ริโคเช่

ริโคเช่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นักของ ริโคเช่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ แม้ว่าเจ้าตัวจะสามารถคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาครองได้ในปี 2019 แต่ทว่าเขากลับไร้ทิศทางนับตั้งแต่นั้น จนมีหลายคนมองว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาได้อยู่ในรายการลูช่าอันเดอร์กราวด์ ซึ่งเขาได้รับบทบาทเป็นพรินซ์พูม่าหรือเจ้าชายเสือในฐานะพระเอกของรายการนั่นเอง                เนื่องจาก ริโคเช่ ได้สร้างชื่อเสียงของตัวเองในฐานะนักมวยปล้ำอิสระก็ตาม แต่การเปิดตัวสู่สายตาผู้ชมทั่วประเทศนั้นได้เริ่มต้นในรายการลูช่าอันเดอร์กราวด์ในปี 2014 ซึ่งพรินซ์พูม่าในเวลานั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้นปล้ำในฐานะนักมวยปล้ำระดับสูงของค่ายทันที ก่อนที่เขาจะกลายเป็นแชมป์ใหญ่ของสมาคมด้วยการเอาชนะในเอซเทค วอร์แฟร์ครั้งแรกได้นั่นเอง ก่อนที่เขาจะถือเข็มขัดเส้นนี้ไปจนถึงตอนจบของซีซั่นที่แรกเขาพ่ายแพ้ต่อมิล มูเออร์เตส                หลังจากที่ริโคเช่ภายใต้หน้ากากนั้นได้เสียแชมป์ไปแล้ว เจ้าตัวก็ได้มีเรื่องราวกับทางตำนานของวงการอย่างเรย์ มิสเตอร์ริโอ โดยทั้งคู่ได้จับคู่กันเพื่อคว้าแชมป์ทรีโอร่วมกับเอลดราก้อน เอซเทก้ามาได้ ก่อนที่ต่อมาทั้งสองจะท้าเจอกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งแทน ซึ่งสุดท้ายจะเป็นราชันย์แห่งวงการที่เอาชนะไปได้ จนกระทั่งในซีซั่นสุดท้ายนั้นเจ้าตัวจะขอท้าชิงแชมป์ลูช่าอันเดอร์กราวน์อีกครั้งพร้อมกับเอาอาชีพในสมาคมเป็นเดิมพันอีกด้วย ริโคเช่ ภายใต้หน้ากากนั้นได้เสียแชมป์ไปแล้ว                แน่นอนว่ากลายเป็นริโคเช่ที่พ่ายแพ้ไปพร้อมกับปิดฉากอาชีพในลูช่าอันเดอร์กราวด์อีกด้วย แม้ว่าเขาจะมีปัญหาเรื่องสัญญากับทางค่ายเดิมก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วช่วงเวลาที่เจ้าตัวกลายเป็นพรินซ์พูม่านั้นก็ถือว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนักมวยปล้ำคนนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากการเป็นนักมวยปล้ำที่เน้นการบินท่าสวยๆ ไปสู่การเล่าเรื่องบนเวทีแทน

Continue Reading
จอน มอกซ์ลีย์

จอน มอกซ์ลีย์ กับความสำคัญของแชมป์โลกเออีดับเบิ้ลยูของมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศเรียกได้ว่าเป็นชีวิตใหม่ของ จอน มอกซ์ลีย์ เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นแชมป์โลกประจำสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสก็อต ฟิชแมนจากทีวีอินไซเดอร์ว่าเข็มขัดที่เขาครอบครองอยู่นั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมากและเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับวงการมวยปล้ำ แม้ว่าทางโคดี้เพื่อนร่วมสมาคมของเขาจะประกาศว่าแชมป์ทีเอนทีที่เจ้าตัวเป็นแชมป์อยู่ก็สำคัญไม่แพ้กันก็ตาม                ในอาชีพของ จอน มอกซ์ลีย์ นั้นเขาถือว่าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ในสมาคมอิสระ เมื่อเข้าคว้าแชมป์ประจำสมาคมคอมแบตโซน ก่อนที่จะได้ย้ายไปสู่สมาคมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูอีพร้อมคว้าแชมป์สำคัญได้มากมายและเป็นแกรนด์สแลมหรือแชมป์หลักสี่เส้นจนจบอีกด้วย จนกระทั่งในปี 2019 ที่เขาตัดสินใจลาออกจากสมาคมและย้ายมาสู่ออลอีลีทเรสลิ่งจากคำเชิญชวนของคริส เจอริโก้นั่นเอง                หลังจากที่มอกซ์ลีย์ได้ย้ายมาสมาคมใหม่แล้วนั้น เขาก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะคว้าแชมป์โลกมาจากคริส เจอริโก้ได้ในรายการเรฟโวลูชั่นในช่วงต้นปี 2020 พร้อมทั้งป้องกันแชมป์จากนักมวยปล้ำมากมายไม่ว่าจะเป็นเจค เฮกเกอร์ มิสเตอร์โบรดี้ ลีหรือแลนซ์ อาร์เชอร์ โดยเขาได้มองว่าการทุ่มเทของเจ้าตัวนี้เองที่ทำให้เข็มขัดเส้นนี้กลายเป็นแชมป์ที่มีคุณค่ามากของวงการนี้และเขาก็ป้องกันตำแหน่งด้วยความภูมิใจเช่นกัน จอน มอกซ์ลีย์ นั้นเขาถือว่าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ในสมาคมอิสระ                แม้ว่าทางมอกซ์ลีย์จะชี้ชัดว่าเข็มขัดของเขาคือแชมป์โลกตัวจริงก็ตาม แต่ในสมาคมเดียวกันนั้นก็ยังมีเข็มขัดอย่างทีเอนที ซึ่งเป็นเส้นที่โคดี้เจ้าของตำแหน่งมองว่าเป็นเส้นที่สำคัญที่สุดในสถานีโทรทัศน์นั่นเอง แต่ทางจอนก็มองว่าเขาไม่สนใจที่จะมาทำสงครามข้อความกับโคดี้ผ่านทวิตเตอร์อย่างที่ฝ่ายหลังเขียนข้อความไว้นั่นเอง

Continue Reading
มวยไทย

มวยไทย ซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แม้ในความจริงศิลปะแขนงหนึ่ง

ประเทศไทยเรานิยามตัวเองว่าคือเจ้าแห่งศิลปะ มวยไทย ซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แม้ในความจริงศิลปะแขนงนี้จะเป็นวัฒนธรรมร่วมของชาวอุษาคเนย์ก็ตามที และด้วยความนิยมของคนไทยที่ชื่นชอบการเสพศิลปะ มวยไทย ผ่านการรับชมการแข่งขันเวทีต่าง ๆ ติดตามต่อในข่าวกีฬา ทั้งเวทีมาตรฐาน (ลุมพีนี-ราชดำเนิน) และมวยตู้ (ถ่ายทอดตามช่องโทรทัศน์) ซึ่งเวทีจำนวนมากเช่นนี้ทำให้นักมวยมีโอกาสขึ้นชกโชว์ฝีมือ แต่มันจะช่วยให้สามารถชกมวยสากลเก่งด้วยหรือไม่นั้น วันนี้เราจะมาหาข้อเท็จจริงกัน           ก่อนอื่นต้องกล่าวก่อนว่ามวยไทยกติกาสามารถใช้ได้ทุกส่วน เท้า หมัด เข่า ศอก นั่นจึงทำให้นักมวยไทยแต่ละคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง จนถึงขั้นมีการตั้งฉายา เช่น ที่บ้านรับจ้างตีเข่า (เก่งแทงแข่า)  , ศอกอาบยาพิษ (ชำนาญการสับศอกใส่คิ้วคู่ต่อสู้) แข้งพิชิตก้านคอ (เก่งเตะเพื่อน็อคคู่ต่อสู้) และหมัดทลวงไส้ (การน็อคคู่ต่อสู่ด้วยหมัด) ซึ่งหากไล่เรียงจะพบว่าสไตล์นักมวยไทย เชี่ยวชาญการใช้เข่า ศอก เท้า และหมัด ไล่เรียงลงมาตามลำดับ โดยสาเหตุที่เข่าและศอก มีมาก เพราะเป็นอาวุธที่รุนแรง การโดนอย่าจังเพียงครั้งเดียวสามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้ทันที แต่การเตะกับต่อยนั้นจัดเป็นอาวุธเบาที่ยากแก่น็อคคู่ต่อสู้ ทำให้ส่วนใหญ่เป็นเพียงการป้องกันตัวกับตอบโต้เท่านั้น           เมื่อแต่เมื่อนักชกคนหนึ่งๆ จะเปลี่ยนมาชกมวยสากล ทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับหมัดเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะรับหรือโจมตี รวมถึงสเต็ปเท้าก็เปลี่ยนแปลงไป  นั่นจึงทำให้เห็นได้ว่า แม้จะขึ้นชื่อว่ามวยเหมือนกัน  แต่ทั้งมวยไทยกับมวยสากล […]

Continue Reading
บูเกอร์ที

บูเกอร์ที นักมวยปล้ำระดับสูงสู่ตัวตลกในปี 2002ก่อนที่ค่ายจะถูกปิด

ในข่าวต่างกีฬาต่างประเทศช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทอยู่พอสมควรสำหรับ บูเกอร์ที ซึ่งเคยเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงของสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งในช่วงปี 2000 ก่อนที่ค่ายจะถูกปิดตัวไปในปีต่อมา โดยเขาได้ย้ายมาอยู่ในสมาคมคู่แข่งอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ทว่าเขากลับได้รับบทบาทจากนักมวยปล้ำขั้นสูงไปสู่การเป็นคนขายเสียงหัวเราะคู่กับโกลดัสจนทำให้ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปและไม่คู่ควรกับแชมป์โลกอีกเลย                ในช่วงเวลาที่ บูเกอร์ที ได้ย้ายมาสมาคมใหม่นั้น เขาก็ได้เข้ามาในฐานะแชมป์โลกของดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั่นเอง ก่อนที่เขาจะมีเรื่องราวกับเดอะร็อคจนเสียแชมป์ไป ส่วนเขาก็กลายเป็นเพียงนักมวยปล้ำคนหนึ่งของกลุ่มเอนไลเอนซ์ที่ต้องมาสู้นักมวยปล้ำในค่ายใหม่ จนกระทั่งไปมีเรื่องสโตนโคล สตีฟออสตินที่โดนเล่นงานจนเสียภาพลักษณ์ตามด้วยการไปจับคู่กับเทสต์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก                จนกระทั่งในปี 2002 นั้นทางสมาคมก็มีแผนเปลี่ยนบทบาทของบูเกอร์ทีอีกครั้ง โดยเจ้าตัวได้มีเรื่องราวกับโกลดัสนักมวยปล้ำสายฮาที่มักจะแต่งตัวแปลกๆ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชม ซึ่งได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าตัวจนกลายเป็นนักมวยปล้ำที่เป็นมิตรมากขึ้น แต่ทว่านั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำแทคทีมอีกครั้งพร้อมคว้าแชมป์แทคทีมมาครองได้กับเพื่อนคนใหม่อีกหนึ่งสมัย                จากการเป็นนักมวยปล้ำแทคทีมและเน้นความสนุกนี่เองได้ทำให้บูเกอร์ทีได้รับความนิยมจากแฟนๆ อย่างมากก่อนจะมีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งกับทริปเปิ้ลเอช แต่สุดท้ายเจ้าตัวเป็นฝ่ายแพ้ไปและท้าชิงแชมป์ไม่สำเร็จ โดยเขาต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว ก่อนจะกลับไปสู่จุดสูงสุดได้อีกครั้งในปี 2006 นั่นเอง

Continue Reading
แชมป์เพียว

แชมป์เพียว เข็มขัดแสนบริสุทธิ์ของวงการมวยปล้ำสมาคมอาร์โอเอช

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับเป็นเสน่ห์ของวงการมวยปล้ำอย่างหนึ่ง สำหรับ แชมป์เพียว ของสมาคมอาร์โอเอชที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของเข็มขัดระดับกลาง โดยมีกติกาพิเศษอยู่สามข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสียแชมป์ได้ทุกวิธีซึ่งต่างออกไปจากแชมป์เส้นอื่นๆ ที่เจ้าของตำแหน่งจะเสียเข็มขัดเมื่อมีการทำฟาวล์หรืออยู่นอกเวทีจนกรรมการนับถึงสิบ แต่ทว่าเข็มขัดเส้นนี้ก็มีอายุได้เพียงสองปีเท่านั้นก่อนจะเกิดการรวมแชมป์ในเวลาต่อมา                สำหรับ แชมป์เพียว คนแรกของสมาคมอาร์โอเอชนั้นก็คือเอเจ สไตล์นักมวยปล้ำมากฝีมือนั่นเอง โดยเขาสามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดคนในทัวร์นาเมนท์ที่ต้องสู้ให้จบภายในค่ำคืนเดียว ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบปัญหาเรื่องสัญญากับสมาคมทีเอนเอจนทำให้เขาถูกปลดแชมป์ ก่อนที่จะเกิดการสร้างทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งและคราวนี้ก็เป็นยอดฝีมือจากอังกฤษอย่างดัก วิลเลี่ยมเอาชนะไปได้นั่นเอง                หลังจากที่ดัก วิลเลี่ยมได้เริ่มต้นเส้นทางของแชมป์เพียวอย่างเป็นทางการนั้น นักมวยปล้ำที่สร้างชื่อให้แก่เข็มขัดนี้ที่แท้จริงก็คือไนเจล แมคกินเนสนักมวยปล้ำจากประเทศอังกฤษอีกคนที่สามารถครองตำแหน่งได้นานมาถึง 350 วัน รวมทั้งป้องกันแชมป์ได้ทั้งสิ้น 16 ครั้ง ก่อนที่ต่อมาเขาจะมาแพ้ให้กับแมตช์รวมแชมป์ที่เจอกับไบรอัน เดเนี่ยลสันที่ครองแชมป์โลกในขณะนั้น ก่อที่สุดท้ายทางไบรอันจะยกเข็มขัดเส้นนี้ให้ไนเจลและยกเลิกการมีอยู่ของเส้นเพียวในที่สุด                แม้ว่าแชมป์เพียวจะถูกยุติไปนานถึง 14 ปีก็ตาม แต่สุดท้ายทางสมาคมอาร์โอเอชก็ได้นำเข็มขัดเส้นบริสุทธิ์นี้กลับมาอีกครั้ง โดยมีการจัดทัวร์นาเมนต์ทั้ง 16 คนเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนี้อีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทางโจนาธาน เกรแชมที่กลายเป็นผู้ชนะและเจ้าของตำแหน่งคนที่ 8 ของเข็มขัดเส้นนี้นั่นเอง

Continue Reading
แมตต์ ริดเดิ้ล

แมตต์ ริดเดิ้ล ซึ่งได้ย้ายไปอยู่สังกัดรอว์ในช่วงดราฟต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นปล้ำกับอดีตแชมป์โลก

เป็นการผลักดันที่แปลกประหลาดอยู่พอสมควร สำหรับกรณีของ แมตต์ ริดเดิ้ล ซึ่งได้ย้ายไปอยู่สังกัดรอว์ในช่วงดราฟต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นปล้ำกับอดีตแชมป์โลกอย่างเชมัสและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนทางวินซ์ แมคแมนเริ่มให้ความสนใจและต้องการจะผลักดันนักมวยปล้ำสายอาร์ทคนนี้ในอนาคตอันใกล้ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการถอดชื่อจริงอย่างแมตต์ ออกไปแบบที่แฟนๆ ยังคงไม่เข้าใจอีกด้วยติดต่ามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                แมตต์ ริดเดิ้ล นั้นได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการมวยปล้ำหลังจากที่เขาลาออกจากวงการศิลปะป้องกันตัวในปี 2014  โดยเขาได้เปิดตัวในการปล้ำครั้งแรกในปี 2015  พร้อมกับสร้างชื่อเสียงผ่านสมาคมอิสระต่างๆ อย่างอีโวฟและโปรเรสลิ่งเกอร์ริล่า ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกของเวิลด์เรสลิ่งเน็ตเวิร์กหนึ่งสมัยและแชมป์โลกของอีโวฟอีกหนึ่งสมัยด้วยกัน ก่อนที่ต่อมาเขาจะย้ายมาสู่ค่ายเอนเอกซ์ทีในปี 2018 `              หลังจากที่ริดเดิ้ลได้เข้ามาอยู่ในบริษัทของวินซ์ แมคแมนแล้ว เขาก็ได้เริ่มต้นในค่ายพัฒนาทักษะอย่างเอนเอกซ์ทีทันที โดยเขาเคยมีโอกาสได้ชิงแชมป์เอนเอกซ์ทีและแชมป์ทวีปอเมริกาเหนือ แต่ทว่าเขาไม่เคยประสบความสำเร็จเลย จนกระทั่งเปลี่ยนมาจับคู่กับพีท ดันน์และสามารถคว้าแชมป์แทคทีมของค่ายมาครอง ก่อนที่ต่อมาเขาจะถูกเรียกตัวขึ้นมาปล้ำในค่ายสแมคดาวน์ที่กำลังมาแรงแทน                ด้วยการขึ้นไปสู่ค่ายที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ทางริดเดิ้ลถูกตัดชื่อแมตต์ออกไปในที่สุด เนื่องจากทางวินซ์ แมคแมนต้องการจะให้เขามีบทบาทที่จริงจังมากขึ้น รวมทั้งเรื่องราวของสังเวียนที่เขามีข่าวพัวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศกับนักมวยปล้ำหญิงจนโดนฟ้องอยู่อีกด้วย

Continue Reading
สติง

สติง กับ ฮัล์ค โฮแกนนั้นเริ่มต้นจากการที่รายแรกได้พลิกบทบาท

ข่าวกีฬาต่างประเทศในช่วงท้ายของการมีอยู่ของสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งนั้น ถือเป็นช่วงที่วินซ์ รูสโซ่เป็นหัวหน้าทีมบริหารของสมาคม แต่ทว่าเรื่องราวบนสังเวียนนั้นกลับออกมาอย่างไม่เป็นระบบจนทำให้เกิดเหตุการณ์เล่นนอกบทอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกแฟนๆ จดจำนั้นก็คือรายการฮัลโลวีน ฮาวอคที่ทาง สติง มีคิวจะต้องป้องกันแชมป์โลกกับฮัล์ค โฮแกนแต่สุดท้ายกลับเกิดเรื่องจนทำให้สุดท้ายคู่เอกจะเป็นทางเจ้าของตำแหน่งมาป้องกันกับโกลด์เบิร์กแทน                 สำหรับเนื้อเรื่องระหว่าง สติง กับฮัล์ค โฮแกนนั้นเริ่มต้นจากการที่รายแรกได้พลิกบทบาทกลายเป็นฝ่ายอธรรมเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีสมาคมเกิดขึ้นมา จากการที่เขาเป็นคนหักหลังโฮแกนในรายการฟอลบรอล์และคว้าแชมป์โลกไปครองได้ในที่สุด ก่อนที่จะมีการประกาศให้รีแมตช์เกิดขึ้นในฮัลโลวีน ฮาวอคแต่ทว่าทางฮัล์คสเตอร์กลับเดินออกมาในชุดปกติและปล่อยให้แชมป์โลกจับกดนับสามไปง่ายๆ ท่ามกลางความงงของคนดู                หลังจากที่แมตช์แชมป์โลกจบลงไปอย่างน่ากังขา ทางสติงก็ออกมาประกาศว่าเขาขอท้าใครก็ได้มาเจอกับเขาในช่วงคู่เอกของรายการ ซึ่งระหว่างนั้นทางโกลเบิร์กที่ต้องไปท้าชิงแชมป์สหรัฐอเมริกากับซิด วิเชียสก็สามารถเอาชนะและคว้าแชมป์อเมริกันมาครองเป็นสมัยที่สองได้อีกด้วย ก่อนที่เขาจะไปท้าเจอกับแชมป์โลกในเวลานั้นพร้อมกับเอาชนะไปได้แบบนอกรอบ ซึ่งแฟนๆ ในสนามยังสับสนว่าตกลงแล้วมีแชมป์คนใหม่หรือไม่                ด้วยความงุนงงของบทสรุปในรายการฮัลโลวีน ฮาวอคนี้เองทำให้ทางสติงถูกปลดออกจากการเป็นแชมป์ โดยเจ้าตัวกับโกลด์เบิร์กก็ได้เข้าร่วมในทัวร์นาเมนต์เพื่อหาแชมป์โลกคนใหม่ที่ผู้เข้าชิงชนะเลิศจะได้ขึ้นปล้ำในคู่เอกรายการเมย์เฮม ซึ่งได้ทางเบรท ฮาร์ทที่ครองแชมป์ไปได้นั่นเอง ติดตามข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
เล็กซ์ ลูเกอร์

เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักของแฟนมวยปล้ำในยุค 80 และ 90 อยู่พอสมควร

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้ขอเสนอชื่อของ เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักของแฟนมวยปล้ำในยุค 80 และ 90 อยู่พอสมควร จากบทบาทของชายงามที่มีรูปร่างดีกว่าคนอื่นเพราะเขาเคยเป็นนักเพาะกายมาก่อน แต่ทว่าหลังจากที่เขาไปอยู่ในค่ายของวินซ์ แมคแมนนั้นเขากลับถูกเปลี่ยนบทบาทจากชายผู้หลงตัวเองกลายเป็นฮัล์ค โฮแกนคนที่สองที่เน้นความรักชาติอเมริกันเป็นหลักจนทำให้เขาไม่เป็นที่ยอมรับของแฟนๆ จนต้องย้ายกลับค่ายเก่าในที่สุด                ที่จริงแล้วความสำเร็จของ เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 1990 เมื่อเขามีคิวชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับริค แฟลร์ แต่ทว่าแฟลร์ได้ลาออกจากสมาคมไป ทำให้ต้องมีการหาแชมป์คนใหม่ ก่อนที่ทางเล็กซ์จะเอาสามารถเอาชนะแบร์รี่ วินด์แฮมพร้อมคว้าแชมป์สูงสุดไปครองได้สำเร็จ แต่หลังจากที่เขาเสียแชมป์ให้สติงนั้น เจ้าตัวก็ต้องการที่จะย้ายไปเอาด้านการเพาะกายรวมทั้งเซ็นสัญญากับค่ายของวินซ์ แมคแมนแทน                ถึงแม้ว่าการเซ็นสัญญาของเล็กซ์ ลูเกอร์จะใช้เพื่อเข้าวงการเพาะกายก็ตาม แต่ทว่าเขากลับประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์จนทำให้เขาไม่ได้ลงประกวดอีกต่อไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้กลับสู่วงการมวยปล้ำอีกครั้งในฐานะชายงาม ก่อนที่จะโดนพลิกบทบาทเป็นอเมริกันฮีโร่แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งต้องกลับไปอยู่สมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง พร้อมกับคว้าแชมป์โลกมาจากฮัล์ค โฮแกนได้อีกด้วย                น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเล็กซ์ ลูเกอร์ก็มีโอกาสเป็นแชมป์โลกเพียงสองสมัยและมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดจากการปล้ำในลีคแทคทีมคู่กับสติง โดยบทบาทชายงามที่เขาใช้มาตลอดนั้นก็ต้องจบลงไปในปี 2007 ที่เขาเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรนจนเป็นอัมพาตไปชั่วคราว แม้ว่าเขาจะรักษาตัวจนกลับมาเดินได้อีกครั้งแล้วก็ตาม

Continue Reading
ทริปเปิ้ลเอช

ทริปเปิ้ลเอช กลายเป็นนักมวยปล้ำชั้นนำของค่ายในเวลาต่อมา

ข่าวกีฬาต่างประเทศในตอนนี้ถ้าพูดถึงสุดยอดนักมวยปล้ำสายอธรรมในปี 2000 นั้นคงมีเพียงสองชื่อที่หลุดเข้ามาในหัวของแฟนมวยปล้ำนั่นก็คือ ทริปเปิ้ลเอช กับสก็อต สไตเนอร์นั่นเอง โดยทางฝ่ายแรกก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1999 ก่อนจะลากยาวมาถึงปี 2000 ส่วนทางสก็อตก็คว้าแชมป์สมัยแรกมาได้ในรายการเมย์แฮมในปีเดียวกัน จนกระทั่งในปี 2003 นั้นทางสองอคนมีโอกาสมาเจอกัน แต่ทว่าผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้                หลังจากที่ทางสงครามวันจันทร์ของวงการมวยปล้ำจบลงด้วยชัยชนะของวินซ์ แมคแมนนั้น ทาง ทริปเปิ้ลเอช ก็กลายเป็นนักมวยปล้ำชั้นนำของค่ายในเวลาต่อมา ส่วนทางนักมวยปล้ำคนอื่นๆ ของค่ายคู่แข่งเก่าอย่างเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งก็ต้องย้ายตามมาเมื่อหมดสัญญาลงไป ซึ่งทางสก็อต สไตเนอร์ก็ย้ายกลับมาสู่ค่ายใหม่ในรายการเซอร์ไวเวอร์ ซีรียส์พร้อมกับเป็นนักมวยปล้ำอิสระที่จะย้ายไปปล้ำที่ค่ายใดค่ายหนึ่งระหว่างรอว์กับสแมคดาวน์                ด้วยการที่เจ้าตัวเลือกค่ายรอว์นั่นเอง ทำให้เขามีโอกาสเจอกับทริปเปิ้ลเอชที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น ก่อนที่ทั้งสองคนจะมีโอกาสเจอกันในรายการรอยัลรัมเบิ้ลและโนเวย์เอาท์ ซึ่งจบลงด้วยการเอาชนะของแชมป์โลก แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในแมตช์นั้นกลับทำให้แฟนๆ วิจารณ์อย่างมากว่าฝีมือของพวกเขาใช้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความช้าของแมตช์และการไม่ถูกกันหลังฉากของทั้งสองคน ทริปเปิ้ลเอช ที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น                หลังจากที่จบเรื่องกับทริปเปิ้ลเอชแล้ว ทางสก็อต สไตเนอร์ก็ได้ลาออกจากสมาคมไป ก่อนที่จะยังไปปรากฏตัวในสมาคมอิมแพคเรสลิ่งเป็นหลัก พร้อมความแชมป์แทคทีมมาครองได้ถึงสองสมัย แต่ทว่าเจ้าตัวก็ไม่มีโอกาสไปถึงจุดสูงสุดอีกเลย โดยที่ป๋ากล้ามยังคงโชว์ตัวอยู่ในสมาคมอิสระอยู่บ้างในปัจจุบัน

Continue Reading
แชด เกเบิ้ล

แชด เกเบิ้ล อดีตแชมป์แทคทีมของค่ายสแมคดาวน์และเอนเอกซ์ทีคู่กับเจสัน จอร์แดนในนามว่าอเมริกัน อัลฟ่า

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้ถือเป็นนักมวยปล้ำมากความสามารถอีกหนึ่งคนสำหรับช็อตตี้จีหรือ แชด เกเบิ้ล ซึ่งเป็นอดีตแชมป์แทคทีมของค่ายสแมคดาวน์และเอนเอกซ์ทีคู่กับเจสัน จอร์แดนในนามว่าอเมริกัน อัลฟ่า แต่ทว่าหลังจากที่ทั้งสองคนถูกแยกทีมกันแล้ว ทางนักมวยปล้ำโอลิมปิคร่างเล็กคนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เฉิดฉายในสมาคมอีกเลย อีกทั้งถูกเปลี่ยนชื่อให้กลายเป็นช็อตตี้จีจนกลายเป็นตัวตลกในสายตานักมวยปล้ำอีกด้วย                อาชีพของ แชด เกเบิ้ล ในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์ก็ได้เริ่มจากค่ายพัฒนาทักษะอย่างเอนเอกซ์ทีที่ค่อยปั้นนักมวยปล้ำดาวรุ่งเพื่อนำไปต่อยอดในรายการใหญ่อย่างรอว์และสแมคดาวน์ ซึ่งทางแชดกับคู่หูอย่างเจสัน จอร์แดนก็ได้ร่วมทีมกันในชื่ออเมริกัน อัลฟ่าที่ประสบความสำเร็จในการชิงแชมป์แทคทีมกับรีไววัลคู่แข่งในรายการเอนเอกซ์ทีเทคโอเวอร์ดัลลาส ก่อนที่จะเสียแชมป์คืนในปี 68 วันต่อมา                หลังจากนั้นทางอเมริกันอัลฟ่าก็ได้เรียกตัวขึ้นสู่ค่ายสแมคดาวน์ โดยพวกเขากลายเป็นหนึ่งในแทคทีมระดับสูงของลีก ก่อนที่ในรายการสแมคดาวน์ส่งท้ายปี 2016 นั้นแชด เกเบิ้ลกับเจสัน จอร์แดนจะคว้าแชมป์แทคทีมประจำค่ายมาได้อีกครั้ง ก่อนที่ต่อมาไม่นานทีมอเมริกันอัลฟ่าจะจบลงไป เมื่อจอร์แดนถูกย้ายไปรอว์ เหลือแต่เขาเพียงคนเดียว ก่อนที่จะมีบทกลายเป็นช็อตตี้จีที่มีเรื่องราวกับบาร่อน คอร์บิ้นแทน อาชีพของ แชด เกเบิ้ล ในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์                หลังจากที่ช็อตตี้จีแพ้ให้กับนักมวยปล้ำหน้าใหม่อย่างลาร์ ซูลิแวนนั้น เจ้าตัวก็ขอลาออกกลางเวทีเลยทีเดียว ก่อนที่เขาจะไปอธิบายที่หลังฉากว่า เขาจะกลับมาชื่อแชด เกเบิ้ลอีกครั้งและต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเขานั้นมีฝีมือมากพอ โดยเจ้าตัวเคยโชว์ผลงานปล้ำเดี่ยวให้เห็นอยู่เป็นระยะอีกด้วย

Continue Reading