เมเจอร์ลีก

มอยเซ่ อะลู ผู้แข็งแกร่งกับอาการบาดเจ็บข้อเท้าในกีฬาเบสบอล

พูดถึงตำนานในวงการเบสบอลนั้นก็คงจะต้องเอ่ยชื่อของพ่อลูกตระกูลอะลูกันบ้าง หลังจากที่ผู้พ่ออย่างฟิลิเป้ก็เคยเป็นผู้จัดการให้ทีมอย่างเอกซ์โพมาก่อน รวมถึงพี่น้องของเขาอย่างแมตตี้และเฆซุสหรือญาติอย่างเมล โรฆาสก็เคยลงเล่นในระดับเมเจอร์ลีกมาก่อน แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มอยเซ่ อะลู กับเป็นเรื่องราวที่ต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ที่มักจะตีลูกด้วยมือเปล่าเสมอและอาการบาดเจ็บข้อเท้าหักที่น่าสยองจนทำให้ชื่อของเขาถูกจดจำในรูปแบบที่ต่างออกไปเลยทีเดียว                แม้ว่าจุดเริ่มต้นของ มอยเซ่ อะลู นั้นจะไม่ได้ชื่นชอบเบสบอลเท่าไหร่นักและสนใจในกีฬาบาสเกตบอลมากกว่าก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วมอยเซ่ในวัย 18 ปีก็มีโอกาสมาลงเล่นให้สมัยเรียนวิทยาลัยแคนาดาในรัฐคาลิฟอร์เนีย ก่อนที่ทักษะของเขาจะฉายแสงออกมาจนเหล่าแมวมองในวงการเห็นและถูกส่งชื่อเข้าไปในการดราฟต์ผู้เล่นในเมเจอร์ลีกของปี 1986 และได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมพิตส์เบิร์ดไพเรตส์ ก่อนที่จะถูกแลกตัวมาสู่ทีมมอลทรีออลเอกซ์โพที่มีพ่อของเขาเป็นผู้จัดการทีมอยู่ในปี 1990 และหลังจากนั้นอีกสามปีต่อมา ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้มอยเซ่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไปตลอดกาล การที่ มอยเซ่ อะลู ได้ใช้ความเร็วและพละกำลังที่แข็งแกร่งของเขาในการลงเล่นบนสนาม นั่นเองก็ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์คนสำคัญของเอกซ์โพจนกระทั่งในปี 1993 มอยเซ่กลับได้รับอาการบาดเจ็บข้อเท้าหักที่สนามเบสบอลเซนท์หลุยส์บุสช์ หลังจากที่เขาพยายามวิ่งไปหาลูกและพลิกตัวย้อนกลับไปหาเบสก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ข้อทเของเขาพลิก 90 องศาทันทีและต้องพักการแข่งขันไปตลอดฤดูกาล 1993 เลยทีเดียว แม้ว่ามอยเซ่จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่ตำแหน่งของเจ้าตัวก็เปลี่ยนไปเป็นเอาท์ฟิลด์ที่มุมอย่างเต็มตัว                ถึงตัวของมอยเซ่ อะลูจะเกิดเหตุการณ์หนัก ๆ ก็ตาม แต่ในปี 1997 นั้นเขาก็ประสบความสำเร็จเข้าจนได้ เมื่อเจ้าตัวได้ลงเล่นให้กับทีมฟลอริด้ามาร์ลินส์และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ใหญ่ที่สุดในวงการ เบสบอล อย่างเวิลด์ซีรีย์ หลังจากคว้าชัยเหนือคลีฟแลนด์อินเดียนส์ ซึ่งในเวลานั้นไม่มีใครคาดว่า เอาท์ฟิลด์ที่เคยข้อเท้าหักอย่างมอยเซ่จะกลับมาเป็นแชมป์ได้แล้วอีกด้วย ติดตามข่าวกีฬาเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ […]

Continue Reading
เฟียสต้าโบลว์

เฟียสต้าโบลว์ ที่ไม่น่าจดจำของวิลลิส แมคเกฮี เพราะได้รับอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะ

ชื่อของวิลลิส แมคเกฮีน่าจะเป็นที่จดจำของแฟนอเมริกันฟุตบอลอยู่ไม่น้อย เมื่ออดีตรันนิ่งแบคของทีมบัลติมอร์เรเว่นส์ เดนเวอร์บรอนโค่และคีฟแลนด์บรานว์ได้ลงเล่นให้เอ็นเอฟแอลมาเป็นเวลาหลายปี แต่หากย้อนกลับไปสมัยที่เขายังเล่นให้กับทีมไมอามี่นั่น เจ้าตัวอาจไม่ได้มีความทรงจำที่ดีเท่าไหร่นักในรายการ เฟียสต้าโบลว์ ที่เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บจากการเข้าปะทะจนทำให้เข่าบิดเลยทีเดียว ซึ่งโชคยังดีที่เขาสามารถรักษาสภาพร่างกายกลับคืนมาได้ทันเวลาก่อนที่จะเกิดการดราฟตัวประจำปร 2003 ได้นั่นเอง                ในเกมอเมริกันฟุตบอลรายการ เฟียสต้าโบลว์ นั้น ทีมของแมคเกฮีอย่างไมอามี่ได้เจอกับทีมบัคอายที่ในช่วงควอเตอร์ที่สี่ของเกมนั้น ทางแมคเกฮีได้ถูกผู้เล่นของทีมบัคอายอย่างวิล อัลเลนพุ่งเข้ามาขวางจนทำให้เข่าซ้ายของเขาบิดไปด้านหลังและทำให้เอ็นหัวเข่าทั้งสามสายฉีกทั้งหมด ผลก็คือทีมไมอมี่ของเขาต้องแพ้เกมนั้นไปด้วยสกอร์ 31 ต่อ 24 และเจ้าตัวก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่หลายครั้ง รวมถึงการทำกายภาพบำบัดอย่างหนัก เพื่อที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้งให้ได้ ก่อนที่จะได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มดราฟต์ตัวผู้เล่นได้ทันในช่วงที่ฤดูกาลจบลงไป ในเกมอเมริกันฟุตบอลรายการ เฟียสต้าโบลว์ นั้น ทีมของแมคเกฮีอย่างไมอามี่                ตามสถิติของวิลลิส แมคเกฮีในช่วงที่ลงเล่นอเมริกันฟุตบอลของระดับมหาวิทยาลัยนั้นก็น่าสนใจไม่น้อย เมื่อเขาสามารถวิ่งไปได้มากถึง 2,067 หลาและทำทัชดาวน์ได้ถึง 31 ครั้ง จนกระทั่งเขาได้ถูกทีมบัฟฟาโล่บิลส์เลือกตัวไปในรอบที่ 23 จากเดิมนั้นเขาถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นท็อปห้าที่อาจถูกเลือกได้เลย แต่กลับเกิดอาการบาดเจ็บไปเสียก่อน สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ได้ไปโลดแล่นในลีกสูงสุดอย่างเอ็นเอฟแอลได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในการเล่นในทีมใดทีมหนึ่งก็ตาม                ต้องบอกว่าวิลลิส แมคเกฮีเป็นหนึ่งในผู้เล่นรันนิ่งแบคที่แฟน อเมริกันฟุตบอล ในยุค 2000 คุ้นหน้ากันอย่างแน่นอนจากการลงเล่นมาตลอดหลายปี แม้ว่าจุดเริ่มต้นของเขาอาจไม่ได้โรบด้วยกลีบกุหลาบจากอาการบาดเจ็บในรายการเฟียสต้าโบลว์แต่สุดท้ายเขาก็สามารถกลับมาโลดแล่นในลีกสำคัญได้นานถึงปี 2013 เลยทีเดียว ติดตามเรื่องราวกีฬาที่ส่งตรงถึงบ้านคุณได้ที่ […]

Continue Reading
แคท เมอร์ชานท์

แคท เมอร์ชานท์ แชมป์โลกกับอาการบาดเจ็บที่สมองด้วยอายุเพียง 28 ปี

               เป็นข่าวร้ายของวงการรักบี้อยู่เสมอ เมื่อล่าสุดทางแชมป์โลกอย่าง แคท เมอร์ชานท์ ได้ออกมาเรียกร้องให้สมาคมดูแลสุขภาพของนักแข่งที่เกษียณตัวเองไปแล้ว หลังจากที่เธอก็มีอาการกระทบกระเทือนทางสมองอยู่หลายครั้งจากการแข่งขัน ซึ่งจากการวิจัยของเฮดเวย์นั้นได้เปิดเผยว่า ตัวนักกีฬาเพศหญิงนั้นมีโอกาสจะได้รับอาการบาดเจ็บมากกว่าเพศชายอยู่หลายเท่าเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวนั้นได้ลาจากสนามไปด้วยอายุเพียง 28 ปีเท่านั้นในปี 2014 จากอาการบาดเจ็บของเธอมากกว่า 11 ครั้งในอาชีพตลอด 14 ฤดูกาล                จากการเปิดเผยของ แคท เมอร์ชานท์ นั้นเธอได้ออกมายอมรับว่าตัวเองมีอาการรับรู้สิ่งต่างๆ ลดลง ซึ่งตัวเองนั้นไม่สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำของเธอได้อย่างปกติโดยไม่มีอาการปวดหัวเลยทีเดียว นอกจากนี้เธอยังมีอาการติดอ่างกับหลงลืมคำพูดต่างๆ ระหว่างสนทนาเช่นกัน นอกจากนี้ในประแสปัจจุบันนั้นทางอดีตแชมป์โลกอีกคนอย่างสตีฟ ธอมป์สันก็ได้นำเหล่านักรักบี้มารวมตัวกันเพื่อฟ้องเหล่าผู้บริหารจากอาการกระทบกระเทือนทางสมองของพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าทางแชมป์หญิงคนนี้จะเห็นต่างออกไป แคท เมอร์ชานท์ นั้นเธอได้ออกมายอมรับว่าตัวเองมีอาการรับรู้สิ่งต่าง ๆ ลดลง                สิ่งที่แคท เมอร์ชานท์ออกมาเสนอก็คือสวัสดิการของเหล่านักแข่งที่ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเหล่านั้นได้เกษียณตัวเองจากสนาม ซึ่งเธอได้เปิดเผยว่า สำหรับคนที่ลาจากสนามไปแล้วนั้นจะมีความรู้สึกว่า พวกเขามีความสุขที่ได้ลงเล่นมาตอดหลายปี แต่มันถึงเวลาที่พวกเขาต้องบอกลาแล้ว ส่วนหนึ่งที่เธอต้องการความช่วยเหลือก็คือเธอเองที่ต้องปประกาศเลิกแข่งตั้งแต่อายุยังน้อยเพียง 28 ปีนั้นก็เริ่มรู้สึกสูญเสียตัวต้นไปและตัวเธอเองก็ต้องการความช่วยเหลือในด้านของสภาพจิตใจ นอกเหนือจากร่างกายอีกด้วย                คงจะพูดได้ว่าสิ่งที่แคท เมอร์ชานท์พยายามเสนอออกมาก็เป็นเรื่องจริงอยู่ไม่น้อย เนื่องจากผู้เล่นที่เกษียณหลายคนอาจไม่ได้มีอาการกระทบกระเทือนทางสมองกันทุกคน แต่ทว่าการให้ความช่วยเหลือแก่คนที่บอกลาวงการรักบี้ไปนั้นอาจช่วยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงสภาพจิตใจที่อดีตแชมป์โลกยอมรับอีกว่า เคยต้องนั่งร้องไห้เพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอทำมาตลอดได้อีกแล้วนั่นเอง ติดตามข่าวกีฬาหลากหลายแนวได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศและข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading