แชมป์เพียว

แชมป์เพียว เข็มขัดแสนบริสุทธิ์ของวงการมวยปล้ำสมาคมอาร์โอเอช

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับเป็นเสน่ห์ของวงการมวยปล้ำอย่างหนึ่ง สำหรับ แชมป์เพียว ของสมาคมอาร์โอเอชที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของเข็มขัดระดับกลาง โดยมีกติกาพิเศษอยู่สามข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสียแชมป์ได้ทุกวิธีซึ่งต่างออกไปจากแชมป์เส้นอื่นๆ ที่เจ้าของตำแหน่งจะเสียเข็มขัดเมื่อมีการทำฟาวล์หรืออยู่นอกเวทีจนกรรมการนับถึงสิบ แต่ทว่าเข็มขัดเส้นนี้ก็มีอายุได้เพียงสองปีเท่านั้นก่อนจะเกิดการรวมแชมป์ในเวลาต่อมา                สำหรับ แชมป์เพียว คนแรกของสมาคมอาร์โอเอชนั้นก็คือเอเจ สไตล์นักมวยปล้ำมากฝีมือนั่นเอง โดยเขาสามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดคนในทัวร์นาเมนท์ที่ต้องสู้ให้จบภายในค่ำคืนเดียว ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบปัญหาเรื่องสัญญากับสมาคมทีเอนเอจนทำให้เขาถูกปลดแชมป์ ก่อนที่จะเกิดการสร้างทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งและคราวนี้ก็เป็นยอดฝีมือจากอังกฤษอย่างดัก วิลเลี่ยมเอาชนะไปได้นั่นเอง                หลังจากที่ดัก วิลเลี่ยมได้เริ่มต้นเส้นทางของแชมป์เพียวอย่างเป็นทางการนั้น นักมวยปล้ำที่สร้างชื่อให้แก่เข็มขัดนี้ที่แท้จริงก็คือไนเจล แมคกินเนสนักมวยปล้ำจากประเทศอังกฤษอีกคนที่สามารถครองตำแหน่งได้นานมาถึง 350 วัน รวมทั้งป้องกันแชมป์ได้ทั้งสิ้น 16 ครั้ง ก่อนที่ต่อมาเขาจะมาแพ้ให้กับแมตช์รวมแชมป์ที่เจอกับไบรอัน เดเนี่ยลสันที่ครองแชมป์โลกในขณะนั้น ก่อที่สุดท้ายทางไบรอันจะยกเข็มขัดเส้นนี้ให้ไนเจลและยกเลิกการมีอยู่ของเส้นเพียวในที่สุด                แม้ว่าแชมป์เพียวจะถูกยุติไปนานถึง 14 ปีก็ตาม แต่สุดท้ายทางสมาคมอาร์โอเอชก็ได้นำเข็มขัดเส้นบริสุทธิ์นี้กลับมาอีกครั้ง โดยมีการจัดทัวร์นาเมนต์ทั้ง 16 คนเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนี้อีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทางโจนาธาน เกรแชมที่กลายเป็นผู้ชนะและเจ้าของตำแหน่งคนที่ 8 ของเข็มขัดเส้นนี้นั่นเอง

Continue Reading
เล็กซ์ ลูเกอร์

เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักของแฟนมวยปล้ำในยุค 80 และ 90 อยู่พอสมควร

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้ขอเสนอชื่อของ เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักของแฟนมวยปล้ำในยุค 80 และ 90 อยู่พอสมควร จากบทบาทของชายงามที่มีรูปร่างดีกว่าคนอื่นเพราะเขาเคยเป็นนักเพาะกายมาก่อน แต่ทว่าหลังจากที่เขาไปอยู่ในค่ายของวินซ์ แมคแมนนั้นเขากลับถูกเปลี่ยนบทบาทจากชายผู้หลงตัวเองกลายเป็นฮัล์ค โฮแกนคนที่สองที่เน้นความรักชาติอเมริกันเป็นหลักจนทำให้เขาไม่เป็นที่ยอมรับของแฟนๆ จนต้องย้ายกลับค่ายเก่าในที่สุด                ที่จริงแล้วความสำเร็จของ เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 1990 เมื่อเขามีคิวชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับริค แฟลร์ แต่ทว่าแฟลร์ได้ลาออกจากสมาคมไป ทำให้ต้องมีการหาแชมป์คนใหม่ ก่อนที่ทางเล็กซ์จะเอาสามารถเอาชนะแบร์รี่ วินด์แฮมพร้อมคว้าแชมป์สูงสุดไปครองได้สำเร็จ แต่หลังจากที่เขาเสียแชมป์ให้สติงนั้น เจ้าตัวก็ต้องการที่จะย้ายไปเอาด้านการเพาะกายรวมทั้งเซ็นสัญญากับค่ายของวินซ์ แมคแมนแทน                ถึงแม้ว่าการเซ็นสัญญาของเล็กซ์ ลูเกอร์จะใช้เพื่อเข้าวงการเพาะกายก็ตาม แต่ทว่าเขากลับประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์จนทำให้เขาไม่ได้ลงประกวดอีกต่อไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้กลับสู่วงการมวยปล้ำอีกครั้งในฐานะชายงาม ก่อนที่จะโดนพลิกบทบาทเป็นอเมริกันฮีโร่แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งต้องกลับไปอยู่สมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง พร้อมกับคว้าแชมป์โลกมาจากฮัล์ค โฮแกนได้อีกด้วย                น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเล็กซ์ ลูเกอร์ก็มีโอกาสเป็นแชมป์โลกเพียงสองสมัยและมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดจากการปล้ำในลีคแทคทีมคู่กับสติง โดยบทบาทชายงามที่เขาใช้มาตลอดนั้นก็ต้องจบลงไปในปี 2007 ที่เขาเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรนจนเป็นอัมพาตไปชั่วคราว แม้ว่าเขาจะรักษาตัวจนกลับมาเดินได้อีกครั้งแล้วก็ตาม

Continue Reading
ทริปเปิ้ลเอช

ทริปเปิ้ลเอช กลายเป็นนักมวยปล้ำชั้นนำของค่ายในเวลาต่อมา

ข่าวกีฬาต่างประเทศในตอนนี้ถ้าพูดถึงสุดยอดนักมวยปล้ำสายอธรรมในปี 2000 นั้นคงมีเพียงสองชื่อที่หลุดเข้ามาในหัวของแฟนมวยปล้ำนั่นก็คือ ทริปเปิ้ลเอช กับสก็อต สไตเนอร์นั่นเอง โดยทางฝ่ายแรกก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1999 ก่อนจะลากยาวมาถึงปี 2000 ส่วนทางสก็อตก็คว้าแชมป์สมัยแรกมาได้ในรายการเมย์แฮมในปีเดียวกัน จนกระทั่งในปี 2003 นั้นทางสองอคนมีโอกาสมาเจอกัน แต่ทว่าผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้                หลังจากที่ทางสงครามวันจันทร์ของวงการมวยปล้ำจบลงด้วยชัยชนะของวินซ์ แมคแมนนั้น ทาง ทริปเปิ้ลเอช ก็กลายเป็นนักมวยปล้ำชั้นนำของค่ายในเวลาต่อมา ส่วนทางนักมวยปล้ำคนอื่นๆ ของค่ายคู่แข่งเก่าอย่างเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งก็ต้องย้ายตามมาเมื่อหมดสัญญาลงไป ซึ่งทางสก็อต สไตเนอร์ก็ย้ายกลับมาสู่ค่ายใหม่ในรายการเซอร์ไวเวอร์ ซีรียส์พร้อมกับเป็นนักมวยปล้ำอิสระที่จะย้ายไปปล้ำที่ค่ายใดค่ายหนึ่งระหว่างรอว์กับสแมคดาวน์                ด้วยการที่เจ้าตัวเลือกค่ายรอว์นั่นเอง ทำให้เขามีโอกาสเจอกับทริปเปิ้ลเอชที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น ก่อนที่ทั้งสองคนจะมีโอกาสเจอกันในรายการรอยัลรัมเบิ้ลและโนเวย์เอาท์ ซึ่งจบลงด้วยการเอาชนะของแชมป์โลก แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในแมตช์นั้นกลับทำให้แฟนๆ วิจารณ์อย่างมากว่าฝีมือของพวกเขาใช้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความช้าของแมตช์และการไม่ถูกกันหลังฉากของทั้งสองคน ทริปเปิ้ลเอช ที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น                หลังจากที่จบเรื่องกับทริปเปิ้ลเอชแล้ว ทางสก็อต สไตเนอร์ก็ได้ลาออกจากสมาคมไป ก่อนที่จะยังไปปรากฏตัวในสมาคมอิมแพคเรสลิ่งเป็นหลัก พร้อมความแชมป์แทคทีมมาครองได้ถึงสองสมัย แต่ทว่าเจ้าตัวก็ไม่มีโอกาสไปถึงจุดสูงสุดอีกเลย โดยที่ป๋ากล้ามยังคงโชว์ตัวอยู่ในสมาคมอิสระอยู่บ้างในปัจจุบัน

Continue Reading
เจค เฮกเกอร์

เจค เฮกเกอร์ กับการกลับไปสู้ที่เบลลาทอร์อีกครั้งในวงการมวยปล้ำ

ในข่าวกีฬาต่างประเทศถือว่าเป็นนักมวยปล้ำอีกคนที่ผันตัวไปขึ้นสู้แบบศิลปะป้องกัน โดย เจค เฮกเกอร์ ถือเป็นอดีตนักมวยปล้ำมือสมัครเล่น โดยมีดีกรีเป็นนักกีฬาของเอนซีดับเบิ้ลเอจากมหาวิทยาลัยของโอกาโฮมาอีกด้วย ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบความสำเร็จในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยการเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทหนึ่งสมัย แต่ทว่าเขาเลือกจะลาออกจากสมาคมไปในช่วงปี 2018 ก่อนจะสู้ในเบลลาทอร์ในที่สุด                ในสมัยที่ เจค เฮกเกอร์ หรือชื่อเดิมอย่างแจ็ค สแวกเกอร์นั้นได้เปิดตัวในค่ายอีซีดับเบิ้ลยูในฐานะนักมวยปล้ำดาวรุ่งที่มีฝีมือจากมวยปล้ำสมัครเล่น ก่อนที่เจ้าตัวจะสามารถเอาชนะแมตต์ ฮาร์ดี้คว้าแชมป์ประจำค่ายไปได้หนึ่งสมัย ก่อนที่ในปี 2010 นั้นเจ้าตัวจะสามารถเป็นผู้ชนะในแมตช์มันนี่อินเดอะแบงค์พร้อมคว้าสิทธิชิงแชมป์โลกที่ใดก็ได้ จนกระทั่งเขาใช้สิทธิกับคริส เจอริโก้จนกลายเป็นแชมป์โลกของสแมคดาวน์ในที่สุด                แม้ว่าเฮกเกอร์ดูจะมีอนาคตที่สดใสก็ตาม แต่เจ้าตัวกลับพลาดไปโดนจับในฐานะมีกัญชาไว้ในครองครองในปี 2013 และถูกลดบทบาท รวมถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองทำให้เขาไม่ไปถึงจุดสูงสุดในค่ายอีกเลย จนกระทั่งเจ้าตัวออกไปสู่ค่ายเบลลาทอร์ที่เป็นการต่อสู้โดยใช้ศิลปะป้องกันตัวที่จริงจัง ก่อนที่เขาจะมีสถิติไร้พ่ายจากการเอาชนะเจ ไคเซอร์และทีเจ โจนส์ไปด้วยการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ เจค เฮกเกอร์ หรือชื่อเดิมอย่างแจ็ค สแวกเกอร์                ถึงสถิติของเจค เฮกเกอร์จะสวยหรูก็ตาม แต่แฟนๆ ของเบลลาทอร์กลับไม่ชอบเจ้าตัวเท่าไหร่นักจากการที่ล็อคคอโจนส์ ซึ่งยอมแพ้ไปแล้วแต่เขากลับไม่ยอมปล่อยมือ รวมถึงการพลาดไปอัดเข้าที่ใต้กางเกงของแอนโทนี่ การ์เร็ตจนกรรมการตั้งสั่งยุติแมตช์ไป โดยแมตช์ล่าสุดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมนั้นเขาจะต้องเจอกับแบรนดอน คัลตันผู้ไร้พ่ายอีกคนนั่นเอง

Continue Reading
เคอร์รี่ วอน

เคอร์รี่ วอน เอริคจากแชมป์โลกสู่จุดจบที่แสนเศร้าสำหรับวงการมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้สำหรับวงการมวยปล้ำแล้วเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดเรื่องหนึ่งคงหนีไม่พ้นกรณีของครอบครัววอน เอริคที่มักจะเสียสมาชิกในครอบครัวก่อนวัยอันควรเสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออดีตแชมป์โลกอย่าง เคอร์รี่ วอน เอริคที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวไปปล้ำอยู่ที่สมาคมเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นของวินซ์ แมคแมนในนามเท็กซัส ทอร์นาโด ก่อนที่สุดท้ายคำสาปของตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะพรากชีวิตของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ                ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978 ในฐานะลูกชายของอดีตแชมป์โลก 23 สมัยอย่างฟริตซ์ วอน เอริค ก่อนที่เขาจะได้เปิดตัวในสมาคมบิ๊กไทม์หรือเอนดับเบิ้ลยูเอสาขาเท็กซัสนั่นเอง ก่อนที่เขาจะไปสร้างชื่อเสียงในค่ายเวิลด์คลาสแชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งพร้อมกับคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาได้ในปี 1980 ด้วยการเอาชนะจีโน่ เฮอร์นาเดซได้สำเร็จ จนกระทั่งตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะมาสร้างประวัติศาสตร์กับทีมฟรีเบิร์ดจนโด่งดังไปทั่วโลกตลอด 5 ปีหลังจากนั้น                ส่วนจุดสูงสุดของเคอร์รี่นั้นก็เกิดขึ้นในปี 1984 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์โลกมาจากเดอะเนเจอร์บอยริค แฟลร์ได้สำเร็จหลังจากที่ท้าชิงมาหลายครั้ง พร้อมกับอุทิศชัยชนะนี้ให้แก่พี่ชายอย่างเดวิดที่เสียชีวิตก่อนรายการนี้เพียงสามเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเพียงสองปีเท่านั้น เจ้าตัวก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากการขับรถจักรยานยนต์จนต้องเสียเท้าขวาไปพร้อมปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ทว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้กลับส่งผลแก่ลูกชายคนสำคัญของตระกูลมวยปล้ำนี้อย่างไม่มีใครคาดคิด ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978                หลังจากการผ่าตัดเท้าของเคอร์รี่นี้เองที่ทำให้อดีตแชมป์โลกต้องใช้ยาแก้ปวดจำนวนมากรวมถึงติดสารเสพย์ติดอีกด้วย จนกระทั่งในปี 1993 นั้นเขาจะถูกตำรวจจับในข้อหามีสารไว้ครอบครองและละเมิดคำสั่งที่เคยก่อไว้ในคดีครั้งแรกจนทำให้เขามีโอกาสติดคุกหลายปี ในที่สุดเคอร์รี่ก็เลือกที่จะจบชีวิตและตำนานของตระกูลมวยปล้ำไปอีกรายอย่างน่าเสียใจ

Continue Reading
อันดราเด้

อันดราเด้ นักมวยปล้ำเม็กซิกันวัย 30 ปี อนาคตของอดีตแชมป์สหรัฐอเมริกา

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้หลังจากที่จบการดราฟท์ประจำปีของสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ไปแล้วนั้น แต่ชื่อของ อันดราเด้ กลับยังอยู่ในลิสต์ของนักมวยปล้ำอิสระอยู่ทำให้แฟนมวยปล้ำเริ่มคิดกันแล้วว่าอนาคตของอดีตแชมป์สหรัฐอเมริกาจะเป็นไปทางไหน จากช่วงแรกที่มีกระแสข่าวลือออกมาว่าเขาอาจจะลาออกจากสมาคมหรือย้ายไปสู่ค่ายเอนเอกซ์ทีที่เจ้าตัวสร้างชื่อพร้อมกับเป็นแชมป์สูงสุดมาแล้วหนึ่งสมัยด้วยกันนั่นเอง                สำหรับปี 2020 นั้นทาง อันดราเด้ ถือว่ามีช่วงเวลาที่เป็นคลื่นขึ้นลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการถือแชมป์สหรัฐอเมริกาแบบข้ามปีนับตั้งแต่เอาชนะเรย์ มิสเตอรีโอมาได้ในสนามเมดิสัน สแควร์ การ์เด้นในปลายปีที่แล้ว ก่อนที่จะป้องกันแชมป์กับผู้ท้าชิงมากมายไม่ว่าจะเป็นตัวเรย์เองหรือฮัมเบอโต คาร์ริลโล่ จนกระทั่งหันมาตั้งทีมกับนักมวยปล้ำสัญชาติเดียวกันอย่างแองเจล การ์ซ่าในเวลาต่อมา                หลังจากที่อันดราเด้ได้ร่วมทีมกับการ์ซ่าแล้ว แต่ทว่าพวกเขากลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก เริ่มจากการพลาดท่าแพ้ให้แก่แชมป์แทคทีมของรอว์อย่างสตรีม โปรฟิทในเรสเซิ่ลมาเนีย ตามด้วยการเสียแชมป์สหรัฐอเมริกาให้แก่อะพอล์โลว์ ครูว์ในรายการรอว์หลังจากที่แองเจลเข้ามายุ่งในแมตช์จนต้องแพ้ไป อีกทั้งทางแองเจลก็ได้รับบาดเจ็ฐกลางแมตช์จนต้องพักการปล้ำไปช่วงคราวอีกด้วยทำให้อนาคตของเขาเริ่มไม่แน่นอนเสียแล้ว                นอกจากที่อันดราเด้ไม่ได้ถูกเลือกจากค่ายใดๆ ในสมาคมเลยทำให้แฟนๆ เริ่มคิดว่าเขาอาจกลับไปสู่เอนเอกซ์ทีที่เจ้าตัวมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดและมีโอกาสแสดงฝีมือเหมือนสมัยที่ยังอยู่สมาคมนิวเจแปนในชื่อลา ซอมบาได้อีกด้วย โดยนักมวยปล้ำวัย 30 ปีนี้ถือว่ายังมีเวลามากพอที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอนาคตอีกด้วย

Continue Reading
กรงเหล็ก

กรงเหล็ก สตีลอะไซลัมนั้นจะเริ่มต้นด้วยการให้นักมวยปล้ำที่เข้าร่วมทั้งหมด

ข่าวกีฬาต่างประเทศแม้ว่าในวงการมวยปล้ำจะมีแมตช์ กรงเหล็ก อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเฮลอินอะเซลล์ที่มีหลังคาปิดหรือจะเป็นสตีลเคจที่เป็น กรงเหล็ก เปิดอย่างที่หลายคนรู้จักกันดี แต่ทว่าในสมาคมทีเอนเอที่มักจะคิดค้นกติกาบนเวทีใหม่ๆ ขึ้นมา จนกระทั่งในปี 2008 ที่พวกเขาตัดสินใจนำไอเดียที่ต่อยอดมาจากค่ายเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งพร้อมให้เหล่านักมวยปล้ำเหินเวหานั้นมาสู้กันเพื่อหาคนที่อยู่รอดคนสุดท้ายและใช้ชื่อว่าสตีลอะไซลัมนั่นเอง                สำหรับกติกาของกรงเหล็กสตีลอะไซลัมนั้นจะเริ่มต้นด้วยการให้นักมวยปล้ำที่เข้าร่วมทั้งหมดขึ้นเวทีพร้อมกันและวิธีการเดียวที่จะเอาชนะก็คือปีนขึนไปบนหลังคาของกรงและลอดออกทางช่องกลางหลังคาเพื่อเอาชนะไป ซึ่งผู้ชนะคนแรกของแมตช์นี้ก็คือแฟรงค์กี้ คาซาเรียนที่สามารถคว้าสิทธิชิงแชมป์เอกซ์ดิวิชั่นไปได้พร้อมกับได้ปล้ำเป็นคู่เอกของรายการแซคคิไฟซ์ปี 2008 แทนที่เคิร์ท แองเกิ้ลที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวไป                ส่วนกรงเหล็กครั้งที่น่าจดจำต่อมาจะเกิดขึ้นในปี 2010 ที่เหล่านักมวยปล้ำลีกเอกซ์ต้องมาสู้กันอีกครั้งในรายการอิมแพคที่จัดเป็นรายการสดครั้งแรกและมีการปรากฏตัวของเจฟฟ์ ฮาร์ดี้ในช่วงท้ายอีกด้วย โดยสุดท้ายผู้ชนะที่ถูกลืมวันนั้นจะเป็นโฮโมไซด์อดีตแชมป์เอกซ์ดิวิชั่นนั่นเอง ก่อนที่แมตช์นี้จะหายไปเพราะฮัล์ค โฮแกนและเอริค บิชอฟฟ์ไม่ได้สนใจในลีกของนักมวยปล้ำตัวเล็กเท่าไหร่นัก                น่าเสียดายที่แมตช์กรงเหล็กอย่างสตีลอะไซลัมจะไม่เกิดขึ้นอีก ด้วยเหตุผลทางสถานที่และตัวกรงที่ปีนได้ยากเกินไปสำหรับนักมวยปล้ำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งเจย์ ลีทัลและคริสโตเฟอร์ เดเนี่ยลส์ที่เคยเป็นผู้ชนะนั้นต่างมีปัญหาในการปีนออกจากกรงเสมออีกทั้งเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับคนที่อยู่ด้านล่างอีกด้วย

Continue Reading

มอร์ติส นักมวยปล้ำใส่หน้ากากที่มีเชื้อสายละตินชื่อเสียงในวงการมวยปล้ำ

ในช่วงปี 1997 นั้น ทางคริส แคนยอนได้เปลี่ยนบทบาทครั้งสำคัญของตัวเองและกลายเป็น มอร์ติส นักมวยปล้ำใส่หน้ากากที่มีเชื้อสายละติน ก่อนที่ชื่อเสียงของเขาจะเริ่มดีขึ้นจากความเท่ของนักมวยปล้ำหน้ากากกะโหลกนี้เอง จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าตัวได้เปลี่ยนบทบาทไปอยู่กับกลุ่มของเรเว่นและไดม่อน ดัลลาส เพจ และเปิดเผยกับผู้คนว่าเขาคือนักมวยปล้ำเกย์จนประสบปัญหาทางจิตเสมอมา ติดตามต่อได้ในข่าวกีฬาต่างประเทศ                จุดเริ่มต้นของคริส แคนยอนมาสู่ มอร์ติส เกิดขึ้นจากทางแคนยอนที่รับบทบทเป็นนักมวยปล้ำระดับล่างเท่านั้น จนกระทั่งเจ้าตัวได้เจมส์ วานเดนเบิร์กมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวพร้อมสไตล์การปล้ำที่เร้าใจแฟนๆ ซึ่งทางนักมวยปล้ำแห่งความตายมักจะสู้กับกราเซียร์เสมอ จนกระทั่งในปี 1998 ที่เขาเริ่มหมดบทบาทและไปขอเข้าร่วมกลุ่มเดอะฟลอกกับเรเว่นแทน และเป็นจุดที่ทำให้เขาได้แสดงฝีมือออกมามากขึ้นอีกด้วย                จนกระทั่งเวลาผ่านไปและการล่มสลายของเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งมาถึง ทางอดีตมอร์ติสก็ได้ย้ายมาสู่ค่ายใหม่ที่เป็นคู่แข่งอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ในฐานะกลุ่มแอนไลแอนซ์หรือรวมศิษย์เก่าของค่ายอื่นนั่นเอง โดยในช่วงนี้เขากลับได้รับอาการบาดเจ็บหนักจากหัวเข่าและหัวไหล่จนกระทั่งเกือบเสียชีวิต รวมทั้งน้ำหนักลดลงไปมากถึง 15 กิโลกรัมด้วยกัน ก่อนที่ต่อมาเขาจะกลับมาปล้ำได้อีกเพียงปีเดียวพร้อมถูกไล่ออกไปเพราะเขาเป็นนักมวยปล้ำเกย์นั่นเอง มอร์ติส ได้ย้ายมาสู่ค่ายใหม่ที่เป็นคู่แข่ง                ในช่วงแรกที่เขาออกมาจากสมาคมใหญ่แล้วนั้น อดีตมอร์ติสได้เปิดเผยว่านั่นไม่ได้เป็นเพียงบทบาทในเรื่องเท่านั้น แต่แคนยอนเป็นนักมวยปล้ำเกย์ในชีวิตจริง โดยเจ้าตัวพยายามปิดบังมาตลอดพร้อมกับเป็นโรคไบโพลาร์ที่ทำให้เขาพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้ง จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงจากการใช้ยาแก้ปวดมากเกินไปในปี 2010 พร้อมกับจดหมายสั่งลาให้กับครอบครัว ปิดตำนานไปอย่างน่าเสียใจ

Continue Reading
โอติส

โอติส ซึ่งเป็นเพียงนักมวยปล้ำแทคทีมคนหนึ่งกลับกลายเป็นเจ้ากระเป๋ามันนี่อินเดอะแบงค์

ข่าวกีฬาต่างประเทศปี 2020 ถือเป็นช่วงที่แปลกประหลาดที่สุดของวงการมวยปล้ำปีหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากที่ โอติส ซึ่งเป็นเพียงนักมวยปล้ำแทคทีมคนหนึ่งกลับกลายเป็นเจ้ากระเป๋ามันนี่อินเดอะแบงค์ที่บรรจุสัญญาแมตช์ชิงแชมป์โลกในเวลาใดก็ได้ตามต้องการ ซึ่งกระเป๋าใบนี้นับเป็นบันไดลัดที่พาให้นักมวยปล้ำมากมายกลายเป็นแชมป์ได้ในช่วงหนึ่งของอาชีพ ซึ่งแฟนๆ เริ่มไม่มั่นใจว่านักมวยปล้ำคนนี้คู่ควรกับตำแหน่งจริงๆ หรือไม่                ในแมตช์ไตบันไดเพื่อชิงกระเป๋าใบนี้นั้น ทาง โอติส ก็เจอกับคู่แข่งมากมายไม่ว่าจะเป็นเรย์ มิสเตอริโอ อลิสเตอร์ แบล็คและเอเจ สไตล์ แต่ทว่าในตอนท้ายของแมตช์นั้นเป็นทางเอเจที่กำลังเอื้อมไปสัมผัสประเป๋าได้แล้ว จนกระทั่งโดนบารอน คอร์บินมาแย่งกระเป๋าบนบันไดก่อนที่สุดท้ายทั้งคู่จะกระเป๋าหลุดมือและตกไปอยู่กับนักมวยปล้ำร่างใหญ่ที่รออยู่ด้านล่าง เพราะเขาไม่สมารถปีนขึ้นไปได้นั่นเอง                ปัญหาก็คือหลังจากที่โอติสกลายเป็นเจ้าของกระเป๋าและสัญญาแมตช์ชิงแชมป์โลกนั้น เจ้าตัวกลับไม่ได้ดูเก่งกาจมากพอจะถือเข็มขัดแชมป์โลกได้เลย อีกทั้งในค่ายที่มีแต่นักมวยปล้ำระดับสูงวนเวียนอยู่ทั้งเดอะฟีนเบรย์ ไวแอตหรือแชมป์จักรวาลอย่างบรอน สโตรแมนที่ขับเคี่ยวกันอยู่ตลอดช่วงฤดูร้อน จนกระทั่งการมาของโรมัน เรนส์จึงไม่มีช่องว่างให้นักมวยปล้ำแทคทีมคนนี้ขึ้นไปอยู่ในระดับสูงเลย                สิ่งที่ตามมาก็คือความสนใจของแฟนๆ ที่มีกับโอติสก็หมดลงและไม่คาดคิดว่าเจ้าตัวจะกลายเป็นแชมป์โลกได้จริงๆ จนมีกระแสให้เขาเสียกระเป๋าใบนี้ให้กับผู้ที่เหมาะสมมากกว่าไม่ว่าจะเป็นเดอะมิซที่เคยใช้สัญญาแมตช์ชิงแชมป์โลกและประสบความสำเร็จในปี 2010 หรือเอเจ สไตล์ที่เป็นเดอะแบกในปัจจุบัน

Continue Reading
สตรีมเมอร์

สตรีมเมอร์ เมื่อวินซ์ แมคแมนต้องการควบคุมบัญชีของนักมวยปล้ำ

เป็นข่าวคราวที่ทำให้แฟนมวยปล้ำได้แต่วิจารณ์เลยทีเดียว สำหรับการแบนไม่ให้นักมวยปล้ำเป็น สตรีมเมอร์ ของทางสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ หลังจากกระแสการทำสตรีมมิ่งเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเล่นเกมกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน จนทำให้เหล่าสตาร์หันไปแสดงความสามารถด้านอื่นกันบ้าง แต่ทว่าทางวินซ์ แมคแมนกลับไม่พอใจมากนักจนกระทั่งจะทำให้ยึดบัญชีออนไลน์ต่างๆ ของลูกจ้างเลยทีเดียวติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                นักมวยปล้ำคนแรกๆ ที่เริ่มหันไปเอาดีทางการ สตรีมเมอร์ ก็คือซาเวียร์ วู้ดส์อดีตแชมป์แทคทีมจากนิวเดย์ที่เป็นแฟนเกมต่างๆ และเคยท้าแข่งกับเคนนี่ โอเมก้าจากค่ายอื่นอีกด้วย ก่อนที่ทางเพจนักมวยปล้ำสาวที่ต้องรีไทร์จากอาการบาดเจ็บที่เริ่มเปลี่ยนบทบาทไปสตรีมมิ่งเกมต่างๆ แทนการขึ้นสังเวียน รวมถึงนักมวยปล้ำระดับสูงอย่างเอเจ สไตล์ที่มักจะเปิดโอกาสให้แฟนๆ ถามเรื่องราวรอบตัวของเขาได้ตามสบาย                จนกระทั่งเรื่องราวการเป็นสตรีมเมอร์ของนักมวยปล้ำต่างๆ เริ่มเข้าหูประธานสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างวินซ์ แมคแมนที่ไม่พอใจอย่างมากที่ลูกจ้างของเขาได้ออกไปหารายได้ทางช่องทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทวิทช์หรือคามิโอ จนประกาศให้ทุกคนปิดบัญชีให้เรียบร้อยภายในเดือนตุลาคม หากเลยเวลาไปแล้วจะทำการยึดบัญชีออนไลน์ทันที ซึ่งเหตุนี้ทำให้นักมวยปล้ำหลายคนไม่พอใจ โดยเฉพาะเพจที่กำลังไปได้ดีในการสตรีมมิ่งนั่นเอง สตรีมเมอร์ ก็คือซาเวียร์ วู้ดส์อดีตแชมป์แทคทีมจากนิวเดย์                ต้องบอกว่านี่คือการกระทำที่เกิดเหตุพอสมควรของวินซ์ แมคแมนที่มีความเป็นนักธุรกิจสูงจึงมองว่าตัวเขาเสียเปรียบที่นักมวยปล้ำเปลี่ยนไปเป็นสตรีมเมอร์แม้ว่าจะใช้ชื่อในชีวิตจริงก็ตาม โดยตามสัญญาของค่ายเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์นั้นพวกเขามีสิทธิทั้งหมดในร่างกายของนักมวยปล้ำ ที่แฟนๆ มองว่าริดรอนสิทธิมากเกินไปพร้อมวิจารณ์ในตัววินซ์อย่างหนักเลยทีเดียว

Continue Reading