คลาเรสซ่า ชิลด์

คลาเรสซ่า ชิลด์ กับสาเหตุที่ไม่ไปชกที่ยูเอฟซีแต่เลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน

ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดคาดไม่น้อย เมื่อทางนักชกอย่าง คลาเรสซ่า ชิลด์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองไม่ได้ต้องการไปขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวในสมาคมดังอย่างยูเอฟซีและเลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน ซึ่งอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิคนั้นได้รับการขนาดนามว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนตัวเองเลือกจะย้ายวงการมาสู้แบบศิลปะป้องกันตัวหรือเอ็มเอ็มเอแทน โดยเจ้าตัวมีเป้าหมายว่าจะเป็นสุดยอดนักกีฬาของทั้งสองวงการเลยทีเดียว                สิ่งที่ คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวนั้นจะเป็นลูกผสมระหว่างมวยปล้ำกับการโจมตีด้วยขาต่างๆ รวมถึงการจับทุ่ม ซึ่งตัวเธอนั้นก็เริ่มฝึกกับตำนานอย่างจอน โจนส์และฮอลลี่ โฮมส์อีกด้วย แม้ว่าตัวเธอจะยังคงใหม่กับวงการนี้ก็ตามและยังคงไม่มีแผนที่จะรีบเปิดตัวในการสู้ครั้งต่อไปของเธอด้วยการเจอกับนักแข่งที่เคยลงสนามมาแล้ว นอกจากนี้เธอยังได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุว่าทำไมตัวเองถึงเลือกไปสู้กับพีเอฟแอลแทนยูเอฟซีทั้งที่รู้จักกับประธานอย่างดาน่าไวท์อีกด้วย คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชก                ตามการสนทนาระหว่างคลาเรสซ่า ชิลด์กับดาน่า ไวท์นั้น ทางนักชกได้บอกว่าตัวประธานคนนี้ต้องการจะให้เธอสู้ครั้งเดียวบนเวทีแปดเหลี่ยมของเขา โดยที่จะให้สู้กับยอดฝีมือที่มีน้ำหนักเท่าเธอนั่นเอง แต่ทว่าทางนักชกกลับมองว่าตัวเธอต้องการจะฝึกฝนกับอาชีพนี้ให้นานมากพอที่จะขึ้นชก พร้อมกับพัฒนาฝีมือต่อไป ซึ่งหากดาน่าเสนอให้เธอฝึกฝนเป็นเวลานานหรือสองปีนั้นคงจะดีกับตัวเองเธอเองมากกว่า ส่วนในทางพีเอฟแอลนั้นได้เสนอให้เธอได้สู้พร้อมกับพัฒนาตัวเองไปตลอดฤดูกาลที่ทำให้เธอสนใจเลือกทางนี้มากกว่านั่นเอง                เรียกว่าทางนักชกอย่างคลาเรสซ่า ชิลด์น่าจะยังคงมีอนาคตในวงการศิลปะป้องกันตัวอีกมาก เนื่องจากชื่อชั้นของเธอเองตั้งแต่เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นไปจนถึงการเป็นการเป็นนักมวยที่ดีที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ จนกระทั่งเลือกมาเส้นทางการชกอีกแบบหนึ่งที่มีทั้งสมาคมยูเอฟซีกับพีเอฟแอลอีกด้วย ติดตามข่าวกฬาต่าง ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส

ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส กับคดีคุกคามทางเพศต่อหญิงสาวคนหนึ่ง

กลายเป็นข่าวเสียหายของวงการก็ว่าได้ เมื่ออดีตนักสู้ในรายการอัลติเมทไฟท์เตอร์อย่าง ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส ได้ถูกกล่าวหาในคดีคุกคามทางเพศต่อหญิงสาวคนหนึ่งในบ้านของเธอจนจำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลในเมืองอัลบูคีคีซึ่งมีหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิดของที่บ้านเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย  แต่ทว่าตัวศาลนั้นจะไม่มีคำสั่งกักจำเลยไว้ เนื่องจากตัวเขาไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและมีโอกาสเรียกกลับมาสืบสวนต่อไปในอนาคต แม้ว่าทางฝ่ายชายจะออกมาปฏิเสธและพูดถึงเหตุการณ์ที่ว่านั้นเป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย                จากมุมมองของฝ่ายโจทย์นั้นเธอได้ชี้แจงต่อศาลว่า ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส เคยเป็นผู้ฝึกสอนเธอมาก่อน อีกทั้งมีการฝึกสอนภายในบ้าน แต่ทว่าตัวเองกลับมีอาการบาดเจ็บที่ขาและต้องการนวดเพื่อรักษาอาการ โดยระหว่างที่ทั้งสองร่วมกินข้าวเช้าด้วยกันนั้น ฝ่ายเจ้าหน้าสืบสวนก็สังเกตเห็นว่านักสู้คนนี้อาจเอาบางอย่างใส่ไปในเครื่องดื่มของเธอ หลังจากนั้นยังมีวิดีโอที่แสดงเหตุการณ์ว่าตัวเหยื่อนั้นหมดสติไปและไม่รับรู้ใดๆ แม้ว่าสุนัขของตัวเองจะมาเล่นด้วยก็ตาม ส่วนทางราฟาเอลก็มีการสัมผัสตัวเธออย่างไม่เหมาะสมเช่นกัน ราฟาเอล เดอเฟรย์ตาส เคยเป็นผู้ฝึกสอนเธอมาก่อน                ในอีกด้านหนึ่งของฝ่ายจำเลยอย่างราฟาเอล เดอเฟรย์ตาสเองได้ชี้แจงว่า ตัวผู้หญิงคนนี้มีความยินยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้และทั้งสองเป็นเพื่อนกันที่พัฒนาความสัมพันธ์จนเกิดเป็นการร่วมรักขึ้นมา ซึ่งจากวิดิโอนั้นตัวเธอเองก็มีพฤติกรรมร่วมอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่ลูกความของเขาเท่านั้นที่จะทำเรื่องคุกคามทางเพศอย่างที่ถูกกล่าวหา  นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อความของฝ่ายโจทย์หลังจากเหตุการณ์นั้นว่ามันเป็นเรื่องที่ดีและหวังว่าจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งในวันนั้นฝ่ายนักเรียนเก่าของเขาได้หลับไปและยังมีคำถามอีกว่า ตัวเธอได้ทำอะไรไม่เหมาะสมกับเขาหรือไม่อีกด้วย                แม้ว่าทางราฟาเอง เดอเฟรย์ตาสจะยังไม่ถูกลงโทษก็ตาม แต่ทว่าหากวิดีโอที่ศาลได้ชมนั้นเป็นเรื่องจริง ตัวเขานั้นก็คงไม่น่ารอดจากคดีคุกคามทางเพศนี้ ยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีอดีตนักเรียนตัวเองมาเกี่ยวข้องคงจะทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบากไม่น้อยสำหรับตำนานของวงการต่อสู้คนนี้ ติดตามข่าวกีฬาอื่น ๆ ได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
เรนาโต้ โมอิคาโน่

เรนาโต้ โมอิคาโน่ ที่แพ้ต่อ ราฟาเอล ไฟเซฟ ในรายการยูเอฟซีครั้งที่ 256

กลายเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอยู่พอสมควร หลังจากที่ เรนาโต้ โมอิคาโน่ ได้แพ้ต่อราฟาเอล ไฟเซฟในรายการยูเอฟซีครั้งที่ 256 และทางฝ่ายแรกได้ออกมาโทษว่ากรรมการอาจทำข้อผิดพลาดในการตัดสินจนเขาต้องแพ้ไป โดยทางโมอิคาโน่ได้มองว่าผู้ตัดสินอย่างคริส ทอกโนนี่ว่าตัวเขาสามารถสู้ได้ต่อ แม้ว่าจะโดนเล่นงานร่วงไปก็ตาม ซึ่งผลการตัดสินของไฟท์นี้นั้น นับว่าเป็นชัยชนะครั้งที่สามติดต่อกันของราฟาเอล ไฟเซฟแล้ว ส่วนทางโมอิคาโน่คงต้องหาทางกลับมาเส้นทางชัยชนะต่อไปเช่นกัน                หลังจากจบไฟท์มาแล้วนั้นทาง เรนาโต้ โมอิคาโน่ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรรมการในไฟท์อย่างคริส ทอกโนนี่ไว้ว่า เขาคิดว่าผู้ตัดสินน่าจะทำพลาดในไฟท์ เพราะหากย้อนไปดูในแมตช์นี้ดีๆ นั้น เขายังตั้งการ์ดได้อยู่เลยและเตรียมที่จะโจมตีกลับไปแล้ว แต่คริสกลับเข้ามแทรกกลางก่อนและจะตัดสินให้เขาแพ้ไป แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ต้องการวิจารณ์การทำหน้าที่ของใครก็ตาม ทว่าเขาเองก็เคยถูกเล่นงานจนร่วงมาก่อนจะกลับมาลุกขึ้นสู้และเอาชนะได้มาแล้ว ส่วนการโดนชกกลางแมตช์นั้นมันเป็นเรื่องปกติของกีฬานี้อยู่แล้วด้วย เรนาโต้ โมอิคาโน่ คงจะต้องหาทางกลับมาสู่ชัยชนะของตัวเองอีกครั้ง                ส่วนการพ่ายแพ้ของเรนาโต้ โมอิคาโน่นั้นเจ้าตัวก็ยอมรับเองว่าตัวเขาก็ทำได้ไม่ดีพอ เพราะเขาไม่ยอมทำตามแผนที่เหล่าโค้ชได้วางเอาไว้จนต้องออกมารับสภาพว่า ตัวเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนที่ตัวเองเคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปจนเท้าไม่ติดพื้น แต่ทว่าเขายังมีสติอยู่ตลอดเวลาในไฟท์นี้ แม้ว่าเขาจะได้ไปดูวิดีโอการต่อสู้ของตัวเองและเจ้าตัวก็โดนเล่นงานจนร่วมลงไป แต่ตัวเขาก็พยายามป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนน่าเสียดายที่ไม่สามารถสู้ต่อได้                เรียกว่าทางเรนาโต้ โมอิคาโน่คงจะต้องหาทางกลับมาสู่ชัยชนะของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ตัวเองโชคร้ายในไฟท์และโดนกรรมการยุติการชกมวยไปทั้งที่เจ้าตัวยังเชื่อว่า สามารถสู้ต่อได้ก็ตาม ส่วนสถิติเดิมของตัวเขานั้นถือว่าต้องแพ้มาติดต่อกันถึงสามไฟท์แล้วจากการยุติของผู้ตัดสินเช่นกัน ติดตามข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
แอนโธนี่ โจชัว

แอนโธนี่ โจชัว กับ ไทสัน ฟิวรี่ ที่เคยลองมือกันมาแล้วอย่างดุเดือด

จัดว่าเป็นไฟท์ที่หลายคนต้องการจะชมอย่างมาก สำหรับการเจอกันระหว่างไทสัน ฟิวรี่กับ แอนโธนี่ โจชัว ที่จะเป็นการชิงแชมป์สมาคมมวยโลกถึงสี่สถาบันอย่างดับเบิ้ยูบีโอที่ทางไทสันถืออยู่ ส่วนไอบีเอฟ ดับเบิ้ยยูบีซีและดับเบิ้ลยูบีเอนั้นเป็นทางนักชกรุ่นน้องถืออยู่ นอกจากนี้ทางไทสันยังออกมาพูดถึงอดีตว่าตัวเขาเคยประลองฝีมือกับแชมป์โลกสามสถาบันคนนี้มาแล้วในสมัยที่เจ้าตัวยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ในชมรมมวยแห่งหนึ่งในปี 2010 หรือสิบปีก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสปะทะกันขึ้นมาจริงๆ นั่นเอง                ทางไทสัน ฟิวรี่ได้พูดถึงเหตุการณ์นั้นว่า ตัเวขาไปได้ยังชมรมมวยปล้ำฟินชเลย์และเจอกับแชมป์มวยสมัครเล่นเอบีเออย่าง แอนโธนี่ โจชัว ที่เขามีผลงานที่ร้อนแรงอย่างมาก นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าในเวลานั้นจะสามารถจัดการนักชกรุ่นน้อองได้อย่างสบายๆ เพราะตัวเองก็เนชป็นมืออาชีพ ส่วนอีกฝ่ายเป็นมือสมัครเล่นเท่านั้น และแอนโธนี่เองก็คงสู้ไม่ได้แน่นอนเมื่อเขาตั้งใจจะเอาจริงขึ้นมา ซึ่งในไฟท์นั้นนักชกรุ่นน้องรีบพุ่งเข้ามาหาเขาและรัวหมัดดต่อยซ้ายขวา อีกทั้งยังปล่อยหมัดอัพเพอร์คัทใส่คางเข้าอย่างจังอีกด้วย แอนโธนี่ โจชัว ถือว่ามีฝีมืออย่างมากและยังอายุน้อยอีกด้วย                โดยทางไทสัน ฟิวรี่เองก็ยอมรับว่า ถ้าเขาเป็นพวกคางอ่อนก็คงจะโดนน็อคยาวข้ามเดือนไปเลยทีเดียว ในเวลานั้นทางแอนโธนี่ โจชัวถือว่ามีฝีมืออย่างมากและยังอายุน้อยอีกด้วย เขาจึงเชื่อว่านี่จะเป็นนักชกแห่งอนาคตเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวของไทสันเองก็ชื่อว่าตัวเองมีความสามารถพอจะกลายเป็นดาวดังของวงการมวยได้ ซึ่งตัวเขายังจดจำเหตุการณ์นั้นได้ว่า เจ้าหนูสมัครเล่นคนนี้ต้อกวารจะฆ่าเขาในสังเวียน จนกระทั่งตัวเขาต้องปล่อยเข้าที่ลำตัวของแอนโธนี่เพื่อหยุดการโจมตีลงบ้างและการชกเรียกเหงื่อครั้งนั้นก็จบลงในสามยกพร้อมกับคำชมของไทสันนั่นเอง                นับว่าทางไทสัน ฟิวรี่ก็คงจะรู้จักฝีมือของนักชกรุ่นน้องดีอยู่แล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้างและหากทั้งสองสู้กันจริงๆ ก็คงเป็นไฟท์ที่น่าสนุกของทั้งคู่หลังจากที่เคยลองมือกันมาแล้วในอดีต แต่ทว่าหากเป็นการแข่งในสังเวียนจริงนั้นแอนโธนี่ โจชัวก็คงจะไม่ปล่อยรุ่นพี่ที่เคยสู้กันในอดีตออกไปง่ายๆ เหมือนกับเรเองในปี 2010 ที่เจ้าตัวยังป็นเพียงแต่นักชสมัครเล่อย่างแน่นอนเลยทีเดียว ติดตามข่าวกีฬาอื่นๆได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
เจค พอล

เจค พอล ก็ออกมาท้าทายคนดังรายต่อไปอย่าง คอนเนอร์ แมคเกรเกอร์

หลังจากที่จบรายการระหว่างไมค์ ไทสันกับรอย โจนส์ จูเนียร์ไปด้วยชัยชนะของตัวเองนั้น ทาง เจค พอล ก็ออกมาท้าทายคนดังรายต่อไปอย่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ทันที เมื่อก่อนหน้านี้ทางพี่ของตระกูลพอลสามารถเอาชนะเนท โรบินสันไปได้อย่างง่ายดายจนต้องการท้าทายนักสู้คนใหม่ที่ไม่ง่ายเหมือนเดิม โดยทางตำนานของวงการยูเอฟซีนั้นก็มีคิวขึ้นยกในรายการปีหน้าอยู่เช่นกัน ส่วนทางยูทูบเบอร์นั้นก็คงจะหาทางสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการลองเจอกับนักสู้มืออาชีพสักครั้งนั่นเอง                ในวิดีโอของ เจค พอล นั้นเจ้าตัวได้ออกมาท้าทายในรถสปอร์ตของตัวเอง พร้อมพูดถึงเช็คเงินสดมากกว่า 50 ล้านเหรียญเพื่อให้นักสู้ชื่อดังตอบตกลงกับเขา โดยทางเจ้าตัวได้ส่งสัญญาณหาคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์ไว้และเรียกเขาด้วยคำหยาบคาย พร้อมกับแขวะว่านักชกไอริชคงจะสู้กับคนแก่สักคนในบาร์แถวนั้นหรืออาจจะเบื่อภรรยาที่บ้านอยู่จนไม่รู้จะทำอะไร ทางพอลเลยได้ส่งเช็คไปถึง 50 ล้านและมันเป็นเงินก้อนที่มากที่สุดในชีวิตของคอนเนอร์แล้ว แม้ว่าทางนักสู้ยูเอฟซีจะยังกลัวและไม่กล้าตอบรับคำท้านี้ เจค พอล ก็ได้พูดถึง ดาน่า ไวท์ ประธานสมาคมยูเอฟซี                นอกจากการด่าคอนเนอร์ด้วยถ้อยคำหยาบคายแล้วนั้น ทางเจค พอลก็ได้พูดถึงดาน่า ไวท์ประธานสมาคมยูเอฟซีที่ออกมายืนยันว่าไม่มีทางที่นักสู้ในสังกัดเขาจะไปขึ้นชกกับยูทูบเบอร์คนนี้อย่างแน่นอน จนทางพอลได้ออกมาด่าดาน่าอย่างหนักเช่นกัน ส่วนทางดาน่านั้นคงไม่สนใจการขึ้นชกโชว์อย่างที่ไมค์ ไทสันกับรอย โนส์ จูเนียร์เคยทำมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะมันไม่ต่างกันการแสดงกายกรรมเท่านั้น รวมถึงเขายังมีธุระที่ต้องทำผ่านสมาคมยูเอฟซีของตัวเอง ซึ่งทางคอนเนอร์จะได้กลับมาสู่เวทีกรงเหล็กอีกครั้งหนึ่ง                แม้ว่าคนทั่วโลกจะต้องการเห็นเจค พอลโดนต่อยแค่ไหนก็ตาม แต่ทว่าทางดาน่า ไวท์เองคือคนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้มีการชกที่จริงจังระหว่างคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์กับคนที่ดังมาจากยูทูบแน่นอน ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บของนักสู้ทั้งสองคน แม้ว่าทั้งสองจะเคยขึ้นชกในกติกามวยสากลมาแล้วก็ตาม […]

Continue Reading
ริคาร์โด้ ริคโค่

ริคาร์โด้ ริคโค่ นักปั่นที่โดนห้ามลงแข่งตลอดชีวิตจากโทษใช้สารกระตุ้น

กลายเป็นนักปั่นจักรยานที่หมดอนาคตไปอีกคนสำหรับทาง ริคาร์โด้ ริคโค่ ที่ถูกลงโทษห้ามแข่งขันยาวตลอดชีวิตไปแล้ว จากเดิมที่เจ้าตัวเพิ่งจะโดนสั่งห้ามลงแข่งถึง 12 ปีจากโทษใช้สารกระตุ้นในการแข่งขัน ซึ่งเจ้าตัวเคยทำผิดกฎเอาไว้ตั้งแต่รายการทัวร์เดอฟรองค์ในปี 2008 โดยตัวเขาเองนั้นก็ยอมรับว่ามีการใช้ยาต่างๆ เพื่อรักษาอาการป่วยของเขาที่ต้องเข้ารักษาผ่านการถ่ายเลือดมาก่อน ก่อนที่จะมาโดนสมาคมสั่งห้ามลงแข่งขันอีกต่อไป นอกจากนี้ตัวเองยังต้องล้มป่วยผ่านวิธีการรักษาดัวกล่าวอีกด้วย                ก่อนหน้าจะมีคำตัดสินนี้นั้น ทาง ริคาร์โด้ ริคโค่ ก็ต้องเข้ารับการรักษาจากโรคไตวายที่ประเทศอิตาลีและเชื่อว่ามีอาการหนักอยู่พอสมควร โดยครั้งหนึ่งนั้นเจ้าตัวเคยโดนสั่งห้ามลงแข่งกันมาก่อนถึง 20 เดือน เมื่อพบตรวจพบว่าเขาใช้สารกระตุ้นในการแข่งขันที่ประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งกลับมาลงแข่งอีกครั้งหนึ่ง ทว่าการโดปของเขานั้นก็ยังเป็นปัญหาต่อไปจนกระทั่งต้องเข้าโรงพยาบาลจากการพยายามถ่ายเลือดด้วยตัวเอง ที่ทีมแพทย์มาพบหลังจากเขามีอาการไตวายไปแล้วและทำให้ทีมงานต้องโดนสั่งห้ามเกี่ยวข้องกบการแข่งขันใดๆ เช่นกัน ริคาร์โด้ ริคโค่ ก็ต้องเข้ารับการรักษาจากโรคไตวายที่ประเทศอิตาลี                แม้ว่าทางริคาร์โด้ ริคโค่จะพยายามโต้แย้งว่ามันคือการรักษาตัวแบบหนึ่งด้วยการใช้ธาตุเหล็ก แต่ทว่าทางผู้เชี่ยวชาญกลับไม่เชื่อในข้ออ้างจากเขา เพราะอาการที่เจ้าตัวมีนั้นไม่น่าเกี่ยวกับธาตุเหล็กแต่อย่างใด โดยครั้งหนึ่งทางริคาร์โด้ก็ต้องจะลาวงการนักปั่นไปอย่างถาวรเพราะเจ้าตัวรู้สึกว่ามันทำให้ร่างกายของเขาต้องป่วยหนัก แต่ทว่าเขาก็ยังคงแข่งในรายการต่างๆ ต่อไป จนกระทั่งมาโดนสั่งห้ามแข่งในกีฬาอย่างอื่นต่อไป ซึ่งก็ทำให้เขาต้องถูกยีดรางวัลคืนในรายการทัวร์เดอฟรองค์ที่เคยสร้างชื่อมาแล้วอีกด้วย                นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของริคาร์โด้ ริคโค่ก็ว่าได้ที่หันไปหาสารกระตุ้นที่ช่วยให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูได้ไวมากขึ้น จนทำให้ชีวิตต้องลงเอยเหมือนกับแลนซ์ อาร์มสตรองอดีตนักปั่นอีกคนหนึ่งที่เคยสร้างชื่อเสียงมามากมาย แต่ทว่าการตรวจโดปของเขาก็ทำให้ด้านมืดของเจ้าตัวเปิดเผยขึ้นมานั่นเอง ติดตามกีฬาข่าวอื่น ๆ ได้ในข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
ลูวิส แฮมิลตัน

ลูวิส แฮมิลตัน ที่ดีใจหลังจากมีชีวิตต่อไปได้หลังจากได้รับไวรัส

คงเป็นประสบการณ์ที่เจ้าตัวไม่มีวันลืมเลย เมื่อทาง ลูวิส แฮมิลตัน ได้กลับมาลงสนามแข่งในรายการอาบูดาบีกรังด์พรีซ์ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ติดเชื้อโควิดไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทางแชมป์โลกคนนี้จะต้องงดลงแข่งขันรายการฟอร์มูล่าวันในประเทศบาห์เรนไป ก่อนที่จะหายจากไวรัสพร้อมกับตรวจพบว่าร่างกายเขาฟิตพอที่จะลงแข่งในสนาม แม้ว่าสุดท้ายแล้วเจ้าตัวจะจบลงที่อันดับที่สามของการแข่งขันตามหลังเพื่อนร่วมทีมอย่างเซบาสเตียน เวทเทลและแชมป์อย่างแมกซ์ แวร์สแทพเพนนั่นเอง                เมื่อทาง ลูวิส แฮมิลตัน หายจากโควิดมาแล้วนั้น เจ้าตัวก็ออกมาเปิดเผยความรู้สึกว่า เขาเหมือนร่างจะพังไปแล้วและรู้สึกไม่ดีอย่างมาก แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีความสุขที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป เขายังใช้ชีวิตเพื่อสู้กับวันข้างหน้าจนกระทั่งอย่างน้อยเขาก็ยังจบอันดับดีพอจะได้ยืนอยู่บนโพเดียมอีกครั้ง ซึ่งเรื่องการติดเชื้อโควิดนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นเลยและเขารู้ว่าในตอนที่เขาติดเชื้อนั้นจะต้องมีช่วงที่อาการหนักมาก เพราะมีข่าวออกมามากมายว่าโรคนี้ทำให้คนเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นเขาเลยกังวลกับเรื่องนี้มาก                อีกสิ่งหนึ่งที่ทางลูวิส แฮมิลตันออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับโรคนี้ก็คือ เขาแปลกใจอย่างมากที่ทำให้ผู้นำของบางประเทศถึงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไปอย่างนั้น แม้ว่าตัวเขาเองจะกลับมาสงสนามได้ทันก็ตาม แต่เจ้าตัวก็รู้ดีว่าร่างกายของจะไม่อยู่ในสภาพเดิมแล้ว แต่เขาก็พยายามจนกลับมาได้ในที่สุด ส่วนเหตุผลที่แชมป์โลกเร่งกลับมาลงสนามก็เพราะว่า หากตัวเองไม่ได้ลงแข่งตั้งแต่รายการที่บาห์เรนไปจนถึงฤดูกาลหน้านั้นก็จะเป็นการเว้นช่วงที่นานเกินไปและไม่ดีต่อสภาพร่างกายอีกด้วย ลูวิส แฮมิลตัน ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับโรคโควิด 19                ถือว่ายังโชคดีที่ลูวิส แฮมิลตันสามารถกลับมาได้ทันเวลาก่อนที่จะหมดฤดูกาลไป รวมถึงยังคงรักษามาตรฐานของแชมป์โลกจนจบราบการที่อาบูดาบีด้วยตำแหน่งอันดับสาม ซึ่งถือว่าไม่เลวเลยสำหรับคนที่เพิ่งหายป่วยมาในระยะเวลาไม่นาน จนต้องยอมรับว่าเขาเป็นนักแข่งแห่งยุคนี้จริงๆ ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
จูเนียร์ ดอสซานโตส

จูเนียร์ ดอสซานโตส ที่อาจต้องลาวงการไปแล้วด้วยวัยเกษียน

แฟนๆ ของยูเอฟซี่อาจไม่ได้เห็นหน้าของ จูเนียร์ ดอสซานโตส ไปแล้ว เมื่อทางประธานสมาคมยูเอฟซีได้ออกมาเอ่ยถึงอดีตแชมป์เฮฟวี่เวทคนนี้ที่เพิ่งจะแพ้ต่อไซริล เกนด้วยการน็อคเอาท์จนเป็นสถิติที่ไม่น่าจดจำของเขาที่แพ้หมดรูปไปถึง 4 ไฟท์ติดต่อกันแล้ว ซึ่งดาน่าเองก็เริ่มเตือนเจ้าตัวถึงอนาคตของตัวเองในวงการนี้และตัวเขาก็อาจไม่ประกบคู่ชกที่มีจูเนียร์ไปสู้วงสนามกรงเหล็กอีกต่อไป โดยรายการยูเอฟซี 256 อาจเป็นครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวนั่นเอง                ด้าน จูเนียร์ ดอสซานโตส นั้นเริ่มพูดถึงการเกษียนตัวเองจากวงการก่อนที่จะต้องขึ้นชกกับไซริล เกนที่กำลังทำผลงานได้ดีพร้อมสถิติชนะรวด 6 ไฟท์พร้อมกับเป็นการน็อคเอาท์ 5 ไฟท์ด้วยกัน ซึ่งในการสู้ของทั้งสองนั้นพวกเขาเริ่มต้นกันอย่างสูสี ก่อนที่ทางรุ่นน้องอย่างเกนจะเริ่มได้เปรียบจากการเตะและการรัวหมัดใส่ จนกระทั่งหมัดแจ็บที่อัดใส่จูเนียร์ไปพร้อมกับการหมุนชกที่ศอกบังเอิญไปกระแทกเข้าที่ศีรษะจนกรรมการต้องมาดูอาการและยุติการชกไปในที่สุด                เมื่อแมตช์ของจูเนียร์ ดอสซานโตสจบลงแล้วนั้น ทางดาน่า ไวท์ได้ออกมาพูดถึงไฟท์นี้ไว้ว่า สิ่งที่เขาเห็นก็คือทางจูเนียร์ได้รับอากรบาดเจ็บบนเวที ซึ่งตัวเขาเริ่มไม่รู้สึกตัวแล้วและเกิดจะเดินหนีออกไปจากไฟท์จนโดนชกซ้ำและมีการฟันศอกจนเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะต้องเล่นงานจนเหมือนเป็นการเล่นนอกเกมคาสังเวียนมวย แม้ว่าทางจูเนียร์จะเคยเป็นถึงแชมป์เฮฟวี่เวทก็ตาม แต่การพ่ายแพ้ต่อเคน วาลาสเกวสและฟรานซิส งานนูก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหายไปไม่น้อยเลยทีเดียว จูเนียร์ ดอสซานโตส ได้แข่งในรายการยูเอฟซีไปมากถึง 23 ครั้ง                จากสถิติทั้งหมดของจูเนียร์ ดอสซานโตสนั้น เจ้าตัวได้แข่งในรายการยูเอฟซีไปมากถึง 23 ครั้ง โดยเอาชนะได้มากถึง 15 ครั้ง ก่อนที่ความพ่ายแพ้ในช่วงหลังจะทำให้เจ้าตัวพ่ายไปมากถึง 8 ครั้งด้วยกัน ซึ่งดูเหมือนว่าเวลาของอดีตแชมป์เฮฟวี่เวทน่าจะจบลงในอนาคตอันใกล้นี้ […]

Continue Reading
ทีมเรดบูล

ทีมเรดบูล ที่ส่งสัญญานถึงทีมแชมป์โลกอย่างเมอร์ซิเดสในการแข่งขัน

ถือเป็นการส่งท้ายปีที่น่ายินดีของ ทีมเรดบูล เมื่อนักขับอย่างแมกซ์ แวร์สแทพเพนได้คว้าชัยในรายการอาบูดาบีได้สำเร็จ เหนือนักแข่งอย่างลูวิส แฮมิลตันที่เป็นแชมป์โลกจากทีมเมอร์ซิเดสไปได้อย่างสวยงาม โดยนักแข่งชาวดัตช์นั้นสามารถทำผลงานได้เหนือนักแข่งอีกคนอย่างเซบาสเตียน เวทเทลที่เคยอยู่ทีมเฟอร์รารี่มาก่อนในช่วงสามที่แล้ว ส่วนแมกซ์เองที่เคยสามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึงสี่สมัยในช่วงเวลาต้นยุค 2010 นั้นก็ไม่ได้มีผลงานที่ดีในฤดูกาลที่ผ่านมาเช่นกัน แต่เหมือนว่าสถานการณ์อย่างเปลี่ยนไปแล้ว                ย้อนไปในปี 2014 นั้นทาง ทีมเรดบูล ก็เริ่มเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อการแข่งขันจำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์แบบไฮบริดดจนทำให้รถของพวกเขาไม่แข็งแกร่งอย่างเคย รวมถึงการมาของลูวิส แฮมิลตันที่ทำให้ทีมของเขากลายเป็นจ้าวแห่งสนามขึ้นมา ส่วนผลงานของทีมกระทิงก็ไม่กลับมาเป็นอย่างเคยนับตั้งแต่นั้น โดยเฉพาะเมื่อมองย้อนกลับไปนั้นทีมจากเครื่องดิ่มก็มักจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดี จนกระทั่งเริ่มพัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะมีแสดงผลงานดีในช่วงท้ายฤดูกาลแทนจนพวกเขาหวังว่าในปีหน้าอาจเป็นเวลาของพวกเขาแล้ว                แม้ว่าชัยชนะของทีมเรดบูลจากฝีมือของแมกซ์ แวร์สแทพเพนนั้นอาจไม่มีใครคาดไว้ก่อนก็ตาม แต่ทีมของเขานั้นก็เริ่มค่อยๆ ก้าวขึ้นมาเทียบชั้นกับทีมเมอร์ซิเดสอยู่ช่วงหนึ่งแล้ว ย้อนไปในรายการอย่างเอมิเลีย โรแมกน่าที่ทางแมกซ์เองก็เกือบจะแซงเวทเทลได้ แต่ทว่ากลับมีปัญหากับตัวรถเสียก่อนจนต้องแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงในรายการที่ประเทศตุรกีที่ทางแมกซ์ต้องการจะอาศัยผิวสนามที่ลื่นกว่าปกติเพื่อเอาชนะในการแข่งขันนี้ แต่ก็ไปชนกับเซอร์จิโอ เฟเรสจนตัดโอกาสตัวเองไปอีกครั้งหนึ่ง ชัยชนะของ ทีมเรดบูล จากฝีมือของ แมกซ์ แวร์สแทพ                หลังจากที่ทางทีมเรดบูลได้แค่เกือบเอาชนะมาได้หลายครั้งนั้น พวกเขาก็ประสบความสำเร็จส่งท้ายปีเข้าจนได้ ส่วนทางทีมเมอร์ซิเดสนั้นคงจะต้องเป็นห่วงทางแชมป์โลกอย่างลูวิส แฮมิลตันว่าพร้อมที่จะแข่งขันต่อไปหรือไม่ หลังจากที่เขายังไม่มีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เพราะเคยติดไวรัสโควิดนั่นเอง ติดตามข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
คาลิล เราท์ทรี

คาลิล เราท์ทรี กับ มาร์ซิน พราชนิโอทที่เป็นนักสู้ในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท

ถือเป็นแมตช์ประกอบรายการที่น่าดูไม่น้อย สำหรับการเจอกันของ คาลิล เราท์ทรี กับมาร์ซิน พราชนิโอทที่เป็นนักสู้ในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท โดยพวกเขาจะได้เจอกันในรายการยูเอฟซี่ครั้งที่ 257 ในวันที่ 23 เดือนมกราคมปี 2021 ที่จะมีแมตช์การกลับมาของคอนเนอร์ แมคเกรเกอร์มาเป็นคู่เอกประจำค่ำคืน แม้ว่าก่อนหน้านี้นั้นทางคาลิลจะเริ่มมีแผนเตรียมแขนมและลาสังเวียนไป แต่ทว่าเจ้าตัวกลับเปลี่ยนใจ เมื่อเขายังคงต้องการแก้มือจากไฟท์ระหว่างเจ้าตัวกับไอออน คูเคลาบาที่เขาเคยแพ้ไปตั้งแต่ปี 2019 นั่นเอง                ตามกำหนดการเดิมนั้นทาง คาลิล เราท์ทรี จะต้องขึ้นชกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้แก่สมาคมยูเอฟซี แต่ทว่าการมาของไวรัสโควิดได้ทำให้พวกเขาไม่สามารถจัดรายการได้ตามปกติจนทำให้แผนการกลับมาของเขาถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนทำให้เขาต้องห่างจากสังเวียนไปนานกว่าเดิม โดยสถิติตลอดอาชีพของเขานั้นอยู่ในระดับกลางด้วยการชนะ 4 ครั้ง แพ้ 4 ครั้งพร้อมกับไม่มีการตัดสินอีกหนึ่งครั้ง พร้อมกับรอเจอคู่ต่อสู้ที่กำลังต้องการชัยชนะในสมาคมนี้เช่นกัน                ในส่วนคู่ต่อสู้ของเราท์ทรีนั้นคือมาร์ซิน พราชโอนี ซึ่งยังไม่เคยเอาชนะใครได้เลยในสมาคม นับตั้งแต่การเจอกับแซม อัลเวย์ มาโกเมด อันคาเลฟและไมค์ โรดิเกวซที่จบลงด้วยชัยชนะของคู่แข่งทั้งสาม แม้ว่าก่อนหน้านี้ตัวของพราชโอนีจะเคยครองสถิติไม่แพ้ใครเลยตลอดแปดไฟท์ในสมาคมอย่างวันแชมป์เปี้ยนชิพนั่นเอง ซึ่งคงเป็นโอกาสอันดีที่นักชกมวยในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทจะมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งผ่านสังเวียนยูเอฟซีครั้งที่ 257 นั่นเอง คาลิล เราท์ทรี จะต้องขึ้นชกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้แก่สมาคมยูเอฟซี                นับว่าเป็นไฟท์ที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการเจอกันของคาลิล เราท์ทรีกับมาร์ซิน พราชโอนี่ที่ผ่านแรกก็เคยพ่ายแพ้มาจนต้องการจะกอบกู้ชื่อเสียงอีกครั้ง ส่วนอีกฝ่ายก็คือนักสู้ที่เคยมีผลงนแข็งแกร่งจนไร้พ่ายมาก่อน จนกระทั่งต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าตัวเขาดีพอจะสู้กับคนอื่นในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทนี้ได้เช่นกัน […]

Continue Reading