คลาเรสซ่า ชิลด์

คลาเรสซ่า ชิลด์ กับการผันตัวเข้าสู่วงการต่อสู้ในกรงอย่างจริงจัง

เป็นอีกก้าวหนึ่งของอาชีพนักสู้จากทางแชมป์โลกถึงสามรุ่นอย่าง คลาเรสซ่า ชิลด์ ที่เตรียมจะผันตัวไปลงแข่งขันแบบศิลปะป้องกันตัว พร้อมกับต้องการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นแชมป์โลกของกีฬาทั้งสองพร้อมกันอีกด้วย โดยทางนักกีฬาโอลิมปิกสองสมัยรวดนั้นยังมีสถิติที่สวยงามในการชกแบบมืออาชีพด้วยการเอาชนะได้มากถึง 10 ไฟต์รวด พร้อมต้องการจะเปลี่ยนไปหาความท้าทายใหม่นั่นเอง                การเปลี่ยนเส้นทางกีฬาของ คลาเรสซ่า ชิลด์ นั้นก็เริ่มต้นจากการเข้าร่วมในพีเอฟแอลหรือลีกนักสู้มืออาชีพที่เธอได้เปิดเผยว่า เธอต้องการจะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนและนั่นก็คือครองตำแหน่งแชมป์โลกในกีฬามวยอาชีพและศิลปะป้องกันตัวในเวลาเดียวกันนั่นเอง ซึ่งเธอเองก็มีต้นแบบอย่างโบ แจ็คสันและดีออน แซนเดอส์ที่สามารถเอาดีได้ถึงกีฬาทั้งสองประเภทอย่างเบสบอลกับอเมริกันฟุตบอลอีกด้วย                เมื่อย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ที่คลาเรสซ่า ชิลด์ได้กลายเป็นนักกีฬามืออาชีพแล้วนั้น เธอก็มีเป้าหมายเดียวเท่านั้น ซึ่งนั้นก็คือการเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลและต้องการเป็นนักกีฬาแบบแจ็คสันกับแซนเดอร์อีกด้วย สิ่งที่ทำให้เธอสนใจในลีกพีเอฟแอลนั้นก็คือการเป็นองค์กรที่เน้นการต่อสู้เป็นหลัก โดยที่เธอเองก็รอคอยที่จะแสดงฝีมือในการต่อสู้แบบนี้แล้ว รวมถึงจะเริ่มเข้าร่วมลีกในปี 2022 คลาเรสซ่า ชิลด์ นั้นก็เริ่มต้นจากการเข้าร่วมในพีเอฟแอลหรือลีกนักสู้มืออาชีพ                หากทางคลาเรสซ่า ชิลด์สามารถทำได้อย่างที่เธอว่าไว้นั้นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานนักชกหญิงคนนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีนักสู้ศิลปะป้องกันตัวอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของวงการต่อสู้อย่างจริงจังทั้งสอง ซึ่งไม่นับกีฬามวยปล้ำที่มีอดีตแชมป์โลกมากมายเข้าไปต่อยอดประสบความสำเร็จมาแล้วเช่นกัน ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส

ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส กับคดีคุกคามทางเพศต่อหญิงสาวคนหนึ่ง

กลายเป็นข่าวเสียหายของวงการก็ว่าได้ เมื่ออดีตนักสู้ในรายการอัลติเมทไฟท์เตอร์อย่าง ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส ได้ถูกกล่าวหาในคดีคุกคามทางเพศต่อหญิงสาวคนหนึ่งในบ้านของเธอจนจำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลในเมืองอัลบูคีคีซึ่งมีหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิดของที่บ้านเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย  แต่ทว่าตัวศาลนั้นจะไม่มีคำสั่งกักจำเลยไว้ เนื่องจากตัวเขาไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและมีโอกาสเรียกกลับมาสืบสวนต่อไปในอนาคต แม้ว่าทางฝ่ายชายจะออกมาปฏิเสธและพูดถึงเหตุการณ์ที่ว่านั้นเป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย                จากมุมมองของฝ่ายโจทย์นั้นเธอได้ชี้แจงต่อศาลว่า ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส เคยเป็นผู้ฝึกสอนเธอมาก่อน อีกทั้งมีการฝึกสอนภายในบ้าน แต่ทว่าตัวเองกลับมีอาการบาดเจ็บที่ขาและต้องการนวดเพื่อรักษาอาการ โดยระหว่างที่ทั้งสองร่วมกินข้าวเช้าด้วยกันนั้น ฝ่ายเจ้าหน้าสืบสวนก็สังเกตเห็นว่านักสู้คนนี้อาจเอาบางอย่างใส่ไปในเครื่องดื่มของเธอ หลังจากนั้นยังมีวิดีโอที่แสดงเหตุการณ์ว่าตัวเหยื่อนั้นหมดสติไปและไม่รับรู้ใดๆ แม้ว่าสุนัขของตัวเองจะมาเล่นด้วยก็ตาม ส่วนทางราฟาเอลก็มีการสัมผัสตัวเธออย่างไม่เหมาะสมเช่นกัน ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส เคยเป็นผู้ฝึกสอนเธอมาก่อน                ในอีกด้านหนึ่งของฝ่ายจำเลยอย่างราฟาเอล เดอเฟรย์ตาสเองได้ชี้แจงว่า ตัวผู้หญิงคนนี้มีความยินยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้และทั้งสองเป็นเพื่อนกันที่พัฒนาความสัมพันธ์จนเกิดเป็นการร่วมรักขึ้นมา ซึ่งจากวิดิโอนั้นตัวเธอเองก็มีพฤติกรรมร่วมอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่ลูกความของเขาเท่านั้นที่จะทำเรื่องคุกคามทางเพศอย่างที่ถูกกล่าวหา  นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อความของฝ่ายโจทย์หลังจากเหตุการณ์นั้นว่ามันเป็นเรื่องที่ดีและหวังว่าจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งในวันนั้นฝ่ายนักเรียนเก่าของเขาได้หลับไปและยังมีคำถามอีกว่า ตัวเธอได้ทำอะไรไม่เหมาะสมกับเขาหรือไม่อีกด้วย                แม้ว่าทางราฟาเอง เดอเฟรย์ตาสจะยังไม่ถูกลงโทษก็ตาม แต่ทว่าหากวิดีโอที่ศาลได้ชมนั้นเป็นเรื่องจริง ตัวเขานั้นก็คงไม่น่ารอดจากคดีคุกคามทางเพศนี้ ยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีอดีตนักเรียนตัวเองมาเกี่ยวข้องคงจะทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบากไม่น้อยสำหรับตำนานของวงการต่อสู้คนนี้ ติดตามข่าวกีฬาอื่น ๆ ได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
แมคเกรเกอร์

แมคเกรเกอร์ กับการกลับมาสู่สังเวียนแปดเหลี่ยมอีกครั้งหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19

เป็นเวลาเพียงสี่เดือนเท่านั้นหลังจากที่นักสู้ฝีปากกล้าอย่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ ได้ออกมาประกาศแขวนนวมแล้ว หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ไม่เป็นใจและทำให้วงการต่อสู้จะต้องพักไปชั่วคราว จนกระทั่งในเดือนตุลาคมที่นักสู้ชาวไอริชได้ออกมาตอบตกลงที่จะกลับไปสู้ในยูเอฟซีอีกครั้งในเดือนมกราคมปี 2021 โดยเขามีคิวจะต้องเจอกับนักสู้ชาวสหรัฐอเมริกาอย่างดัสติน พอลเรียร์นั่นเอง ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                สำหรับไฟท์ล่าสุดที่คอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ ขึ้นชกในสมาคมยูเอฟซีนั้นคือรายการครั้งที่ 246 ของสมาคมที่เขาต้องเจอกับคาวบอยโดนัลด์ เซอร์โรนนั่นเอง  โดยทางนักสู้จากประเทศไอร์แลนด์นั้นใช้เวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้นในการเตะสูงและเข้าชกจนกรรมการสั่งยุติไปในยกที่หนึ่งอีกด้วย ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ทำให้เขาได้ครองสถิตินักสู้ที่สามารถชนะน็อคได้ทั้งรุ่นฟีเธอร์เวท ไลท์เวทและเวลเตอร์เวท                หลังจากชัยชนะที่สวยงามของเขานั้น ทางคอนเนอร์แมคเกรเกอร์ก็ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเขาจะขอเลิกชกมวยในวัย 32 ปีเท่านั้น แต่ทว่าในเวลาต่อมาเขากลับบอกกับสื่อว่าเจ้าตัวอาจกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งก็ได้ ถ้าคู่ต่อสู้เป็นแมนนี่ ปาเกียวนักชกมวยระดับโลกนั่นเอง แต่ทว่ายังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าทั้งสองคนจะได้สู้กันที่เอเชียตะวันออกกลางตามที่นักสู้ฝีปากกล้านี้กล่าวไว้หรือไม่ แมคเกรเกอร์ ขึ้นชกในสมาคมยูเอฟซีนั้นคือรายการครั้งที่ 246                แต่ไฟท์ที่ทางคอนเนอร์แมคเกรเกอร์จะต้องขึ้นชกอย่างแน่นอนก็คือแมตช์ที่เขาต้องเจอกับนักสู้ชาวอเมริกันอีกคนอย่างดัสติน พอลเรียร์ในรายการของยูเอฟซี ซึ่งจัดในสนามคาวบอยสเตเดี้ยมที่รัฐเทกซัส โดยดาน่าไว้ได้ประกาศไว้ว่ารายการนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มกราคมปี 2021 นั่นเอง

Continue Reading