปี 2021 ซึ่งจะเป็นคู่เอกร่วมกับการชิงแชมป์ฟีเธอร์เวทอีกด้วย โดยทางไซม่อนเคยเป็นถึงแชมป์โลกยกน้ำหนักมาก่อน รวมถึงเคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิคมาแล้วเช่นกัน ซึ่งการขึ้นชกของเขาครั้งนี้จะได้เจอกับมาร์ติน ซาวาดาที่จะสู้กันในประเทศโปแลนด์จากการยืนยันของเจ้าหน้าที่ในสมาคมชื่อดังจากโปแลนด์และทวีปยุโรปอีกด้วย                ด้าน ไซม่อน โกเลคกี เองนั้นได้เริ่มขึ้นสู่วงการนักสู้ศิลปะป้องกันตัวนับตั้งแต่ตัวเขาได้ประกาศลาออกจากวงการยกน้ำหนักที่ตัวเขาเคยคว้าแชมป์โลกมาก่อน ซึ่งการเปลี่ยนมาเป็นนักสู้แล้วนั้นตัวเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้มากถึง 8 ครั้งและพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยการเอาชนะในสมาคมเคเอสดับเบิ้ลยูนั้นยังเป็นการจัดการคู่ต่อสู้ได้สองครั้งรวดผ่านการน็อคมาริอุส พัดเซียโนสกี อีกทั้งยังเอาชนะดาเมียน แจนิโคสกีได้อีกเช่นกันจากการขึ้นชกครั้งล่าสุดของทางไซม่อนกับวงการนี้ ไซม่อน โกเลคกี เองนั้นได้เริ่มขึ้นสู่วงการนักสู้ศิลปะป้องกันตัว                ซึ่งการชกครั้งต่อไปของทางไซม่อน โกเลคกีนั้นก็จะเป็นการเจอกับมาร์ติน ซาวาดาที่มีพี่ชายอย่างเดวิดที่ได้เซ็นสัญญากับทางยูเอฟซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังจะเป็นคู่เอกร่วมกับการชิงแชมป์ฟีเธอร์เวทของซาลาดีน พาร์เนสสีที่จะต้องป้องกันกับเดเนี่ยล ตอร์เรสนั่นเอง โดยสถิติไร้พ่ายของพาสเนสสีเองถือว่าเป็นหนึ่งในนักชกระดับสูงของทวีปยุโรปจากการเอาชระได้ 14 ไฟท์และเสมอเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้มาห้าครั้งรวดในสมาคมเดียวกัน ซึ่งสองครั้งล่าสุดเป้นการชิงแชมป์ฟีเธอร์เวทที่ตัวเองครองอยู่                นับว่าเป็นชีวิตที่สดใสไม่น้อยสำหรับทางไซม่อน โกเลคกีที่สามารถเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นนักยกน้ำหนักสู่นักชกศิลปะป้องกันตัว ซึ่งเจ้าตัวได้กลายเป็นคู่เอกร่วมในสมาคมเคเอสดับเบิ้ลยูที่นับว่าเป็นค่ายใหญ่ในทวีปยุโรป รวมถึงชัยชนะครั้งหน้าของเขาอาจจะมีโอกาสทำให้เจ้าตัวได้ชิงแชมป์หรือเป็นคู่เอกในอนาคตนั่นเอง ติดตามกีฬาต่าง ๆ มากมายได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
อัลวาเรส

อัลวาเรส สามารถเอาชนะคัลลัม สมิธไปได้ในการชิงแชมป์ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท

กลายเป็นคนที่โชว์ฟอร์มเก่งในตอนสุดท้ายไปได้ เมื่อทางเซา คาเนโล อัลวาเรส สามารถเอาชนะคัลลัม สมิธไปได้ในการชิงแชมป์ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวทประจำสมาคมดับเบิ้ลยูบีเอและสามารถคว้าแชมป์โลกไปได้ในที่สุด โดยทางนักชาชาวเม็กซิกันนั้นต้องปะทะฝีมือกับนักมวยชาวอังกฤษไปจนครบ 12 ยกและสามารถออกอาวุธได้มากกว่า ส่วนทางสมิธนั้นกลับไม่ได้สามารถทำอะไรตัวของคาเนโล่ได้เลย จนกระทั่งต้องมาตัดสินใจด้วยคะแนนจากกรรมการ ก่อนที่จะเป็นนักชกรุ่นพี่ที่สามารถทำได้ดีกว่านั่นเอง                หลังจากที่เซา คาเนโล่ อัลวาเรส สามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 119 ต่อ 109 จากกรรมการสองท่านกับ 117 ต่อ 111 จนทำให้ตัวเขาเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ซึ่งตัวนักชกคนนี้เองถือว่ามีสถิติการสู้ที่ดีมาก เมื่อพวกเขาได้พบเจอกับความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวตลอด 57 ไฟท์ ซึ่งทำให้เขาสามารถคว้าแชมป์จากสมาคมดับเบิ้ลยูบีเอกับดับเบิ้ลยูบีซีในรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวทหรือน้ำหนัก 168 ปอนด์ โดยทางอดีตแชมป์อย่างคัลลัม สมิธก็ออกมายอมรับคู่ต่อสู้ของเขาว่าทำได้ดีกว่า รวมถึงการชกที่ฉลาดของเขาจนทำให้ตัวสมิธเองไม่มีข้ออ้างใดๆ เลย อัลวาเรส สามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 119 ต่อ 109                แม้ว่าทางคัลลัม สมิธจะมีข้อได้เปรียบเมื่อต้องขึ้นชกกับคาเนโล่อัลวาเรสด้วยความสูงของเขาที่มากกว่า รวมถึงช่วงชกอีกด้วย แต่ทว่าการชกของนักมวยชาวเม็กซิกันนั้นได้ใช้การยืนและการเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์มากกว่าจนทำให้ทางสมิธไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนกระทั่งทางพี่เลี้ยงของเจ้าของตำแหน่งต้องคอยกระตุ้นลูกทีมของเขา แต่ทว่าทางคาเนโล่ก็ยังสามารถแสดงผลงานของตัวเองได้ดีกว่าในยก 7 ที่เขาสามารถชกกลางลำตัวกับอัพเปอร์คัทได้อีกด้วย                หลังจากที่คาเนโล่อัลวาเรสสามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวทนั้นทำให้เจ้าตัวได้รักษาสถิติด้วยการพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวตลอดอาชีพของตัวเขาในช่วงเวลานานถึง 15 ปีเลยทีเดียว  ซึ่งจากผลงานของเจ้าตัวแล้วนั้นดูเหมือนว่าตัวเขายังมีความกระหายที่จะเอาชนะและคว้าความสำเร็จอยู่จนถึงปัจจุบัน […]

Continue Reading
จอร์ฟ เนล

จอร์ฟ เนล ที่ไม่สนเรื่องกระแสของ คัมแซท ชีเมฟ นักสู้ดาวรุ่ง

แม้ว่าทางรุ่นเวลเทอร์เวทจะมีเรื่องมากมายเป็นกระแสก็ตาม แต่ทว่าทาง จอร์ฟ เนล ที่มีไฟท์ต้องเจอกับสตีเฟ่น ธอมป์สันนั้นไม่ได้มีสนใจว่าข่าวคราวในวงการจะเป็นอะไร โดยเฉพาะเรื่องของคัมแซท ชีเมฟที่เป็นนักสู้ดาวรุ่งและมีสถิติชนะสองไฟท์เท่านั้น แต่กลับได้ขึ้นชกเป็นคู่ใหญ่จนทางธอมป์สันต้องออกมาพูดถึงกระแสนี้ว่าตัวเขาไม่เข้าใจเลย ส่วนทางจอร์ฟนั้นก็มองว่าสิ่งที่คัมแวททำนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ทว่านักสู้คนนั้นก็ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากพอเช่นกัน                การที่ จอร์ฟ เนล ออกมาพูดว่าตัวเขาไม่ได้อิจฉาอะไรใดๆ กับนักชกในรุ่นเดียวกันอย่างคัมแซท ชีเมฟที่เพิ่งจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้ถึงสองไฟท์ในระยะเวลาเพียง 10 วันก็ตาม ซึ่งตัวเขาก็มองว่ามันเป็นเรื่องไม่เข้าท่าเลย แต่ตัวเขาก็อยู่ในสมาคมนี้เช่นกัน เพราะยูเอฟซีก็เป็นธุรกิจหนึ่ง  แล้วสิ่งที่คัมแซททำเพื่อมายืนถึงจุดนี้ก็เป็นวิธีการที่เข้าใจได้ หากพูดในมุมมองของธุรกิจ แต่ถ้าเป็นเรื่องการต่อสู้นั้น ทางจอร์ฟมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่นักสู้คนนี้จะมาอยู่ลำดับสูง จอร์ฟ เนล ออกมาพูดว่าตัวเขาไม่ได้อิจฉาอะไรใดๆ                เมื่อจอร์ฟ เนลได้พูดถึงเรื่องรุ่นน้ำหนักของตัวเองนั้น ตัวเขาก็มองว่าทางคัมแซทเพิ่งจะมีโอกาสได้สู้ในรุ่นเวลเทอร์เวทเพียงครั้งเดียว แต่เจ้าตัวกลับมาอยู่ในอันดับสามของตารางได้มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้และตัวเขาไม่สมควรได้รับมัน เพราะส่วนตัวนั้นตัวเขาควรได้รับความนิยมตามที่ตัวเองต้องการเท่านั้น นอกจากการพูดถึงนักสู้ในรุ่นเดียวกันแล้วนั้น ทางจอร์ฟก็ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับนิสัยตัวเองที่รู้สึกรักศักดิ์ศรีของตัวเองและไม่ได้มาสู่ในยูเอฟซีเพื่อเงินแต่อย่างใด เพราะตัวเขาต้องการจารึกชื่อของเขาไว้ในวงการมากกว่า                อาจเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเช่นกัน หากทางจอร์ฟ เนลนั้นอาจตกอันดับไปแล้วมีทางคัมแซท ชีเมฟมาแทนที่เขา ทั้งที่ประสบการณ์และจำนวนไฟท์ต่างกัน แม้ว่าทุกอย่างบนโลกจะเป็นเรื่องของธุรกิจก็ตาม แต่หากใช้ความนิยมในการเลือกคู่ต่อสู้กัน ทางสมาคมก็อาจกลายเป็นมวยโชว์ไปได้ในอนาคตเช่นกัน ติดตามข่าวกีฬาอื่น ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
คลาเรสซ่า ชิลด์

คลาเรสซ่า ชิลด์ กับสาเหตุที่ไม่ไปชกที่ยูเอฟซีแต่เลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน

ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดคาดไม่น้อย เมื่อทางนักชกอย่าง คลาเรสซ่า ชิลด์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองไม่ได้ต้องการไปขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวในสมาคมดังอย่างยูเอฟซีและเลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน ซึ่งอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิคนั้นได้รับการขนาดนามว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนตัวเองเลือกจะย้ายวงการมาสู้แบบศิลปะป้องกันตัวหรือเอ็มเอ็มเอแทน โดยเจ้าตัวมีเป้าหมายว่าจะเป็นสุดยอดนักกีฬาของทั้งสองวงการเลยทีเดียว                สิ่งที่ คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวนั้นจะเป็นลูกผสมระหว่างมวยปล้ำกับการโจมตีด้วยขาต่างๆ รวมถึงการจับทุ่ม ซึ่งตัวเธอนั้นก็เริ่มฝึกกับตำนานอย่างจอน โจนส์และฮอลลี่ โฮมส์อีกด้วย แม้ว่าตัวเธอจะยังคงใหม่กับวงการนี้ก็ตามและยังคงไม่มีแผนที่จะรีบเปิดตัวในการสู้ครั้งต่อไปของเธอด้วยการเจอกับนักแข่งที่เคยลงสนามมาแล้ว นอกจากนี้เธอยังได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุว่าทำไมตัวเองถึงเลือกไปสู้กับพีเอฟแอลแทนยูเอฟซีทั้งที่รู้จักกับประธานอย่างดาน่าไวท์อีกด้วย คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชก                ตามการสนทนาระหว่างคลาเรสซ่า ชิลด์กับดาน่า ไวท์นั้น ทางนักชกได้บอกว่าตัวประธานคนนี้ต้องการจะให้เธอสู้ครั้งเดียวบนเวทีแปดเหลี่ยมของเขา โดยที่จะให้สู้กับยอดฝีมือที่มีน้ำหนักเท่าเธอนั่นเอง แต่ทว่าทางนักชกกลับมองว่าตัวเธอต้องการจะฝึกฝนกับอาชีพนี้ให้นานมากพอที่จะขึ้นชก พร้อมกับพัฒนาฝีมือต่อไป ซึ่งหากดาน่าเสนอให้เธอฝึกฝนเป็นเวลานานหรือสองปีนั้นคงจะดีกับตัวเองเธอเองมากกว่า ส่วนในทางพีเอฟแอลนั้นได้เสนอให้เธอได้สู้พร้อมกับพัฒนาตัวเองไปตลอดฤดูกาลที่ทำให้เธอสนใจเลือกทางนี้มากกว่านั่นเอง                เรียกว่าทางนักชกอย่างคลาเรสซ่า ชิลด์น่าจะยังคงมีอนาคตในวงการศิลปะป้องกันตัวอีกมาก เนื่องจากชื่อชั้นของเธอเองตั้งแต่เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นไปจนถึงการเป็นการเป็นนักมวยที่ดีที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ จนกระทั่งเลือกมาเส้นทางการชกอีกแบบหนึ่งที่มีทั้งสมาคมยูเอฟซีกับพีเอฟแอลอีกด้วย ติดตามข่าวกฬาต่าง ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
แอนโธนี่ โจชัว

แอนโธนี่ โจชัว กับ ไทสัน ฟิวรี่ ที่เคยลองมือกันมาแล้วอย่างดุเดือด

จัดว่าเป็นไฟท์ที่หลายคนต้องการจะชมอย่างมาก สำหรับการเจอกันระหว่างไทสัน ฟิวรี่กับ แอนโธนี่ โจชัว ที่จะเป็นการชิงแชมป์สมาคมมวยโลกถึงสี่สถาบันอย่างดับเบิ้ยูบีโอที่ทางไทสันถืออยู่ ส่วนไอบีเอฟ ดับเบิ้ยยูบีซีและดับเบิ้ลยูบีเอนั้นเป็นทางนักชกรุ่นน้องถืออยู่ นอกจากนี้ทางไทสันยังออกมาพูดถึงอดีตว่าตัวเขาเคยประลองฝีมือกับแชมป์โลกสามสถาบันคนนี้มาแล้วในสมัยที่เจ้าตัวยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ในชมรมมวยแห่งหนึ่งในปี 2010 หรือสิบปีก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสปะทะกันขึ้นมาจริงๆ นั่นเอง                ทางไทสัน ฟิวรี่ได้พูดถึงเหตุการณ์นั้นว่า ตัเวขาไปได้ยังชมรมมวยปล้ำฟินชเลย์และเจอกับแชมป์มวยสมัครเล่นเอบีเออย่าง แอนโธนี่ โจชัว ที่เขามีผลงานที่ร้อนแรงอย่างมาก นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าในเวลานั้นจะสามารถจัดการนักชกรุ่นน้อองได้อย่างสบายๆ เพราะตัวเองก็เนชป็นมืออาชีพ ส่วนอีกฝ่ายเป็นมือสมัครเล่นเท่านั้น และแอนโธนี่เองก็คงสู้ไม่ได้แน่นอนเมื่อเขาตั้งใจจะเอาจริงขึ้นมา ซึ่งในไฟท์นั้นนักชกรุ่นน้องรีบพุ่งเข้ามาหาเขาและรัวหมัดดต่อยซ้ายขวา อีกทั้งยังปล่อยหมัดอัพเพอร์คัทใส่คางเข้าอย่างจังอีกด้วย แอนโธนี่ โจชัว ถือว่ามีฝีมืออย่างมากและยังอายุน้อยอีกด้วย                โดยทางไทสัน ฟิวรี่เองก็ยอมรับว่า ถ้าเขาเป็นพวกคางอ่อนก็คงจะโดนน็อคยาวข้ามเดือนไปเลยทีเดียว ในเวลานั้นทางแอนโธนี่ โจชัวถือว่ามีฝีมืออย่างมากและยังอายุน้อยอีกด้วย เขาจึงเชื่อว่านี่จะเป็นนักชกแห่งอนาคตเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวของไทสันเองก็ชื่อว่าตัวเองมีความสามารถพอจะกลายเป็นดาวดังของวงการมวยได้ ซึ่งตัวเขายังจดจำเหตุการณ์นั้นได้ว่า เจ้าหนูสมัครเล่นคนนี้ต้อกวารจะฆ่าเขาในสังเวียน จนกระทั่งตัวเขาต้องปล่อยเข้าที่ลำตัวของแอนโธนี่เพื่อหยุดการโจมตีลงบ้างและการชกเรียกเหงื่อครั้งนั้นก็จบลงในสามยกพร้อมกับคำชมของไทสันนั่นเอง                นับว่าทางไทสัน ฟิวรี่ก็คงจะรู้จักฝีมือของนักชกรุ่นน้องดีอยู่แล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้างและหากทั้งสองสู้กันจริงๆ ก็คงเป็นไฟท์ที่น่าสนุกของทั้งคู่หลังจากที่เคยลองมือกันมาแล้วในอดีต แต่ทว่าหากเป็นการแข่งในสังเวียนจริงนั้นแอนโธนี่ โจชัวก็คงจะไม่ปล่อยรุ่นพี่ที่เคยสู้กันในอดีตออกไปง่ายๆ เหมือนกับเรเองในปี 2010 ที่เจ้าตัวยังป็นเพียงแต่นักชสมัครเล่อย่างแน่นอนเลยทีเดียว ติดตามข่าวกีฬาอื่นๆได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
เจค พอล

เจค พอล ก็ออกมาท้าทายคนดังรายต่อไปอย่าง คอนเนอร์ แมคเกรเกอร์

หลังจากที่จบรายการระหว่างไมค์ ไทสันกับรอย โจนส์ จูเนียร์ไปด้วยชัยชนะของตัวเองนั้น ทาง เจค พอล ก็ออกมาท้าทายคนดังรายต่อไปอย่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ทันที เมื่อก่อนหน้านี้ทางพี่ของตระกูลพอลสามารถเอาชนะเนท โรบินสันไปได้อย่างง่ายดายจนต้องการท้าทายนักสู้คนใหม่ที่ไม่ง่ายเหมือนเดิม โดยทางตำนานของวงการยูเอฟซีนั้นก็มีคิวขึ้นยกในรายการปีหน้าอยู่เช่นกัน ส่วนทางยูทูบเบอร์นั้นก็คงจะหาทางสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการลองเจอกับนักสู้มืออาชีพสักครั้งนั่นเอง                ในวิดีโอของ เจค พอล นั้นเจ้าตัวได้ออกมาท้าทายในรถสปอร์ตของตัวเอง พร้อมพูดถึงเช็คเงินสดมากกว่า 50 ล้านเหรียญเพื่อให้นักสู้ชื่อดังตอบตกลงกับเขา โดยทางเจ้าตัวได้ส่งสัญญาณหาคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ไว้และเรียกเขาด้วยคำหยาบคาย พร้อมกับแขวะว่านักชกไอริชคงจะสู้กับคนแก่สักคนในบาร์แถวนั้นหรืออาจจะเบื่อภรรยาที่บ้านอยู่จนไม่รู้จะทำอะไร ทางพอลเลยได้ส่งเช็คไปถึง 50 ล้านและมันเป็นเงินก้อนที่มากที่สุดในชีวิตของคอนเนอร์แล้ว แม้ว่าทางนักสู้ยูเอฟซีจะยังกลัวและไม่กล้าตอบรับคำท้านี้ เจค พอล ก็ได้พูดถึง ดาน่า ไวท์ ประธานสมาคมยูเอฟซี                นอกจากการด่าคอนเนอร์ด้วยถ้อยคำหยาบคายแล้วนั้น ทางเจค พอลก็ได้พูดถึงดาน่า ไวท์ประธานสมาคมยูเอฟซีที่ออกมายืนยันว่าไม่มีทางที่นักสู้ในสังกัดเขาจะไปขึ้นชกกับยูทูบเบอร์คนนี้อย่างแน่นอน จนทางพอลได้ออกมาด่าดาน่าอย่างหนักเช่นกัน ส่วนทางดาน่านั้นคงไม่สนใจการขึ้นชกโชว์อย่างที่ไมค์ ไทสันกับรอย โนส์ จูเนียร์เคยทำมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะมันไม่ต่างกันการแสดงกายกรรมเท่านั้น รวมถึงเขายังมีธุระที่ต้องทำผ่านสมาคมยูเอฟซีของตัวเอง ซึ่งทางคอนเนอร์จะได้กลับมาสู่เวทีกรงเหล็กอีกครั้งหนึ่ง                แม้ว่าคนทั่วโลกจะต้องการเห็นเจค พอลโดนต่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ทว่าทางดาน่า ไวท์เองคือคนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้มีการชกที่จริงจังระหว่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์กับคนที่ดังมาจากยูทูบแน่นอน ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บของนักสู้ทั้งสองคน แม้ว่าทั้งสองจะเคยขึ้นชกในกติกามวยสากลมาแล้วก็ตาม […]

Continue Reading