เอริค เลอแกรนด์

เอริค เลอแกรนด์ นักอเมริกันฟุตบอลกับอุบัติเหตุที่ยากจะลืมในอดีต

สำหรับกีฬาอย่างอเมริกันฟุตบอลนั้นก็ถือว่า เป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่ใช้พละกำลังเป็นอย่างมากและมักจะมีข่าวถึงอาการบาดเจ็บที่มักจะเกิดขึ้นจากการปะทะของผู้เล่นโดยตรงอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในนักกีฬาผู้โชคร้ายจากเกมกีฬาคนชนคนก็คือ เอริค เลอแกรนด์ ที่บังเอิญได้รับอาการบาดเจ็บในช่วงวัย 20 ปีเท่านั้น ก่อนที่ตัวเขาจะไม่มีสามารถกลับคืนสู่สนามได้อีกเลยจากอุบัติเหตุครั้งนั้นที่ทำให้เลอแกรนด์กลายเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงมา รวมถึงเหตุการณ์นี้จะทำให้ทางสมาคมเอ็นเอฟแอได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงกฎเสียใหม่เพื่อความปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย                ตัวของ เอริค เลอแกรนด์ ได้เข้าสู่วงการอเมริกันฟุตบอลขึ้นมาในปี 2008 หลังจากที่ตัวเขาได้กลายเป็นผู้เล่นตัวรับหรือไลน์แมนจากความแข็งแรงของร่างกายกับความเร็วที่เจ้าตัวมี ก่อนที่จะมีโอกาสลงเล่นให้กับทีมรัทเกอร์สได้ถึง 13 เกมตลอดฤดูกาล จากการเข้าปะทะได้ถึง 33 ครั้งด้วยกัน ก่อนที่ในปีต่อมาเขาจะยังเป็นผู้เล่นมากประโยชน์ของทีมต้นสังกัดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการทำแทคเคิ่ลในช่วงตั้งเตะได้มากถึง 13 ครั้ง หรือจะเป็นการทำแทคเคิ่ลถึง 4 ครั้งในเกมเดียวที่แข่งขันกับทีมแมรี่แลนด์เทอร์ราพินส์ จนกระทั่งผลงานที่ทำไว้อย่างดีในหกเกมแรกจะมาถึงจุดจบ หลังจากที่เกิดการปะทะครั้งสำคัญในชีวิตของเลอแกรนด์ จากเกมอเมริกันฟุตบอลที่ เอริค เลอแกรนด์ ลงเล่นให้กับทีมรัทเกอร์ส เพื่อเจอกับทีมอาร์มี่ในวันที่ 16 ตุลาคม ปี 2010 ทางเลอแกรนที่พยายามจะเข้าไปแทคเคิ่ลมัลคอล์ม บราวน์ผู้ถือลูกบอลในจังหวะคิกออฟนั่น ได้วิ่งและใช้หัวพุ่งต่ำโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้หัวของเขากระแทกกับเกราะหัวไหล่ของบรานว์เข้าอย่างจัง แม้ว่าตัวของเลอแกรนด์จะสามารถหยุดเกมรุกของอีกฝ่ายไว้ได้ แต่ทว่าร่างกายของเขากลับนิ่งไปและไม่สามารถขยับตัวตั้งแต่คอลงมาอีกเลย นอกจากนี้ยังไม่สามารถหายใจได้เองหลังจากจังหวะนั้นอีกเช่นกัน โชคยังดีที่เอริค เลอแกรนด์ไม่ได้เสียชีวิตหลังจากเหตุการณ์นั้น แม้ว่าอาชีพ อเมริกันฟุตบอล ของเขาจะจบลงไปอย่างน่าเสียดาย แต่อาการอัมพาตของเขาก็เริ่มจะมีการฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากที่ตัวเขาเริ่มจะขยับร่างกายช่วงหัวไหล่และยังคงทำการกายภาพบำบัดเพื่อรอคอยให้สถาพร่างกายกลับมาฟื้นฟูอีกครั้งนั่นเอง ติดตามเรื่องราวของนักกีฬาอีกมากมายได้ที่ […]

Continue Reading
เฟียสต้าโบลว์

เฟียสต้าโบลว์ ที่ไม่น่าจดจำของวิลลิส แมคเกฮี เพราะได้รับอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะ

ชื่อของวิลลิส แมคเกฮีน่าจะเป็นที่จดจำของแฟนอเมริกันฟุตบอลอยู่ไม่น้อย เมื่ออดีตรันนิ่งแบคของทีมบัลติมอร์เรเว่นส์ เดนเวอร์บรอนโค่และคีฟแลนด์บรานว์ได้ลงเล่นให้เอ็นเอฟแอลมาเป็นเวลาหลายปี แต่หากย้อนกลับไปสมัยที่เขายังเล่นให้กับทีมไมอามี่นั่น เจ้าตัวอาจไม่ได้มีความทรงจำที่ดีเท่าไหร่นักในรายการ เฟียสต้าโบลว์ ที่เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะจนทำให้เข่าบิดเลยทีเดียว ซึ่งโชคยังดีที่เขาสามารถรักษาสภาพร่างกายกลับคืนมาได้ทันเวลาก่อนที่จะเกิดการดราฟตัวประจำปร 2003 ได้นั่นเอง                ในเกมอเมริกันฟุตบอลรายการ เฟียสต้าโบลว์ นั้น ทีมของแมคเกฮีอย่างไมอามี่ได้เจอกับทีมบัคอายที่ในช่วงควอเตอร์ที่สี่ของเกมนั้น ทางแมคเกฮีได้ถูกผู้เล่นของทีมบัคอายอย่างวิล อัลเลนพุ่งเข้ามาขวางจนทำให้เข่าซ้ายของเขาบิดไปด้านหลังและทำให้เอ็นหัวเข่าทั้งสามสายฉีกทั้งหมด ผลก็คือทีมไมอมี่ของเขาต้องแพ้เกมนั้นไปด้วยสกอร์ 31 ต่อ 24 และเจ้าตัวก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่หลายครั้ง รวมถึงการทำกายภาพบำบัดอย่างหนัก เพื่อที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้งให้ได้ ก่อนที่จะได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มดราฟต์ตัวผู้เล่นได้ทันในช่วงที่ฤดูกาลจบลงไป ในเกมอเมริกันฟุตบอลรายการ เฟียสต้าโบลว์ นั้น ทีมของแมคเกฮีอย่างไมอามี่                ตามสถิติของวิลลิส แมคเกฮีในช่วงที่ลงเล่นอเมริกันฟุตบอลของระดับมหาวิทยาลัยนั้นก็น่าสนใจไม่น้อย เมื่อเขาสามารถวิ่งไปได้มากถึง 2,067 หลาและทำทัชดาวน์ได้ถึง 31 ครั้ง จนกระทั่งเขาได้ถูกทีมบัฟฟาโล่บิลส์เลือกตัวไปในรอบที่ 23 จากเดิมนั้นเขาถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นท็อปห้าที่อาจถูกเลือกได้เลย แต่กลับเกิดอาการบาดเจ็บไปเสียก่อน สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ได้ไปโลดแล่นในลีกสูงสุดอย่างเอ็นเอฟแอลได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในการเล่นในทีมใดทีมหนึ่งก็ตาม                ต้องบอกว่าวิลลิส แมคเกฮีเป็นหนึ่งในผู้เล่นรันนิ่งแบคที่แฟน อเมริกันฟุตบอล ในยุค 2000 คุ้นหน้ากันอย่างแน่นอนจากการลงเล่นมาตลอดหลายปี แม้ว่าจุดเริ่มต้นของเขาอาจไม่ได้โรบด้วยกลีบกุหลาบจากอาการบาดเจ็บในรายการเฟียสต้าโบลว์แต่สุดท้ายเขาก็สามารถกลับมาโลดแล่นในลีกสำคัญได้นานถึงปี 2013 เลยทีเดียว ติดตามเรื่องราวกีฬาที่ส่งตรงถึงบ้านคุณได้ที่ […]

Continue Reading
วอร์ชิงตันเรดสกินส์

วอร์ชิงตันเรดสกินส์ การสกัดที่ไม่คาดคิดในอเมริกันฟุตบอลปี 1985

เกมคนชนคนถือเป็นกีฬาที่ดูดุเดือดตามชื่อที่คนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ทว่าหลายคนก็คงไม่คาดว่า จะเกิดเหตุการณ์บาดเจ็บรุนแรงอย่างในเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง วอร์ชิงตันเรดสกินส์ กับนิวยอร์คไจแอนด์อย่างแน่นอน ซึ่งในเกมคืนวันจันทร์ที่ 18 เดือนพฤศจิกายนปี 1985 ได้ทำให้ผู้ชมทางบ้านหรือในสนามคงไม่มีทางลืมภาพนี้ไปได้ตลอดกาลตามที่หนังสือพิมพ์อย่างวอชิงตันโพสต์ได้ว่าไว้อย่างแน่นอน เมื่อผู้เล่นอย่างโจ ไธส์แมนได้ถูกลอว์เรนซ์ เทย์เลอร์และแฮรืรี่ คาร์สันได้เข้าสกัดเขาจนทำให้ขาของไธส์แมนหักเป็นสองท่อนทันทีนั่นเอง                ในจังหวะที่ วอร์ชิงตันเรดสกินส์ ได้เป็นฝ่ายบุกนั้น ทางโจ ไธส์แมนกำลังจะถือลูกฝ่าเข้าไปในแดมของฝ่ายตรงข้าม แต่โดยลอว์เรนซ์ เทย์เลอร์พุ่งเข้ามาจากข้างหลังแล้วเข่าของไลน์แบคเกอร์คนนี้บังเอิญกระแทกเข้าไปที่ขาของไธส์แมนเข้าอย่างจังจนขาหักและด้วยความไม่รู้ของผู้เล่นคนอื่นก็ได้โถมตัวเข้าไปทับผู้เล่นของเรดสกินส์คนนี้เข้าไปอีก จนทางเทย์เลอร์ที่เห็นว่าเกิดอุบัติเหตุเข้าแล้วจำเป็นต้องเรียกทีมแพทย์เข้ามาในสนามทันที แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นของฝ่ายตรงข้ามก็ตาม ซึ่งทางผู้บรรยายในคืนนั้นอย่างแฟรงค์ กริฟฟอร์ดหรือโจ แนแมธต่างก็เรียกให้คนเข้าไปช่วยเขาโดยด่วนเช่นกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมระหว่าง วอร์ชิงตันเรดสกินส์ กับนิวยอร์คไจแอนด์  ได้ถูกฉายภาพซ้ำให้ผู้ชมทางบ้านที่ตอนแรกไม่ได้เห็นเหตุการณ์เต็ม จนทำให้ช่วงวันนั้นอาการบาดเจ็บของไธส์แมนกลายเป็นที่ผู้ถึงไปทั่วประเทศเลยทีเดียว จนทำให้เกิดคำวิจารณ์ไปมากมายต่อสมาคมเอ็นเอฟแอลที่เลือกจะฉายภาพที่สะเทือนขวัญมากเกินไป ส่วนผลการของการรักษาของไธส์แมนนั้น กระดูกของเขาไม่อาจจะคืนสภาพได้มากพออจนทำให้ขาขวาของเขาสั้นลงไปและไม่สามารถกลับมาลงสนามได้เหมือนเดิมพร้อมกับประกาศลาสนามไปในวัย 36 ปีเท่านั้น แม้ว่าเขาต้องการจะลงเล่นต่อไปก็ตาม                หลังจากที่เกมของวอร์ชิงตันเรดสกินส์กับนิวยอร์คไจแอนด์จบลงไปแล้วนั้น ทางลอว์เรนซ์ เทย์เลอร์ก็ได้ออกมาขอโทษต่อโจ ไธส์แมนอยู่บ่อยครั้ง โดยทางไธส์แมนก็ออกมาเอ่ยปากว่า เขาไม่ได้คิดโกรธอะไร เพราะเทย์เลอร์ก็เล่นตามหน้าที่เท่านั้น ส่วนทางไธสืแมนก็หันไปเอาดีด้านการแสดงและผู้บรรยายใน อเมริกันฟุตบอล ต่อไปและยังสามารถติดตามข่าวนี้เพิ่มเติมได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ นอกจากเพื่อน ๆ แฟนคอกีฬายังสามารถร่วมเล่นเกมและวางเดิมพันกับเราได้ที่เว็บไซต์ UFACasino55 รับรองได้ว่าต้องถูกใจคอกีฬาอย่างแน่นอน

Continue Reading
เอ็นเอฟแอล

เอ็นเอฟแอล ตรวจพบผู้เล่นติดโคโรน่าไวรัส 59 ราย

เอ็นเอฟแอล เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบนักกีฬาที่ยังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ถึง 59 รายทั้งๆที่ฤดูกาล 2020 เตรียมจะทำการแข่งขันในเดือนกันยายนนี้ เป็นที่น่าตกใจในวงการข่าวกีฬาต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอลสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าฤดูกาล 2020 ของการแข่งขันคนชนคนจะมีขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ หลังเลื่อนมาจากเดือนมกราคมเนื่องจากการเกิดโคโรน่าไวรัสไปทั่วโลก จากการประกาศดังกล่าวทำให้หลายสโมสรเริ่มเรียกนักกีฬากลับมารายงานตัว เพื่อเตรียมฝึกซ้อม และรักษาสภาพความฟิตก่อนเปิดซีซั่นจริง ถึงกระนั้นสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันแดนมะกันมีผู้ติดเชื้อถึง 4,101,308 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 146,192 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติมากที่สุดในโลก ทำให้ทางนักกีฬาหลายรายเกิดความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาจัดการแข่งขัน เพราะเอ็นเอฟแอลนั้นไม่ได้ออกมาประกาศถึงมาตรการที่จะป้องกันไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด ต่างจากกีฬาอื่นๆที่ทำการแข่งขันกันในขณะนี้ เช่น บาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ ซึ่งให้นักกีฬาย้ายไปทำการแข่งขันที่สนามกลางอย่าง ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ต ซึ่งได้ทำการปรับปรุงเป็นสนามชั่วคราว รวมถึงให้นักกีฬา และสตาฟฟ์ทีมทุกคนมาเข้าแคมป์ในช่วงเวลาที่แข่งขันเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสร้ายเพิ่ม ล่าสุดเอ็นเอ็ฟแอลก็ได้เผยข่าวซึ่งทำให้นักกีฬา รวมถึงแฟนๆกังวลมากขึ้นไปอีก เพราะสมาคมผู้เล่นเอ็นเอฟแอล หรือ เอ็นเอฟแอลพีเอ ได้รายงานว่าปัจจุบันพวกเขายังตรวจพบนักกีฬาที่ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสถึง 59 ราย นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขดังกล่าวจะยังคงสูงอยู่ แต่จริงๆแล้วถือเป็นตัวเลขที่ลดลงเนื่องจากก่อนหน้านี้ เอ็นเอฟแอล […]

Continue Reading