ในปี 2005 ถือว่าเป็นปีที่ลีก ฟุตบอลอิตาลี มีคดีความที่โด่งดังในวงการข่าวกีฬาต่างประเทศไปทั่วโลกจากการล็อคผลบอลระหว่างทีมยูเวนตุส เอซี มิลาน ฟิออเรนติน่า ลาซิโอและเรจจิน่า จนทำให้มีทีมที่ต้องถูกตัดคะแนน ปรับตกชั้นรวมถึงปลดออกจากตำแหน่งแชมป์ในปีนั้นเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการ ฟุตบอลอิตาลี และกลายเป็นช่วงยิ่งใหญ่ของสโมสรอย่างอินเตอร์ มิลานในช่วงเปลี่ยนผ่านขณะนั้น
เรื่องราวกับล็อคผลเกิดจากการฟังเสียงโทรศัพท์ของผู้จัดการทั่วไปทีมยูเวนตุสอย่างลูเซียโน่ มอจจี้ที่ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ในสมาคมฟุตบอลอิตาลีถึงการทำหน้าที่ของกรรมการในแต่ละเกมเพื่อช่วยให้ตัดสินเข้าข้างพวกเขา รวมถึงวิจารณ์กรรมการในตำนานอย่างปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่าที่ทำหน้าที่ในเกมของพวกเขาอย่างมีอคติ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องและสั่งลงโทษแก่ทีมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ทีมที่โดนลงโทษหนักที่สุดก็คือยูเวนตุสแชมป์กัลโช่ ซีรีย์อาในปีนั้น โดยพวกเขาจะต้องถูกปรับ 9 แต้มอีกทั้งต้องหล่นไปเล่นในลีกรองของอิตาลีอย่าง ซีรีย์บีแทน ส่วนทีมอย่างเอซี มิลานและจะโดนปรับแต้มถึง 30 คะแนน แต่ยังสามารถเล่นในลีกสูงสุดต่อไปอีกทั้งยังถูกห้ามลงเล่นในฟุตบอลยุโรปเช่นเดียวกับลาซิโอและฟิออเรนติน่าในปีเดียวกันอีกด้วย ส่วนสโมสรเล็กๆ อย่างเรจจิน่าจะไม่ได้ถูกสั่งห้ามหรือปรับแต้ม แต่เป็นประธานสโมสรจะถูกปรับเงินและสั่งพักงานไปถึงสองปีครึ่งเลยทีเดียว
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เองทำให้ทีมอย่างอินเตอร์ มิลานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีความนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์แทนอย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งการมีซลาตัน อิบราฮโมวิชอย่ในทีมทำให้อินเตอร์สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลีถึง 5 สมัยรวดก่อนที่เอซี มิลานกับยูเวนตุสจะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
