เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง

เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง จนทำให้ควบคุมบทบาทของตัวเองได้ด้วย

มวย

ข่าวกีฬาต่างประเทศแม้ว่าชื่อของฮัล์ค โฮแกนจะคุ้นเคยสำหรับแฟนมวยปล้ำชุค 80 ถึงต้น 90 มาตลอดในฐานะหน้าตาของวงการมวยปล้ำ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทธรรมะเบอร์หนึ่งของค่าย รวมถึงมีโอกาสไปแสดงภาพยนตร์อยู่มากมายจนทำให้วงการเป็นที่นิยมถึงขั้นสูงสุด แต่ทว่าเบื้องหลังนั้นเจ้าตัวกลับเป็นคนที่ใช้อิทธิพลหลังฉากอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งภาพการใช้อำนาจของเจ้าตัวได้ส่งผลไปถึงค่ายมวยปล้ำที่เจ้าตัวไปปรากฎตัวไม่ว่าจะเป็นเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นหรือ เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง ก็ตาม

เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง

               เหตุการณ์แรกๆ ที่แฟนมวยปล้ำได้เห็นโฮแกนใช้อิทธิพลหลังฉากก็คือการเป็นคู่เอกในรายการเรสเซิ่ลมาเนียครั้งที่เก้านั่นเอง ซึ่งเดิมทีแมตช์สุดท้ายของค่ำคืนจะเป็นการเจอกันระหว่างฮิตแมนเบรท ฮาร์ทแชมป์โลกในขณะนั้นที่ต้องป้องกันแชมป์กับโยโกะซูน่าผู้ท้าชิงร่างยักษ์ก่อนที่จะเป็นทางฝ่ายหลังที๋โกงและเอาชนะคว้าแชมป์จากฮาร์ทไปได้ แต่ทว่าหลังแมตช์ทางโฮแกนได้เข้ามาพร้อมกับถูกท้าชิงแชมป์ต่อทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะเอาชนะไปได้ท่ามกลางความงุนงงของแฟนๆ

               จากนั้นไม่นานเมื่องทางโฮแกนได้ย้ายไปยังค่ายคู่แข่งในปี 1994 นั้น เจ้าตัวยังมีสัญญากับสมาคม เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง จนทำให้ควบคุมบทบาทของตัวเองได้ด้วย โดยการใช้อิทธิพลหลังฉากของเขาก็เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 1996 ที่เจ้าตัวได้เป็นคู่เอกในรายการสตาร์เคจพร้อมขึ้นปล้ำเจอกับราวดี้ ร็อดดี้ ไพเพอร์ ที่แม้ว่าไพเพอร์จะเป็นผู้ชนะไปได้ แต่ในแมตช์ที่ว่านั้นกลับไม่ใช่การชิงแชมป์โลกแต่อย่างใด ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักมวยปล้ำเชื้อสายสก็อตไม่เคยได้แชมป์โลกเลยตลอดชีวิตของเขา

               ด้วยการใช้อิทธิพลหลังฉากของเขานี่เองทำให้ทางสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงอย่างโฮแกนเลย ซึ่งคนที่หลุดรอดมาได้นั้นก็จะมีเพียงบิลล์ โกลด์เบิร์กและไดม่อน ดัลลาส เพจที่ก้าวขึ้นมาในช่วงที่ผู้นำนิวเวิลด์ออเดอร์เริ่มมีปัญหากับทีมงานหลังฉากนั่นเอง