ร็อดดี้ ไพเพอร์

ร็อดดี้ ไพเพอร์ ที่สร้างชื่อในวงการบังเทิงจากภาพยนต์สยองเรื่องเธย์ลีฟ

ชื่อของราว ร็อดดี้ ไพเพอร์ น่าจะเป็นนักมวยปล้ำตัวแสบของสมาคมชื่อดังอย่างดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูเอฟที่แฟนมวยปล้ำรุ่นใหญ่น่าจะจดจำกันได้ดี แต่ทว่านอกจากนี้จากเรื่องราวบนสังเวียนผ้าใบแล้วนั้น เจ้าตัวยังเคยมีโอกาสไปโลดแล่นในวงการบันเทิงมาแล้ว โดยเฉพาะในปลายยุค 80 ที่เจ้าตัวเริ่มเบนความสนใจไปสู่งานแสดงมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอย่างเรื่องเฮลคัมส์ทูฟรอกทาวน์หรือจะเป็นเธย์ลีฟที่ทำให้ร็อดดี้ ไพเพอร์หรือเจ้าของฉายาฮ็อตร็อดได้กลายเป็นนักแสดงสุดเท่ของภาพยนตร์สุดแปลกในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว                ช่วงที่ ร็อดดี้ ไพเพอร์ เริ่มจะหันไปสนใจด้านอื่นนอกจากการเป็นนักมวยปล้ำก็คือช่วงที่เขาได้จบบทบาทกับมิสเตอร์ทีหรือนักแสดงชื่อดังของเรื่องเอทีมในเวลานั้น ก่อนที่เขาจะได้กลับมาทิ้งท้ายเรื่องราวกับนักมวยปล้ำตัวแสบอีกคนในเวลานั้นอย่างเอเดรียน อดอนิสที่มีคาวบอยบ็อบ ออร์ตันอดีตคนสนิทย้ายไปอยู่กับอดอนิสด้วย ซึ่งผลก็ทำให้เขากลายเป็นฝ่ายธรรมะเอาเสียเอง พร้อมกับส่งท้ายช่วงเวลาการเป็นนักกีฬาอย่างเต็มตัวไปในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 3 โดยสามารถเอาชนะอดอนิสในกติกาเดิมพันผมและทำให้เอเดรียนต้องถูกโกนหัวไปในที่สุด หลังจากที่ ร็อดดี้ ไพเพอร์ ได้หันหลังจากการเป็นนักมวยปล้ำไปแล้ว         เขาก็มีโอกาสได้มาเข้าสู่วงการภาพยนตร์บ้าง จากผลงานของผู้กำกับชื่อดังอย่างจอห์น คาร์เพนเตอร์ที่ได้เลือกไพเพอร์มาแสดงในภาพยนตร์สยองขวัญชื่อว่าเธย์ลีฟที่ทำให้บทพระเอกของฮ็อตร็อดกลายเป็นภาพจำของคนรักภาพยนตร์เกรดรองไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประโยคเด็ดที่เขาพูดว่า ฉันมาที่นี่เพื่อเคี้ยวหมากฝรั่งและเล่นงานใครสักคน แต่ตอนนี้หมากฝรั่งของฉันหมดไปแล้ว ซึ่งประโยคเด็ดนี้ทางไพเพอร์เป็นผู้คิดขึ้นมาเองและกลายเป็นประโยคสุดเท่ของเจ้าตัวไปตลอดเลยทีเดียว                แม้ว่าร็อดดี้ ไพเพอร์จะยังคงหวนคืนวงการมวยปล้ำในฐานะ นักมวยปล้ำ และผู้จัดการให้คนอื่น ๆ บ้างก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หน้าตาของเขาได้ถูกจดจำผ่านแฟน ๆ ของภาพยนตร์สยองขวัญเกรดรองไปแล้วเช่นกัน รวมถึงตัวเขายังมีโอกาสได้แสดงซีรีย์หรือรายการโทรทัศน์มาตลอดจนเป็นอีกคนที่ประสบความสำเร็จนอกวงการนั่นเอง ติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวกีฬาอีกมากมายได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ และในวันนี้เรามีเว็บไซต์ของเกมกีฬาฟุตบอลมาให้ร่วมเล่นและวางเดิมพันได้ที่ 7slotvip เรามีทีมงานที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

Continue Reading
ซิดวิเชียส

ซิดวิเชียส จะได้ต้องขึ้นปล้ำในกติกาสี่เส้าเพื่อชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทของสมาคม

ในปลายยุค 90 ถึงต้น 2000 จัดว่าเป็นช่วงที่วงการมวยปล้ำมีความเผ็ดร้อนอยู่มาก ทั้งเรื่องเรตติ้งของสองสมาคมดังอย่างดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูและดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูเอฟในเวลานั้นพยายามขับเคี่ยวเพื่อความเป็นหนึ่งในโลก จนทำให้มักจะมีการตัดสินใจแปลก ๆ อยู่เสมอเพื่อทำให้คนหันมาสนใจรายการของตัวเองมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในการตัดสินใจครั้งเลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นกับนักมวยปล้ำที่ชื่อว่า ซิดวิเชียส ในรายการซิน โดยสาเหตุหลักก็เพราะความนิยมของสมาคมดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั้นตกลงไปมากจนพวกเขาต้องการความสดใหม่ในรายการพวกเขานั่นเอง                คู่เอกของค่ำคืนนั้นทาง ซิดวิเชียส จะได้ต้องขึ้นปล้ำในกติกาสี่เส้าเพื่อชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทของสมาคม ซึ่งในแมตช์จะมีทั้งซิด สก็อต สไตเนอร์ เจฟฟ์ จาเรตต์และนักมวยปล้ำปริศนาอีกคน แต่ในระหว่างที่สามคนแรกได้เริ่มต้นขึ้นสู้กันไปก่อนแล้วนั้น ก็มีจังหวะหนึ่งที่ซิดที่สูงเกือบ 2 เมตรและน้ำหนักกว่า 300 ปอนด์ได้ขึ้นไปยืนอยู่บนมุมเวทีและพยายามใช้ท่าถีบหรือบิ๊กบูทเข้าที่สไตเนอร์ แต่ด้วยน้ำหนักที่มากเกินไปของเขาทำให้ขาซ้ายที่ถึงพื้นเวทีก่อนของเขาไม่สามารถรับน้ำหนักทั้งหมดไว้ได้แต่หักเป็นสองท่อนทันที หลังจากที่ ซิดวิเชียส ได้แต่นอนบนเวทีเฉย  ๆ เพราะขาหักไปแล้ว รายการซินก็ต้องรีบตัดจบไป เมื่อทางสมาคมลงโร้ดวอริเออร์แอนิมัลมาเป็นนักมวยปล้ำคนที่สี่ในแมตช์และทำร้ายซิดซ้ำ ก่อนจะปล่อยให้สไตเนอร์เจ้าของตำแหน่งกดนับสามเอาชนะไป แต่สิ่งที่คนสนใจมากกว่านั้นก็คือซิดได้ออกมาเปิดเผยในภายหลังว่า ทางสมาคมได้กดดันให้เขาลองใช้ท่าเหินเวหาดูบ้างเพื่อไม่ให้การปล้ำดูน่าเบื่อเกินไป แม้ว่าซิดจะไม่เคยฝึกท่านี้มาก่อนเลยก็ตาม ก่อนที่เขาจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่นานและไม่อาจกลับมาเป็นนักมวยปล้ำได้เต็มเวลาอีกต่อไป                โชคดีที่ซิดวิเชียสยังสามารถกลับมาเดินหรือวิ่งได้ตามปกติ รวมถึงยังกลับมาสู่บนเวที มวยปล้ำ อยู่เป็นครั้งคราว แต่ความกระหายเรตติ้งของค่ายดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั้นก็วนกลับมาทำร้ายตัวเอง เมื่อจบรายการซินไปได้ไม่นาน สมาคมที่เคยเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ต้องปิดตัวลงไปอย่างน่าเสียดายในปี 2001 และปล่อยให้วงการมวยปล้ำซบเซาลงจนถึงปัจจุบัน ติดตามเรื่องราวของวงการมวยปล้ำที่ดุเดือดเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวกีฬาต่างประเทศ เกมกีฬาที่หลายคนสนใจในวันนี้มีออกมาเป็นรูปแบบของเกมให้เลือกเล่นมากมายที่เว็บไซต์ bslot89 […]

Continue Reading
สโตนโคลด์ สตีฟออสติน

สโตนโคลด์ สตีฟออสติน ที่มีโอกาสได้เป็นแชมป์เฮฟวี่เวทของสมาคมดับเบิลบูดับเบิลยูเอฟ

ข่าวกีฬาต่างประเทศในปี 1998 นั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองสำหรับ สโตนโคลด์ สตีฟออสติน ที่มีโอกาสได้เป็นแชมป์เฮฟวี่เวทของสมาคมดับเบิลบูดับเบิลยูเอฟเป็นครั้งแรกจากการเอาชนะชอว์น ไมเคิลส์ไปได้ แต่ทว่าหลังจากที่เขาได้ครองตำแหน่งแล้วนั้น ทางเจ้าตัวกลับไม่ยอมรับอำนาจของเหล่าผู้บริหารอย่างวินซ์ แมคแมนจนทำให้เขาเลือกที่จะต่อต้านรวมทั้งเอาเข็มขัดแชมป์โลกไปเปลี่ยนเป็นแนวของตัวเองอีกด้วย                เรื่องราวระหว่าง สโตนโคลด์ สตีฟออสติน กับวินซ์ แมคแมนเริ่มต้นขึ้นในปี 1997 หลังจากที่ออสตินได้รับบาดเจ็บจนเกือบพิการกลางเวทีทำให้ทางสมาคมจำเป็นต้องพักการปล้ำของเขาและไม่มอบสิทธิชิงแชมป์อินเตอร์คอนทิเนนทัลให้แก่เจ้าตัว จนกระทั่งออสตินจัดการแมคแมนด้วยท่าสตันเนอร์ โดยเป็นครั้งแรกที่ประธานของสมาคมโดนเล่นงานกลางเวทีอีกด้วย แต่ทว่าต่อมาออสตินก็กลับมาแข่งมวยปล้ำอีกครั้งและคว้าแชมป์โลกของสมาคมไปได้                เมื่อสโตนโคลด์ สตีฟออสตินกลายเป็นแชมป์สูงสุดและหน้าตาของสมาคมแล้วนั้น ทางวินซ์ แมคแมนก็ต้องการให้เขาเปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นตัวแทนของค่ายคนต่อไป แต่ทว่าเจ้าตัวไม่ยอมรับและเลือกจะเล่นงานทุกคนอย่างไม่ไว้หน้า ด้วยเหตุนี้เองทำให้ทางแมคแมนไม่มอบเข็มขัดเส้นสีน้ำเงินแบบปกติให้กับเขา โดยทางออสตินก็เลือกที่จะไปทำเข็มขัดแชมป์โลกใหม่เองและใช้หนังงูตามฉายาของเขาอย่างเจ้างูหางกระดิ่งนั่นเอง สโตนโคลด์ สตีฟออสติน กลายเป็นแชมป์สูงสุด                น่าเสียดายที่เหตุการณ์ของสโตนโคลด์ สตีฟออสตินกับเข็มขัดแชมป์โลก จะมีอายุสั้น เพราะว่าชะตาของแชมป์เส้นนั้นก็จบลงด้วยการโดนโยนลงแม่น้ำ โดยเดอะร็อคนักมวยปล้ำมาแรงอีกคนของสมาคมที่ต่อมาจะกลายเป็นคู่ปรับตลอดกาลของออสตินอีกด้วย

Continue Reading
ริโคเช่

ริโคเช่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นักของ ริโคเช่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ แม้ว่าเจ้าตัวจะสามารถคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาครองได้ในปี 2019 แต่ทว่าเขากลับไร้ทิศทางนับตั้งแต่นั้น จนมีหลายคนมองว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาได้อยู่ในรายการลูช่าอันเดอร์กราวด์ ซึ่งเขาได้รับบทบาทเป็นพรินซ์พูม่าหรือเจ้าชายเสือในฐานะพระเอกของรายการนั่นเอง                เนื่องจาก ริโคเช่ ได้สร้างชื่อเสียงของตัวเองในฐานะนักมวยปล้ำอิสระก็ตาม แต่การเปิดตัวสู่สายตาผู้ชมทั่วประเทศนั้นได้เริ่มต้นในรายการลูช่าอันเดอร์กราวด์ในปี 2014 ซึ่งพรินซ์พูม่าในเวลานั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้นปล้ำในฐานะนักมวยปล้ำระดับสูงของค่ายทันที ก่อนที่เขาจะกลายเป็นแชมป์ใหญ่ของสมาคมด้วยการเอาชนะในเอซเทค วอร์แฟร์ครั้งแรกได้นั่นเอง ก่อนที่เขาจะถือเข็มขัดเส้นนี้ไปจนถึงตอนจบของซีซั่นที่แรกเขาพ่ายแพ้ต่อมิล มูเออร์เตส                หลังจากที่ริโคเช่ภายใต้หน้ากากนั้นได้เสียแชมป์ไปแล้ว เจ้าตัวก็ได้มีเรื่องราวกับทางตำนานของวงการอย่างเรย์ มิสเตอร์ริโอ โดยทั้งคู่ได้จับคู่กันเพื่อคว้าแชมป์ทรีโอร่วมกับเอลดราก้อน เอซเทก้ามาได้ ก่อนที่ต่อมาทั้งสองจะท้าเจอกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งแทน ซึ่งสุดท้ายจะเป็นราชันย์แห่งวงการที่เอาชนะไปได้ จนกระทั่งในซีซั่นสุดท้ายนั้นเจ้าตัวจะขอท้าชิงแชมป์ลูช่าอันเดอร์กราวน์อีกครั้งพร้อมกับเอาอาชีพในสมาคมเป็นเดิมพันอีกด้วย ริโคเช่ ภายใต้หน้ากากนั้นได้เสียแชมป์ไปแล้ว                แน่นอนว่ากลายเป็นริโคเช่ที่พ่ายแพ้ไปพร้อมกับปิดฉากอาชีพในลูช่าอันเดอร์กราวด์อีกด้วย แม้ว่าเขาจะมีปัญหาเรื่องสัญญากับทางค่ายเดิมก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วช่วงเวลาที่เจ้าตัวกลายเป็นพรินซ์พูม่านั้นก็ถือว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนักมวยปล้ำคนนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากการเป็นนักมวยปล้ำที่เน้นการบินท่าสวยๆ ไปสู่การเล่าเรื่องบนเวทีแทน

Continue Reading
จอน มอกซ์ลีย์

จอน มอกซ์ลีย์ กับความสำคัญของแชมป์โลกเออีดับเบิ้ลยูของมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศเรียกได้ว่าเป็นชีวิตใหม่ของ จอน มอกซ์ลีย์ เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นแชมป์โลกประจำสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสก็อต ฟิชแมนจากทีวีอินไซเดอร์ว่าเข็มขัดที่เขาครอบครองอยู่นั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมากและเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับวงการมวยปล้ำ แม้ว่าทางโคดี้เพื่อนร่วมสมาคมของเขาจะประกาศว่าแชมป์ทีเอนทีที่เจ้าตัวเป็นแชมป์อยู่ก็สำคัญไม่แพ้กันก็ตาม                ในอาชีพของ จอน มอกซ์ลีย์ นั้นเขาถือว่าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ในสมาคมอิสระ เมื่อเข้าคว้าแชมป์ประจำสมาคมคอมแบตโซน ก่อนที่จะได้ย้ายไปสู่สมาคมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูอีพร้อมคว้าแชมป์สำคัญได้มากมายและเป็นแกรนด์สแลมหรือแชมป์หลักสี่เส้นจนจบอีกด้วย จนกระทั่งในปี 2019 ที่เขาตัดสินใจลาออกจากสมาคมและย้ายมาสู่ออลอีลีทเรสลิ่งจากคำเชิญชวนของคริส เจอริโก้นั่นเอง                หลังจากที่มอกซ์ลีย์ได้ย้ายมาสมาคมใหม่แล้วนั้น เขาก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะคว้าแชมป์โลกมาจากคริส เจอริโก้ได้ในรายการเรฟโวลูชั่นในช่วงต้นปี 2020 พร้อมทั้งป้องกันแชมป์จากนักมวยปล้ำมากมายไม่ว่าจะเป็นเจค เฮกเกอร์ มิสเตอร์โบรดี้ ลีหรือแลนซ์ อาร์เชอร์ โดยเขาได้มองว่าการทุ่มเทของเจ้าตัวนี้เองที่ทำให้เข็มขัดเส้นนี้กลายเป็นแชมป์ที่มีคุณค่ามากของวงการนี้และเขาก็ป้องกันตำแหน่งด้วยความภูมิใจเช่นกัน จอน มอกซ์ลีย์ นั้นเขาถือว่าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ในสมาคมอิสระ                แม้ว่าทางมอกซ์ลีย์จะชี้ชัดว่าเข็มขัดของเขาคือแชมป์โลกตัวจริงก็ตาม แต่ในสมาคมเดียวกันนั้นก็ยังมีเข็มขัดอย่างทีเอนที ซึ่งเป็นเส้นที่โคดี้เจ้าของตำแหน่งมองว่าเป็นเส้นที่สำคัญที่สุดในสถานีโทรทัศน์นั่นเอง แต่ทางจอนก็มองว่าเขาไม่สนใจที่จะมาทำสงครามข้อความกับโคดี้ผ่านทวิตเตอร์อย่างที่ฝ่ายหลังเขียนข้อความไว้นั่นเอง

Continue Reading
แชมป์เพียว

แชมป์เพียว เข็มขัดแสนบริสุทธิ์ของวงการมวยปล้ำสมาคมอาร์โอเอช

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับเป็นเสน่ห์ของวงการมวยปล้ำอย่างหนึ่ง สำหรับ แชมป์เพียว ของสมาคมอาร์โอเอชที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของเข็มขัดระดับกลาง โดยมีกติกาพิเศษอยู่สามข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสียแชมป์ได้ทุกวิธีซึ่งต่างออกไปจากแชมป์เส้นอื่นๆ ที่เจ้าของตำแหน่งจะเสียเข็มขัดเมื่อมีการทำฟาวล์หรืออยู่นอกเวทีจนกรรมการนับถึงสิบ แต่ทว่าเข็มขัดเส้นนี้ก็มีอายุได้เพียงสองปีเท่านั้นก่อนจะเกิดการรวมแชมป์ในเวลาต่อมา                สำหรับ แชมป์เพียว คนแรกของสมาคมอาร์โอเอชนั้นก็คือเอเจ สไตล์นักมวยปล้ำมากฝีมือนั่นเอง โดยเขาสามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดคนในทัวร์นาเมนท์ที่ต้องสู้ให้จบภายในค่ำคืนเดียว ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบปัญหาเรื่องสัญญากับสมาคมทีเอนเอจนทำให้เขาถูกปลดแชมป์ ก่อนที่จะเกิดการสร้างทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งและคราวนี้ก็เป็นยอดฝีมือจากอังกฤษอย่างดัก วิลเลี่ยมเอาชนะไปได้นั่นเอง                หลังจากที่ดัก วิลเลี่ยมได้เริ่มต้นเส้นทางของแชมป์เพียวอย่างเป็นทางการนั้น นักมวยปล้ำที่สร้างชื่อให้แก่เข็มขัดนี้ที่แท้จริงก็คือไนเจล แมคกินเนสนักมวยปล้ำจากประเทศอังกฤษอีกคนที่สามารถครองตำแหน่งได้นานมาถึง 350 วัน รวมทั้งป้องกันแชมป์ได้ทั้งสิ้น 16 ครั้ง ก่อนที่ต่อมาเขาจะมาแพ้ให้กับแมตช์รวมแชมป์ที่เจอกับไบรอัน เดเนี่ยลสันที่ครองแชมป์โลกในขณะนั้น ก่อที่สุดท้ายทางไบรอันจะยกเข็มขัดเส้นนี้ให้ไนเจลและยกเลิกการมีอยู่ของเส้นเพียวในที่สุด                แม้ว่าแชมป์เพียวจะถูกยุติไปนานถึง 14 ปีก็ตาม แต่สุดท้ายทางสมาคมอาร์โอเอชก็ได้นำเข็มขัดเส้นบริสุทธิ์นี้กลับมาอีกครั้ง โดยมีการจัดทัวร์นาเมนต์ทั้ง 16 คนเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนี้อีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทางโจนาธาน เกรแชมที่กลายเป็นผู้ชนะและเจ้าของตำแหน่งคนที่ 8 ของเข็มขัดเส้นนี้นั่นเอง

Continue Reading
แมตต์ ริดเดิ้ล

แมตต์ ริดเดิ้ล ซึ่งได้ย้ายไปอยู่สังกัดรอว์ในช่วงดราฟต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นปล้ำกับอดีตแชมป์โลก

เป็นการผลักดันที่แปลกประหลาดอยู่พอสมควร สำหรับกรณีของ แมตต์ ริดเดิ้ล ซึ่งได้ย้ายไปอยู่สังกัดรอว์ในช่วงดราฟต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นปล้ำกับอดีตแชมป์โลกอย่างเชมัสและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนทางวินซ์ แมคแมนเริ่มให้ความสนใจและต้องการจะผลักดันนักมวยปล้ำสายอาร์ทคนนี้ในอนาคตอันใกล้ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการถอดชื่อจริงอย่างแมตต์ ออกไปแบบที่แฟนๆ ยังคงไม่เข้าใจอีกด้วยติดต่ามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                แมตต์ ริดเดิ้ล นั้นได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการมวยปล้ำหลังจากที่เขาลาออกจากวงการศิลปะป้องกันตัวในปี 2014  โดยเขาได้เปิดตัวในการปล้ำครั้งแรกในปี 2015  พร้อมกับสร้างชื่อเสียงผ่านสมาคมอิสระต่างๆ อย่างอีโวฟและโปรเรสลิ่งเกอร์ริล่า ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกของเวิลด์เรสลิ่งเน็ตเวิร์กหนึ่งสมัยและแชมป์โลกของอีโวฟอีกหนึ่งสมัยด้วยกัน ก่อนที่ต่อมาเขาจะย้ายมาสู่ค่ายเอนเอกซ์ทีในปี 2018 `              หลังจากที่ริดเดิ้ลได้เข้ามาอยู่ในบริษัทของวินซ์ แมคแมนแล้ว เขาก็ได้เริ่มต้นในค่ายพัฒนาทักษะอย่างเอนเอกซ์ทีทันที โดยเขาเคยมีโอกาสได้ชิงแชมป์เอนเอกซ์ทีและแชมป์ทวีปอเมริกาเหนือ แต่ทว่าเขาไม่เคยประสบความสำเร็จเลย จนกระทั่งเปลี่ยนมาจับคู่กับพีท ดันน์และสามารถคว้าแชมป์แทคทีมของค่ายมาครอง ก่อนที่ต่อมาเขาจะถูกเรียกตัวขึ้นมาปล้ำในค่ายสแมคดาวน์ที่กำลังมาแรงแทน                ด้วยการขึ้นไปสู่ค่ายที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ทางริดเดิ้ลถูกตัดชื่อแมตต์ออกไปในที่สุด เนื่องจากทางวินซ์ แมคแมนต้องการจะให้เขามีบทบาทที่จริงจังมากขึ้น รวมทั้งเรื่องราวของสังเวียนที่เขามีข่าวพัวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศกับนักมวยปล้ำหญิงจนโดนฟ้องอยู่อีกด้วย

Continue Reading
แชด เกเบิ้ล

แชด เกเบิ้ล อดีตแชมป์แทคทีมของค่ายสแมคดาวน์และเอนเอกซ์ทีคู่กับเจสัน จอร์แดนในนามว่าอเมริกัน อัลฟ่า

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้ถือเป็นนักมวยปล้ำมากความสามารถอีกหนึ่งคนสำหรับช็อตตี้จีหรือ แชด เกเบิ้ล ซึ่งเป็นอดีตแชมป์แทคทีมของค่ายสแมคดาวน์และเอนเอกซ์ทีคู่กับเจสัน จอร์แดนในนามว่าอเมริกัน อัลฟ่า แต่ทว่าหลังจากที่ทั้งสองคนถูกแยกทีมกันแล้ว ทางนักมวยปล้ำโอลิมปิคร่างเล็กคนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เฉิดฉายในสมาคมอีกเลย อีกทั้งถูกเปลี่ยนชื่อให้กลายเป็นช็อตตี้จีจนกลายเป็นตัวตลกในสายตานักมวยปล้ำอีกด้วย                อาชีพของ แชด เกเบิ้ล ในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์ก็ได้เริ่มจากค่ายพัฒนาทักษะอย่างเอนเอกซ์ทีที่ค่อยปั้นนักมวยปล้ำดาวรุ่งเพื่อนำไปต่อยอดในรายการใหญ่อย่างรอว์และสแมคดาวน์ ซึ่งทางแชดกับคู่หูอย่างเจสัน จอร์แดนก็ได้ร่วมทีมกันในชื่ออเมริกัน อัลฟ่าที่ประสบความสำเร็จในการชิงแชมป์แทคทีมกับรีไววัลคู่แข่งในรายการเอนเอกซ์ทีเทคโอเวอร์ดัลลาส ก่อนที่จะเสียแชมป์คืนในปี 68 วันต่อมา                หลังจากนั้นทางอเมริกันอัลฟ่าก็ได้เรียกตัวขึ้นสู่ค่ายสแมคดาวน์ โดยพวกเขากลายเป็นหนึ่งในแทคทีมระดับสูงของลีก ก่อนที่ในรายการสแมคดาวน์ส่งท้ายปี 2016 นั้นแชด เกเบิ้ลกับเจสัน จอร์แดนจะคว้าแชมป์แทคทีมประจำค่ายมาได้อีกครั้ง ก่อนที่ต่อมาไม่นานทีมอเมริกันอัลฟ่าจะจบลงไป เมื่อจอร์แดนถูกย้ายไปรอว์ เหลือแต่เขาเพียงคนเดียว ก่อนที่จะมีบทกลายเป็นช็อตตี้จีที่มีเรื่องราวกับบาร่อน คอร์บิ้นแทน อาชีพของ แชด เกเบิ้ล ในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์                หลังจากที่ช็อตตี้จีแพ้ให้กับนักมวยปล้ำหน้าใหม่อย่างลาร์ ซูลิแวนนั้น เจ้าตัวก็ขอลาออกกลางเวทีเลยทีเดียว ก่อนที่เขาจะไปอธิบายที่หลังฉากว่า เขาจะกลับมาชื่อแชด เกเบิ้ลอีกครั้งและต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเขานั้นมีฝีมือมากพอ โดยเจ้าตัวเคยโชว์ผลงานปล้ำเดี่ยวให้เห็นอยู่เป็นระยะอีกด้วย

Continue Reading
ดรูว์ แมคอินไตย์

ดรูว์ แมคอินไตย์ ที่ต้องเอ่ยปากว่าเขากลัวอย่างมากในการปล้ำครั้งหนึ่งในกรงเหล็กนรก

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้คงเป็นเรื่องเสียหน้าไม่น้อยสำหรับแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง ดรูว์ แมคอินไตย์ ที่ต้องเอ่ยปากว่าเขากลัวอย่างมากในการปล้ำครั้งหนึ่งในกรงเหล็กนรกจากรายการเฮลอินอะเซลเมื่อปี 2018 ที่เจ้าตัวจะต้องมาช่วยเพื่อนร่วมทีมอย่างบรอน สโตรแมนในแมตช์ชิงแชมป์ยูนิเวอร์ซัล ก่อนที่แมตช์จะจบลงไปอย่างไม่มีใครคาดคิดเพราะการปรากฏตัวอีกครั้งของบร็อค เรสเนอร์ที่เป็นอดีตแชมป์โลกนั่นเอง                สำหรับเรื่องราวของ ดรูว์ แมคอินไตย์ ในขณะนั้น เขายังคงเป็นนักมวยปล้ำระดับกลางที่ร่วมทีมกับดอล์ฟ ซิกเลอร์และบรอน สโตรแมนเพื่อต่อกรกับกลุ่มเดอะชีลด์ที่มีอดีตแชมป์โลกทั้งสามคนอย่างโรมัน เรนส์ เซ็ธ โรลินส์และดีน แอมโบรส โดยช่วงเวลานั้นทางสโตรแมนได้เป็นผู้ถือสิทธิมันนี่อินเดอะแบงค์และสามารถเลือกชิงแชมป์โลกเมื่อใดก็ได้ตามต้องการ ก่อนที่เขาจะเลือกเจอกับเรนส์เจ้าของตำแหน่งในรายการเฮลอินอะเซล ในเวลาต่อมา                แม้ว่ากติกาจะถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้ใครมาเกี่ยวข้องกับแมตช์ก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วทางดรูว์ แมคอินไตย์กับดอลฟ์ ซิกเลอร์ก็ต้องออกมาช่วยเพื่อนร่างยักษ์ของเขาในกรงเหล็กนรกจนได้ ซึ่งในตอนนั้นอาทางโรลินส์กับซิกเลอรืก็ได้อัดกันจนตกกระแทกโต๊ะผู้บรรยายจนพัง ส่วนดรูวกับแอมโบรสก็ขึ้นไปสู้กันถึงยอดกรง โดยฝ่ายแรกได้ออกมายอมรับว่าเขาเกือบจะตกมาจากหลังคาเพราะร่างกายที่ใหญ่เกินไปนั่นเอง สุดท้ายแล้วทาง ดรูว์ แมคอินไตย์ กับดอลฟ์ ซิกเลอร์ก็ต้องออกมาช่วยเพื่อนร่างยักษ์                แต่สุดท้ายแล้วแมตช์ที่ว่านี้ก็จบลงด้วยการที่บร็อค เลสเนอร์เข้ามาพังกรงเหล็กนรกนี้และเล่นงานทั้งบรอนและเรนส์จนไม่มีผลตัดสิน ซึ่งในอีกสองปีต่อมานั้น ก็เป็นทางดรูว์ แมคอินไตย์นี้เองที่จะมาต่อกรกับเลสเนอร์และคว้าแชมป์โลกจากเขามาครองเป็นสมัยแรกในปี 2020 อีกด้วย

Continue Reading
คริส สแตทแลนเดอร์

คริส สแตทแลนเดอร์ ที่ต้องได้รับอาการบาดเจ็บระหว่างขึ้นในรายการ

เป็นข่าวร้ายในวงการข่าวกีฬาต่างประเทศสำหรับนักมวยปล้ำหญิงดาวรุ่งอย่าง คริส สแตทแลนเดอร์ ที่ต้องได้รับอาการบาดเจ็บระหว่างขึ้นในรายการไดนาไมต์ของสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งจนต้องพักการปล้ำยาวถึงแปดเดือน โดยเจ้าตัวอาจจะกลับมาได้อีกครั้งในปีหน้าที่น่าจะเป็นช่วงเดียวกับรายการใหญ่ดับเบิ้ลออร์นอทธิงเลยทีเดียว ซึ่งเธอได้ออกมาเปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บและช่วงเวลาที่เธอเข้าสู่ค่ายมวยปล้ำที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ผ่ายรายการของเรสลิ่งอิงค์เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา                สำหรับอาชีพนักมวยปล้ำหญิงคนนี้เริ่มต้นในปี 2016 โดย คริส สแตทแลนเดอร์เคยปรากฎตัวในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์มาแล้วในเดือนเมษายนปี 2019 จากการชิงแชมป์แทคทีมหญิงที่เธอต้องเจอกับดิไอคอนนิคส์อีกด้วย แต่ทว่าการก้าวไปสู่สายตาของแฟนมวยปล้ำระดับโลกเกิดขึ้นในสมาคมออลอีลีทเรสลิ่ง หลังจากที่เธอเปิดตัวในแมตช์ที่สแตทแลนเดอร์เอาชนะบริท เบเกอร์จนกลายเป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งนั่นเอง                แม้ว่าเส้นทางการเป็นแชมป์จะยังมาไม่ถึงสำหรับนักมวยปล้ำหญิงจากนิวยอร์กคนนี้ หลังจากที่เธอทำได้แค่เพียงแพ้ต่อริโฮะเจ้าของตำแหน่งในขณะนั้นเพราะมีคนอื่นเข้ามาหันเหความสนใจในแมตช์ ก่อนที่ต่อมาเธอจะกลายเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงของลีกหญิงค่ายออลอีลีทเรงลิ่งในช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่ทว่าอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่เธอได้รับในแมตช์แทคทีมที่มีเธอกับฮิคารุ ชิดะที่ขึ้นสู้ต่อไนล่า โรสและบริท เบเกอร์จะทำให้นักมวยปล้ำสองคนได้รับบาดเจ็บทันที คริส สแตทแลนเดอร์ เคยปรากฎตัวในสมาคมยักษ์ใหญ่                หลังจากที่คริส สแตทแลนเดอร์เข้ารับการผ่าตัดและทำกายภาพบำบัดอยู่นานถึงสี่เดือน เธอก็ได้เปิดเผยว่า แฟนๆ น่าจะกลับมาเห็นนักมวยปล้ำหญิงคนนี้กลับมาอีกครั้งภายในกลางปีหน้าหรืออีกแปดเดือนนั่นเอง ซึ่งอาการบาดเจ็บที่มาจากการใช้ท่าเหินเวหานั้นกลับทำร้ายเธอมากกว่าที่คิดไว้มากกว่าที่คาดเอาไว้อีกด้วย

Continue Reading