บูเกอร์ที

บูเกอร์ที นักมวยปล้ำระดับสูงสู่ตัวตลกในปี 2002ก่อนที่ค่ายจะถูกปิด

ในข่าวต่างกีฬาต่างประเทศช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทอยู่พอสมควรสำหรับ บูเกอร์ที ซึ่งเคยเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงของสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งในช่วงปี 2000 ก่อนที่ค่ายจะถูกปิดตัวไปในปีต่อมา โดยเขาได้ย้ายมาอยู่ในสมาคมคู่แข่งอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ทว่าเขากลับได้รับบทบาทจากนักมวยปล้ำขั้นสูงไปสู่การเป็นคนขายเสียงหัวเราะคู่กับโกลดัสจนทำให้ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปและไม่คู่ควรกับแชมป์โลกอีกเลย                ในช่วงเวลาที่ บูเกอร์ที ได้ย้ายมาสมาคมใหม่นั้น เขาก็ได้เข้ามาในฐานะแชมป์โลกของดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั่นเอง ก่อนที่เขาจะมีเรื่องราวกับเดอะร็อคจนเสียแชมป์ไป ส่วนเขาก็กลายเป็นเพียงนักมวยปล้ำคนหนึ่งของกลุ่มเอนไลเอนซ์ที่ต้องมาสู้นักมวยปล้ำในค่ายใหม่ จนกระทั่งไปมีเรื่องสโตนโคล สตีฟออสตินที่โดนเล่นงานจนเสียภาพลักษณ์ตามด้วยการไปจับคู่กับเทสต์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก                จนกระทั่งในปี 2002 นั้นทางสมาคมก็มีแผนเปลี่ยนบทบาทของบูเกอร์ทีอีกครั้ง โดยเจ้าตัวได้มีเรื่องราวกับโกลดัสนักมวยปล้ำสายฮาที่มักจะแต่งตัวแปลกๆ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชม ซึ่งได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าตัวจนกลายเป็นนักมวยปล้ำที่เป็นมิตรมากขึ้น แต่ทว่านั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำแทคทีมอีกครั้งพร้อมคว้าแชมป์แทคทีมมาครองได้กับเพื่อนคนใหม่อีกหนึ่งสมัย                จากการเป็นนักมวยปล้ำแทคทีมและเน้นความสนุกนี่เองได้ทำให้บูเกอร์ทีได้รับความนิยมจากแฟนๆ อย่างมากก่อนจะมีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งกับทริปเปิ้ลเอช แต่สุดท้ายเจ้าตัวเป็นฝ่ายแพ้ไปและท้าชิงแชมป์ไม่สำเร็จ โดยเขาต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว ก่อนจะกลับไปสู่จุดสูงสุดได้อีกครั้งในปี 2006 นั่นเอง

Continue Reading
เคอร์รี่ วอน

เคอร์รี่ วอน เอริคจากแชมป์โลกสู่จุดจบที่แสนเศร้าสำหรับวงการมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้สำหรับวงการมวยปล้ำแล้วเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดเรื่องหนึ่งคงหนีไม่พ้นกรณีของครอบครัววอน เอริคที่มักจะเสียสมาชิกในครอบครัวก่อนวัยอันควรเสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออดีตแชมป์โลกอย่าง เคอร์รี่ วอน เอริคที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวไปปล้ำอยู่ที่สมาคมเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นของวินซ์ แมคแมนในนามเท็กซัส ทอร์นาโด ก่อนที่สุดท้ายคำสาปของตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะพรากชีวิตของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ                ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978 ในฐานะลูกชายของอดีตแชมป์โลก 23 สมัยอย่างฟริตซ์ วอน เอริค ก่อนที่เขาจะได้เปิดตัวในสมาคมบิ๊กไทม์หรือเอนดับเบิ้ลยูเอสาขาเท็กซัสนั่นเอง ก่อนที่เขาจะไปสร้างชื่อเสียงในค่ายเวิลด์คลาสแชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งพร้อมกับคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาได้ในปี 1980 ด้วยการเอาชนะจีโน่ เฮอร์นาเดซได้สำเร็จ จนกระทั่งตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะมาสร้างประวัติศาสตร์กับทีมฟรีเบิร์ดจนโด่งดังไปทั่วโลกตลอด 5 ปีหลังจากนั้น                ส่วนจุดสูงสุดของเคอร์รี่นั้นก็เกิดขึ้นในปี 1984 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์โลกมาจากเดอะเนเจอร์บอยริค แฟลร์ได้สำเร็จหลังจากที่ท้าชิงมาหลายครั้ง พร้อมกับอุทิศชัยชนะนี้ให้แก่พี่ชายอย่างเดวิดที่เสียชีวิตก่อนรายการนี้เพียงสามเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเพียงสองปีเท่านั้น เจ้าตัวก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากการขับรถจักรยานยนต์จนต้องเสียเท้าขวาไปพร้อมปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ทว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้กลับส่งผลแก่ลูกชายคนสำคัญของตระกูลมวยปล้ำนี้อย่างไม่มีใครคาดคิด ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978                หลังจากการผ่าตัดเท้าของเคอร์รี่นี้เองที่ทำให้อดีตแชมป์โลกต้องใช้ยาแก้ปวดจำนวนมากรวมถึงติดสารเสพย์ติดอีกด้วย จนกระทั่งในปี 1993 นั้นเขาจะถูกตำรวจจับในข้อหามีสารไว้ครอบครองและละเมิดคำสั่งที่เคยก่อไว้ในคดีครั้งแรกจนทำให้เขามีโอกาสติดคุกหลายปี ในที่สุดเคอร์รี่ก็เลือกที่จะจบชีวิตและตำนานของตระกูลมวยปล้ำไปอีกรายอย่างน่าเสียใจ

Continue Reading