อันดราเด้

อันดราเด้ นักมวยปล้ำเม็กซิกันวัย 30 ปี อนาคตของอดีตแชมป์สหรัฐอเมริกา

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้หลังจากที่จบการดราฟท์ประจำปีของสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ไปแล้วนั้น แต่ชื่อของ อันดราเด้ กลับยังอยู่ในลิสต์ของนักมวยปล้ำอิสระอยู่ทำให้แฟนมวยปล้ำเริ่มคิดกันแล้วว่าอนาคตของอดีตแชมป์สหรัฐอเมริกาจะเป็นไปทางไหน จากช่วงแรกที่มีกระแสข่าวลือออกมาว่าเขาอาจจะลาออกจากสมาคมหรือย้ายไปสู่ค่ายเอนเอกซ์ทีที่เจ้าตัวสร้างชื่อพร้อมกับเป็นแชมป์สูงสุดมาแล้วหนึ่งสมัยด้วยกันนั่นเอง                สำหรับปี 2020 นั้นทาง อันดราเด้ ถือว่ามีช่วงเวลาที่เป็นคลื่นขึ้นลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการถือแชมป์สหรัฐอเมริกาแบบข้ามปีนับตั้งแต่เอาชนะเรย์ มิสเตอรีโอมาได้ในสนามเมดิสัน สแควร์ การ์เด้นในปลายปีที่แล้ว ก่อนที่จะป้องกันแชมป์กับผู้ท้าชิงมากมายไม่ว่าจะเป็นตัวเรย์เองหรือฮัมเบอโต คาร์ริลโล่ จนกระทั่งหันมาตั้งทีมกับนักมวยปล้ำสัญชาติเดียวกันอย่างแองเจล การ์ซ่าในเวลาต่อมา                หลังจากที่อันดราเด้ได้ร่วมทีมกับการ์ซ่าแล้ว แต่ทว่าพวกเขากลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก เริ่มจากการพลาดท่าแพ้ให้แก่แชมป์แทคทีมของรอว์อย่างสตรีม โปรฟิทในเรสเซิ่ลมาเนีย ตามด้วยการเสียแชมป์สหรัฐอเมริกาให้แก่อะพอล์โลว์ ครูว์ในรายการรอว์หลังจากที่แองเจลเข้ามายุ่งในแมตช์จนต้องแพ้ไป อีกทั้งทางแองเจลก็ได้รับบาดเจ็ฐกลางแมตช์จนต้องพักการปล้ำไปช่วงคราวอีกด้วยทำให้อนาคตของเขาเริ่มไม่แน่นอนเสียแล้ว                นอกจากที่อันดราเด้ไม่ได้ถูกเลือกจากค่ายใดๆ ในสมาคมเลยทำให้แฟนๆ เริ่มคิดว่าเขาอาจกลับไปสู่เอนเอกซ์ทีที่เจ้าตัวมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดและมีโอกาสแสดงฝีมือเหมือนสมัยที่ยังอยู่สมาคมนิวเจแปนในชื่อลา ซอมบาได้อีกด้วย โดยนักมวยปล้ำวัย 30 ปีนี้ถือว่ายังมีเวลามากพอที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอนาคตอีกด้วย

Continue Reading
กรงเหล็ก

กรงเหล็ก สตีลอะไซลัมนั้นจะเริ่มต้นด้วยการให้นักมวยปล้ำที่เข้าร่วมทั้งหมด

ข่าวกีฬาต่างประเทศแม้ว่าในวงการมวยปล้ำจะมีแมตช์ กรงเหล็ก อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเฮลอินอะเซลล์ที่มีหลังคาปิดหรือจะเป็นสตีลเคจที่เป็น กรงเหล็ก เปิดอย่างที่หลายคนรู้จักกันดี แต่ทว่าในสมาคมทีเอนเอที่มักจะคิดค้นกติกาบนเวทีใหม่ๆ ขึ้นมา จนกระทั่งในปี 2008 ที่พวกเขาตัดสินใจนำไอเดียที่ต่อยอดมาจากค่ายเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งพร้อมให้เหล่านักมวยปล้ำเหินเวหานั้นมาสู้กันเพื่อหาคนที่อยู่รอดคนสุดท้ายและใช้ชื่อว่าสตีลอะไซลัมนั่นเอง                สำหรับกติกาของกรงเหล็กสตีลอะไซลัมนั้นจะเริ่มต้นด้วยการให้นักมวยปล้ำที่เข้าร่วมทั้งหมดขึ้นเวทีพร้อมกันและวิธีการเดียวที่จะเอาชนะก็คือปีนขึนไปบนหลังคาของกรงและลอดออกทางช่องกลางหลังคาเพื่อเอาชนะไป ซึ่งผู้ชนะคนแรกของแมตช์นี้ก็คือแฟรงค์กี้ คาซาเรียนที่สามารถคว้าสิทธิชิงแชมป์เอกซ์ดิวิชั่นไปได้พร้อมกับได้ปล้ำเป็นคู่เอกของรายการแซคคิไฟซ์ปี 2008 แทนที่เคิร์ท แองเกิ้ลที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวไป                ส่วนกรงเหล็กครั้งที่น่าจดจำต่อมาจะเกิดขึ้นในปี 2010 ที่เหล่านักมวยปล้ำลีกเอกซ์ต้องมาสู้กันอีกครั้งในรายการอิมแพคที่จัดเป็นรายการสดครั้งแรกและมีการปรากฏตัวของเจฟฟ์ ฮาร์ดี้ในช่วงท้ายอีกด้วย โดยสุดท้ายผู้ชนะที่ถูกลืมวันนั้นจะเป็นโฮโมไซด์อดีตแชมป์เอกซ์ดิวิชั่นนั่นเอง ก่อนที่แมตช์นี้จะหายไปเพราะฮัล์ค โฮแกนและเอริค บิชอฟฟ์ไม่ได้สนใจในลีกของนักมวยปล้ำตัวเล็กเท่าไหร่นัก                น่าเสียดายที่แมตช์กรงเหล็กอย่างสตีลอะไซลัมจะไม่เกิดขึ้นอีก ด้วยเหตุผลทางสถานที่และตัวกรงที่ปีนได้ยากเกินไปสำหรับนักมวยปล้ำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งเจย์ ลีทัลและคริสโตเฟอร์ เดเนี่ยลส์ที่เคยเป็นผู้ชนะนั้นต่างมีปัญหาในการปีนออกจากกรงเสมออีกทั้งเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับคนที่อยู่ด้านล่างอีกด้วย

Continue Reading

มอร์ติส นักมวยปล้ำใส่หน้ากากที่มีเชื้อสายละตินชื่อเสียงในวงการมวยปล้ำ

ในช่วงปี 1997 นั้น ทางคริส แคนยอนได้เปลี่ยนบทบาทครั้งสำคัญของตัวเองและกลายเป็น มอร์ติส นักมวยปล้ำใส่หน้ากากที่มีเชื้อสายละติน ก่อนที่ชื่อเสียงของเขาจะเริ่มดีขึ้นจากความเท่ของนักมวยปล้ำหน้ากากกะโหลกนี้เอง จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าตัวได้เปลี่ยนบทบาทไปอยู่กับกลุ่มของเรเว่นและไดม่อน ดัลลาส เพจ และเปิดเผยกับผู้คนว่าเขาคือนักมวยปล้ำเกย์จนประสบปัญหาทางจิตเสมอมา ติดตามต่อได้ในข่าวกีฬาต่างประเทศ                จุดเริ่มต้นของคริส แคนยอนมาสู่ มอร์ติส เกิดขึ้นจากทางแคนยอนที่รับบทบทเป็นนักมวยปล้ำระดับล่างเท่านั้น จนกระทั่งเจ้าตัวได้เจมส์ วานเดนเบิร์กมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวพร้อมสไตล์การปล้ำที่เร้าใจแฟนๆ ซึ่งทางนักมวยปล้ำแห่งความตายมักจะสู้กับกราเซียร์เสมอ จนกระทั่งในปี 1998 ที่เขาเริ่มหมดบทบาทและไปขอเข้าร่วมกลุ่มเดอะฟลอกกับเรเว่นแทน และเป็นจุดที่ทำให้เขาได้แสดงฝีมือออกมามากขึ้นอีกด้วย                จนกระทั่งเวลาผ่านไปและการล่มสลายของเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งมาถึง ทางอดีตมอร์ติสก็ได้ย้ายมาสู่ค่ายใหม่ที่เป็นคู่แข่งอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ในฐานะกลุ่มแอนไลแอนซ์หรือรวมศิษย์เก่าของค่ายอื่นนั่นเอง โดยในช่วงนี้เขากลับได้รับอาการบาดเจ็บหนักจากหัวเข่าและหัวไหล่จนกระทั่งเกือบเสียชีวิต รวมทั้งน้ำหนักลดลงไปมากถึง 15 กิโลกรัมด้วยกัน ก่อนที่ต่อมาเขาจะกลับมาปล้ำได้อีกเพียงปีเดียวพร้อมถูกไล่ออกไปเพราะเขาเป็นนักมวยปล้ำเกย์นั่นเอง มอร์ติส ได้ย้ายมาสู่ค่ายใหม่ที่เป็นคู่แข่ง                ในช่วงแรกที่เขาออกมาจากสมาคมใหญ่แล้วนั้น อดีตมอร์ติสได้เปิดเผยว่านั่นไม่ได้เป็นเพียงบทบาทในเรื่องเท่านั้น แต่แคนยอนเป็นนักมวยปล้ำเกย์ในชีวิตจริง โดยเจ้าตัวพยายามปิดบังมาตลอดพร้อมกับเป็นโรคไบโพลาร์ที่ทำให้เขาพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้ง จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงจากการใช้ยาแก้ปวดมากเกินไปในปี 2010 พร้อมกับจดหมายสั่งลาให้กับครอบครัว ปิดตำนานไปอย่างน่าเสียใจ

Continue Reading
โอติส

โอติส ซึ่งเป็นเพียงนักมวยปล้ำแทคทีมคนหนึ่งกลับกลายเป็นเจ้ากระเป๋ามันนี่อินเดอะแบงค์

ข่าวกีฬาต่างประเทศปี 2020 ถือเป็นช่วงที่แปลกประหลาดที่สุดของวงการมวยปล้ำปีหนึ่งเลยทีเดียว หลังจากที่ โอติส ซึ่งเป็นเพียงนักมวยปล้ำแทคทีมคนหนึ่งกลับกลายเป็นเจ้ากระเป๋ามันนี่อินเดอะแบงค์ที่บรรจุสัญญาแมตช์ชิงแชมป์โลกในเวลาใดก็ได้ตามต้องการ ซึ่งกระเป๋าใบนี้นับเป็นบันไดลัดที่พาให้นักมวยปล้ำมากมายกลายเป็นแชมป์ได้ในช่วงหนึ่งของอาชีพ ซึ่งแฟนๆ เริ่มไม่มั่นใจว่านักมวยปล้ำคนนี้คู่ควรกับตำแหน่งจริงๆ หรือไม่                ในแมตช์ไตบันไดเพื่อชิงกระเป๋าใบนี้นั้น ทาง โอติส ก็เจอกับคู่แข่งมากมายไม่ว่าจะเป็นเรย์ มิสเตอริโอ อลิสเตอร์ แบล็คและเอเจ สไตล์ แต่ทว่าในตอนท้ายของแมตช์นั้นเป็นทางเอเจที่กำลังเอื้อมไปสัมผัสประเป๋าได้แล้ว จนกระทั่งโดนบารอน คอร์บินมาแย่งกระเป๋าบนบันไดก่อนที่สุดท้ายทั้งคู่จะกระเป๋าหลุดมือและตกไปอยู่กับนักมวยปล้ำร่างใหญ่ที่รออยู่ด้านล่าง เพราะเขาไม่สมารถปีนขึ้นไปได้นั่นเอง                ปัญหาก็คือหลังจากที่โอติสกลายเป็นเจ้าของกระเป๋าและสัญญาแมตช์ชิงแชมป์โลกนั้น เจ้าตัวกลับไม่ได้ดูเก่งกาจมากพอจะถือเข็มขัดแชมป์โลกได้เลย อีกทั้งในค่ายที่มีแต่นักมวยปล้ำระดับสูงวนเวียนอยู่ทั้งเดอะฟีนเบรย์ ไวแอตหรือแชมป์จักรวาลอย่างบรอน สโตรแมนที่ขับเคี่ยวกันอยู่ตลอดช่วงฤดูร้อน จนกระทั่งการมาของโรมัน เรนส์จึงไม่มีช่องว่างให้นักมวยปล้ำแทคทีมคนนี้ขึ้นไปอยู่ในระดับสูงเลย                สิ่งที่ตามมาก็คือความสนใจของแฟนๆ ที่มีกับโอติสก็หมดลงและไม่คาดคิดว่าเจ้าตัวจะกลายเป็นแชมป์โลกได้จริงๆ จนมีกระแสให้เขาเสียกระเป๋าใบนี้ให้กับผู้ที่เหมาะสมมากกว่าไม่ว่าจะเป็นเดอะมิซที่เคยใช้สัญญาแมตช์ชิงแชมป์โลกและประสบความสำเร็จในปี 2010 หรือเอเจ สไตล์ที่เป็นเดอะแบกในปัจจุบัน

Continue Reading
สตรีมเมอร์

สตรีมเมอร์ เมื่อวินซ์ แมคแมนต้องการควบคุมบัญชีของนักมวยปล้ำ

เป็นข่าวคราวที่ทำให้แฟนมวยปล้ำได้แต่วิจารณ์เลยทีเดียว สำหรับการแบนไม่ให้นักมวยปล้ำเป็น สตรีมเมอร์ ของทางสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ หลังจากกระแสการทำสตรีมมิ่งเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเล่นเกมกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน จนทำให้เหล่าสตาร์หันไปแสดงความสามารถด้านอื่นกันบ้าง แต่ทว่าทางวินซ์ แมคแมนกลับไม่พอใจมากนักจนกระทั่งจะทำให้ยึดบัญชีออนไลน์ต่างๆ ของลูกจ้างเลยทีเดียวติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                นักมวยปล้ำคนแรกๆ ที่เริ่มหันไปเอาดีทางการ สตรีมเมอร์ ก็คือซาเวียร์ วู้ดส์อดีตแชมป์แทคทีมจากนิวเดย์ที่เป็นแฟนเกมต่างๆ และเคยท้าแข่งกับเคนนี่ โอเมก้าจากค่ายอื่นอีกด้วย ก่อนที่ทางเพจนักมวยปล้ำสาวที่ต้องรีไทร์จากอาการบาดเจ็บที่เริ่มเปลี่ยนบทบาทไปสตรีมมิ่งเกมต่างๆ แทนการขึ้นสังเวียน รวมถึงนักมวยปล้ำระดับสูงอย่างเอเจ สไตล์ที่มักจะเปิดโอกาสให้แฟนๆ ถามเรื่องราวรอบตัวของเขาได้ตามสบาย                จนกระทั่งเรื่องราวการเป็นสตรีมเมอร์ของนักมวยปล้ำต่างๆ เริ่มเข้าหูประธานสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างวินซ์ แมคแมนที่ไม่พอใจอย่างมากที่ลูกจ้างของเขาได้ออกไปหารายได้ทางช่องทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทวิทช์หรือคามิโอ จนประกาศให้ทุกคนปิดบัญชีให้เรียบร้อยภายในเดือนตุลาคม หากเลยเวลาไปแล้วจะทำการยึดบัญชีออนไลน์ทันที ซึ่งเหตุนี้ทำให้นักมวยปล้ำหลายคนไม่พอใจ โดยเฉพาะเพจที่กำลังไปได้ดีในการสตรีมมิ่งนั่นเอง สตรีมเมอร์ ก็คือซาเวียร์ วู้ดส์อดีตแชมป์แทคทีมจากนิวเดย์                ต้องบอกว่านี่คือการกระทำที่เกิดเหตุพอสมควรของวินซ์ แมคแมนที่มีความเป็นนักธุรกิจสูงจึงมองว่าตัวเขาเสียเปรียบที่นักมวยปล้ำเปลี่ยนไปเป็นสตรีมเมอร์แม้ว่าจะใช้ชื่อในชีวิตจริงก็ตาม โดยตามสัญญาของค่ายเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์นั้นพวกเขามีสิทธิทั้งหมดในร่างกายของนักมวยปล้ำ ที่แฟนๆ มองว่าริดรอนสิทธิมากเกินไปพร้อมวิจารณ์ในตัววินซ์อย่างหนักเลยทีเดียว

Continue Reading
รายการมวยปล้ำ

รายการมวยปล้ำ ธันวาคมที่ถูกลืมหลังจากค่ายที่ถูกคืนชีพกลับมา

ในปี 2006 ถือว่าเป็นปีที่แฟนมวยปล้ำต่างตื่นเต้นที่จะได้พบกับการกลับมาของสมาคม ECW ซึ่งเป็น รายการมวยปล้ำ ที่เน้นความโหดและใช้อุปกรณ์ แต่ทว่าความฝันของแฟนๆ ก็ได้พังสลายลงไปกับตา หลังจากค่ายที่ถูกคืนชีพกลับมาไม่ได้รักษาตัวตนของค่ายเอาไว้ภายใต้การดูแลของวินซ์ แมคแมนประธานสมาคม WWE ที่เป็นเจ้าของคนใหม่ของค่าย โดยเฉพาะในรายการ December to Dismember ที่สมควรถูกลืมเลือนสมชื่อเลยทีเดียว ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                รายการมวยปล้ำ ที่ว่านี้เกิดขึ้นเป็นศึกส่งท้ายปีของ ECW ที่วางเนื้อเรื่องให้มีแมตช์กรงเหล็กที่เปิดโอกาสให้ใช้อุปกรณ์ได้เป็นครั้งแรก แต่ทว่าภาพที่ออกมากลายเป็นนักมวยปล้ำที่มีแฟนๆ ชื่นชอบอย่างซาบูกลับถูกปลดออกจากแมตช์กลางรายการ ก่อนจะได้ฮาร์ดคอร์ ฮอลลี่นักมวยปล้ำลูกหม้อของ WWE มาปล้ำแทน รวมถึงการละเลยการประกบคู่อื่นๆ ในโชว์จนไม่ต่างอะไรกับรายการโทรทัศน์ที่พวกเขาฉายผ่านช่อง SyFy เลยทีเดียว                ผลที่เกิดขึ้นหลังจากรายการมวยปล้ำที่สมควรถูกลืมเลือนนี้ก็คือหัวหน้าทีมเขียนบทอย่างพอล เฮย์แมนได้ลาออกจากสมาคมทันที ก่อนที่ค่าย ECW จะกลายเป็นลูกเมียน้อยที่ได้แต่ปั้นนักมวยปล้ำหน้าใหม่ให้คุ้นชินกับการออกโทรทัศน์ก่อนจะไปเปิดในรายการมวยปล้ำหลักอย่างรอว์และสแมคดาวน์มากกว่า แม้ว่าทางค่ายจะพยายมดึงคนดูด้วยการนำนักมวยปล้ำรุ่นพี่อย่างเคน มาร์ค เฮนรี่หรือคริสเตียนมาเป็นแชมป์โลกก็ตาม แต่สุดท้ายค่าย ECW ก็ถูกปิดตัวไปในปี 2010 ไปอย่างเงียบเหงา รายการมวยปล้ำ ที่ว่านี้เกิดขึ้นเป็นศึกส่งท้ายปีของ ECW                ความล้มเหลวของ ECW ครั้งนี้ถือว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากรายการมวยปล้ำเมื่อเดือนธันวาคมปี […]

Continue Reading
เดอะร็อค

เดอะร็อค รายการมวยปล้ำที่มีคนดูเยอะมากที่สุดและเรตติ้งดีสุด ๆ

ในปี 1999 ที่รายการรอว์จากค่าย WWE กำลังเป็นที่โด่งดังในขณะนั้น ได้มีนักมวยปล้ำชูโรงอย่าง เดอะร็อค ที่ก้าวขึ้นมาแทน สโตนโคลด์ สตีฟออสติน ที่กำลังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บในขณะนั้น ซึ่งทาง เดอะร็อค กำลังมีบทบาทกับแมนคายน์ที่เป็นคู่แทคทีมและเคยครองแชมป์ด้วยกันได้สร้างรายการย่อยโดยอ้างอิงจากภูมิหลังของอดีตแชมป์โลกสุดเท่คนนี้ที่ทำให้สมาคมได้รับเรตติ้งสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ รายการ This Is Your Life ของเดอะร็อคนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 27 กันยายนปี 1999 ซึ่งแมนคายน์ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรและเชิญคนรู้จักของเพื่อนรักเขาทั้งแฟนเก่าสมัยเรียนแต่เธอกลับโดนไล่ไปอย่างไม่ใยดีและโค้ชที่เคยฝึกเดอะร็อคสมัยเป็นนักอเมริกันฟุตบอลที่มักจะใช้นกหวีดสั่งนักมวยปล้ำคนนี้จนเขารับไม่ได้และเกือบเล่นงานในเวที รวมทั้งอาจารย์วิชาการงานที่เคยทำให้เจ้าตัวผิดหวังไม่ยอมสอนการทำแพนเค้กให้กับเขา ผลจากฝีปากของเดอะร็อคและแมนคายน์ทำไว้ก็คือรายการรอว์ในช่วงเวลานั้นทำเรตติ้งไปสูงถึง 8.4 หรือมีคนอเมริกาได้ชมรายการที่ว่านี้กว่า 9 ล้านคนเลยทีเดียว และนับว่าเป็นตัวเลขที่มากที่สุดเท่าที่ค่าย WWE เคยได้รับมา ซึ่งหลังจากนี้ไม่นานทางเดอะร็อคก็กลายเป็นนักมวยปล้ำชูโรงของสมาคมยาวไปจนถึงปี 2002 ที่เจ้าตัวได้มีโอกาสไปแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดจนต้องพักการปล้ำอย่างเต็มตัวไปในที่สุด ในปัจจุบันนั้นวงการมวยปล้ำไม่ได้มีโอกาสกลับไปทำตัวเลขสูงถึง 8 อีกเลย โดยปัจจุบันที่นักมวยปล้ำอย่างเดอะร็อคสโตนโคลด์และดิอันเดอร์เทคเกอร์ต่างประกาศลาจากอาชีพไปหมดแล้ว ทำให้ตัวเลขของเรตติ้งยังนิ่งอยู่ที่ 1.5 เท่านั้น ซึ่งแฟนมวยปล้ำที่ชมมานานคงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองและยังคงเฝ้ารอรายการอย่าง This Is Your Life กลับมาอีกครั้ง

Continue Reading
ร็อดดี้ ไพเพอร์

ร็อดดี้ ไพเพอร์ ที่สร้างชื่อในวงการบังเทิงจากภาพยนต์สยองเรื่องเธย์ลีฟ

ชื่อของราว ร็อดดี้ ไพเพอร์ น่าจะเป็นนักมวยปล้ำตัวแสบของสมาคมชื่อดังอย่างดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูเอฟที่แฟนมวยปล้ำรุ่นใหญ่น่าจะจดจำกันได้ดี แต่ทว่านอกจากนี้จากเรื่องราวบนสังเวียนผ้าใบแล้วนั้น เจ้าตัวยังเคยมีโอกาสไปโลดแล่นในวงการบันเทิงมาแล้ว โดยเฉพาะในปลายยุค 80 ที่เจ้าตัวเริ่มเบนความสนใจไปสู่งานแสดงมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอย่างเรื่องเฮลคัมส์ทูฟรอกทาวน์หรือจะเป็นเธย์ลีฟที่ทำให้ร็อดดี้ ไพเพอร์หรือเจ้าของฉายาฮ็อตร็อดได้กลายเป็นนักแสดงสุดเท่ของภาพยนตร์สุดแปลกในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว                ช่วงที่ ร็อดดี้ ไพเพอร์ เริ่มจะหันไปสนใจด้านอื่นนอกจากการเป็นนักมวยปล้ำก็คือช่วงที่เขาได้จบบทบาทกับมิสเตอร์ทีหรือนักแสดงชื่อดังของเรื่องเอทีมในเวลานั้น ก่อนที่เขาจะได้กลับมาทิ้งท้ายเรื่องราวกับนักมวยปล้ำตัวแสบอีกคนในเวลานั้นอย่างเอเดรียน อดอนิสที่มีคาวบอยบ็อบ ออร์ตันอดีตคนสนิทย้ายไปอยู่กับอดอนิสด้วย ซึ่งผลก็ทำให้เขากลายเป็นฝ่ายธรรมะเอาเสียเอง พร้อมกับส่งท้ายช่วงเวลาการเป็นนักกีฬาอย่างเต็มตัวไปในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 3 โดยสามารถเอาชนะอดอนิสในกติกาเดิมพันผมและทำให้เอเดรียนต้องถูกโกนหัวไปในที่สุด หลังจากที่ ร็อดดี้ ไพเพอร์ ได้หันหลังจากการเป็นนักมวยปล้ำไปแล้ว         เขาก็มีโอกาสได้มาเข้าสู่วงการภาพยนตร์บ้าง จากผลงานของผู้กำกับชื่อดังอย่างจอห์น คาร์เพนเตอร์ที่ได้เลือกไพเพอร์มาแสดงในภาพยนตร์สยองขวัญชื่อว่าเธย์ลีฟที่ทำให้บทพระเอกของฮ็อตร็อดกลายเป็นภาพจำของคนรักภาพยนตร์เกรดรองไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประโยคเด็ดที่เขาพูดว่า ฉันมาที่นี่เพื่อเคี้ยวหมากฝรั่งและเล่นงานใครสักคน แต่ตอนนี้หมากฝรั่งของฉันหมดไปแล้ว ซึ่งประโยคเด็ดนี้ทางไพเพอร์เป็นผู้คิดขึ้นมาเองและกลายเป็นประโยคสุดเท่ของเจ้าตัวไปตลอดเลยทีเดียว                แม้ว่าร็อดดี้ ไพเพอร์จะยังคงหวนคืนวงการมวยปล้ำในฐานะ นักมวยปล้ำ และผู้จัดการให้คนอื่น ๆ บ้างก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หน้าตาของเขาได้ถูกจดจำผ่านแฟน ๆ ของภาพยนตร์สยองขวัญเกรดรองไปแล้วเช่นกัน รวมถึงตัวเขายังมีโอกาสได้แสดงซีรีย์หรือรายการโทรทัศน์มาตลอดจนเป็นอีกคนที่ประสบความสำเร็จนอกวงการนั่นเอง ติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวกีฬาอีกมากมายได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ และในวันนี้เรามีเว็บไซต์ของเกมกีฬาฟุตบอลมาให้ร่วมเล่นและวางเดิมพันได้ที่ 7slotvip เรามีทีมงานที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

Continue Reading
ซิดวิเชียส

ซิดวิเชียส จะได้ต้องขึ้นปล้ำในกติกาสี่เส้าเพื่อชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทของสมาคม

ในปลายยุค 90 ถึงต้น 2000 จัดว่าเป็นช่วงที่วงการมวยปล้ำมีความเผ็ดร้อนอยู่มาก ทั้งเรื่องเรตติ้งของสองสมาคมดังอย่างดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูและดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูเอฟในเวลานั้นพยายามขับเคี่ยวเพื่อความเป็นหนึ่งในโลก จนทำให้มักจะมีการตัดสินใจแปลก ๆ อยู่เสมอเพื่อทำให้คนหันมาสนใจรายการของตัวเองมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในการตัดสินใจครั้งเลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นกับนักมวยปล้ำที่ชื่อว่า ซิดวิเชียส ในรายการซิน โดยสาเหตุหลักก็เพราะความนิยมของสมาคมดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั้นตกลงไปมากจนพวกเขาต้องการความสดใหม่ในรายการพวกเขานั่นเอง                คู่เอกของค่ำคืนนั้นทาง ซิดวิเชียส จะได้ต้องขึ้นปล้ำในกติกาสี่เส้าเพื่อชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทของสมาคม ซึ่งในแมตช์จะมีทั้งซิด สก็อต สไตเนอร์ เจฟฟ์ จาเรตต์และนักมวยปล้ำปริศนาอีกคน แต่ในระหว่างที่สามคนแรกได้เริ่มต้นขึ้นสู้กันไปก่อนแล้วนั้น ก็มีจังหวะหนึ่งที่ซิดที่สูงเกือบ 2 เมตรและน้ำหนักกว่า 300 ปอนด์ได้ขึ้นไปยืนอยู่บนมุมเวทีและพยายามใช้ท่าถีบหรือบิ๊กบูทเข้าที่สไตเนอร์ แต่ด้วยน้ำหนักที่มากเกินไปของเขาทำให้ขาซ้ายที่ถึงพื้นเวทีก่อนของเขาไม่สามารถรับน้ำหนักทั้งหมดไว้ได้แต่หักเป็นสองท่อนทันที หลังจากที่ ซิดวิเชียส ได้แต่นอนบนเวทีเฉย  ๆ เพราะขาหักไปแล้ว รายการซินก็ต้องรีบตัดจบไป เมื่อทางสมาคมลงโร้ดวอริเออร์แอนิมัลมาเป็นนักมวยปล้ำคนที่สี่ในแมตช์และทำร้ายซิดซ้ำ ก่อนจะปล่อยให้สไตเนอร์เจ้าของตำแหน่งกดนับสามเอาชนะไป แต่สิ่งที่คนสนใจมากกว่านั้นก็คือซิดได้ออกมาเปิดเผยในภายหลังว่า ทางสมาคมได้กดดันให้เขาลองใช้ท่าเหินเวหาดูบ้างเพื่อไม่ให้การปล้ำดูน่าเบื่อเกินไป แม้ว่าซิดจะไม่เคยฝึกท่านี้มาก่อนเลยก็ตาม ก่อนที่เขาจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่นานและไม่อาจกลับมาเป็นนักมวยปล้ำได้เต็มเวลาอีกต่อไป                โชคดีที่ซิดวิเชียสยังสามารถกลับมาเดินหรือวิ่งได้ตามปกติ รวมถึงยังกลับมาสู่บนเวที มวยปล้ำ อยู่เป็นครั้งคราว แต่ความกระหายเรตติ้งของค่ายดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั้นก็วนกลับมาทำร้ายตัวเอง เมื่อจบรายการซินไปได้ไม่นาน สมาคมที่เคยเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ต้องปิดตัวลงไปอย่างน่าเสียดายในปี 2001 และปล่อยให้วงการมวยปล้ำซบเซาลงจนถึงปัจจุบัน ติดตามเรื่องราวของวงการมวยปล้ำที่ดุเดือดเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ เกมกีฬาที่หลายคนสนใจในวันนี้มีออกมาเป็นรูปแบบของเกมให้เลือกเล่นมากมายที่เว็บไซต์ bslot89 […]

Continue Reading
คลาเรสซ่า ชิลด์

คลาเรสซ่า ชิลด์ กับสาเหตุที่ไม่ไปชกที่ยูเอฟซีแต่เลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน

ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดคาดไม่น้อย เมื่อทางนักชกอย่าง คลาเรสซ่า ชิลด์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองไม่ได้ต้องการไปขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวในสมาคมดังอย่างยูเอฟซีและเลือกจะสู้ในลีกพีเอฟแอลแทน ซึ่งอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิคนั้นได้รับการขนาดนามว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนตัวเองเลือกจะย้ายวงการมาสู้แบบศิลปะป้องกันตัวหรือเอ็มเอ็มเอแทน โดยเจ้าตัวมีเป้าหมายว่าจะเป็นสุดยอดนักกีฬาของทั้งสองวงการเลยทีเดียว                สิ่งที่ คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชกศิลปะป้องกันตัวนั้นจะเป็นลูกผสมระหว่างมวยปล้ำกับการโจมตีด้วยขาต่างๆ รวมถึงการจับทุ่ม ซึ่งตัวเธอนั้นก็เริ่มฝึกกับตำนานอย่างจอน โจนส์และฮอลลี่ โฮมส์อีกด้วย แม้ว่าตัวเธอจะยังคงใหม่กับวงการนี้ก็ตามและยังคงไม่มีแผนที่จะรีบเปิดตัวในการสู้ครั้งต่อไปของเธอด้วยการเจอกับนักแข่งที่เคยลงสนามมาแล้ว นอกจากนี้เธอยังได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุว่าทำไมตัวเองถึงเลือกไปสู้กับพีเอฟแอลแทนยูเอฟซีทั้งที่รู้จักกับประธานอย่างดาน่าไวท์อีกด้วย คลาเรสซ่า ชิลด์ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก็คือการขึ้นชก                ตามการสนทนาระหว่างคลาเรสซ่า ชิลด์กับดาน่า ไวท์นั้น ทางนักชกได้บอกว่าตัวประธานคนนี้ต้องการจะให้เธอสู้ครั้งเดียวบนเวทีแปดเหลี่ยมของเขา โดยที่จะให้สู้กับยอดฝีมือที่มีน้ำหนักเท่าเธอนั่นเอง แต่ทว่าทางนักชกกลับมองว่าตัวเธอต้องการจะฝึกฝนกับอาชีพนี้ให้นานมากพอที่จะขึ้นชก พร้อมกับพัฒนาฝีมือต่อไป ซึ่งหากดาน่าเสนอให้เธอฝึกฝนเป็นเวลานานหรือสองปีนั้นคงจะดีกับตัวเองเธอเองมากกว่า ส่วนในทางพีเอฟแอลนั้นได้เสนอให้เธอได้สู้พร้อมกับพัฒนาตัวเองไปตลอดฤดูกาลที่ทำให้เธอสนใจเลือกทางนี้มากกว่านั่นเอง                เรียกว่าทางนักชกอย่างคลาเรสซ่า ชิลด์น่าจะยังคงมีอนาคตในวงการศิลปะป้องกันตัวอีกมาก เนื่องจากชื่อชั้นของเธอเองตั้งแต่เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นไปจนถึงการเป็นการเป็นนักมวยที่ดีที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ จนกระทั่งเลือกมาเส้นทางการชกอีกแบบหนึ่งที่มีทั้งสมาคมยูเอฟซีกับพีเอฟแอลอีกด้วย ติดตามข่าวกฬาต่าง ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading